พื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปทางตอนใต้กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงและเป็นอันตราย ทำให้ในยุโรปมีอุณหภูมิเพิ่มสูงถึง 30 องศาเซลเซียส และทางตอนใต้ของเยอรมนีมีอุณหภูมิเพิ่มสูงแตะ 39 องศาเซลเซียส แพทย์ในเยอรมนีจึงออกมาเรียกร้องให้แรงงานในประเทศ มีการนอนกลางวัน (Siestas) เพื่อรับมือกับอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นและรักษาประสิทธิภาพในการทำงาน
ซึ่ง Siestas หรือการนอนกลางวันเป็นวัฒนธรรมของสเปน ประเทศที่มีอากาศร้อนตั้งอยู่ยุโรปทางตอนใต้ วัฒนธรรมนี้เริ่มต้นมาจากการให้คนงานที่ทำเกษตรได้พักผ่อนในช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนและประหยัดพลังงาน แต่ชาวสเปนก็ทำต่อกันมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นวัฒนธรรมและกระจายไปยังอาชีพอื่น ๆ
Johannes Niessen หัวหน้าสมาคมแพทย์แห่งกรมสาธารณสุขเยอรมนี (BVÖGD) เผยว่า เมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นเราควรปรับตัวโดยใช้วิธีที่ผู้คนในประเทศแถบร้อนทำอย่าง Siestas คือ การตื่นเช้าเพื่อมาทำงาน เพราะอากาศยังไม่ร้อนมาก จากนั้นพักหรืองีบหลับในช่วงกลางวัน เพราะเป็นช่วงที่ร้อนที่สุด เพื่อประหยัดพลังงานและหลีกเลี่ยงความร้อน
เพราะคนเราจะรู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่าเมื่ออากาศร้อน ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลงไปด้วย แพทย์จึงเชื่อว่าการนำวิธี Siestas มาใช้ในช่วงฤดูร้อนจะช่วยให้พนักงานรับมือกับอากาศร้อนจัดได้ดีขึ้นและยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่เยอรมนีกำลังเผชิญ คือ นายจ้างชาวเยอรมันไม่เข้าใจ และละเลยความเสี่ยงที่พนักงานอาจได้รับจากอากาศร้อนจัด ทำให้ทั้งสมาคมแพทย์และสมาชิกคณะกรรมการของสมาพันธ์สหภาพแรงงานเยอรมัน (DGB) ออกมาเรียกร้องให้นายจ้างจัดหาแนวทางที่ทำให้พนักงานปลอดภัยและสะดวกสบายขึ้น
สิ่งที่สมาคมแพทย์แนะนำ เช่น ควรจัดหาพัดลมให้เพียงพอ และอนุญาตให้พนักงานสวมเสื้อผ้าที่เบาสบาย แม้ว่าสำนักงานจะมีกฎเกี่ยวกับการแต่งกายก็ตาม รวมถึงดูแลให้พนักงานมีน้ำดื่มที่เพียงพอ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
นอกจากนี้ตัวแทนสหภาพแรงงานยังเน้นยำไปถึงนายจ้างว่า พวกเขาต้องหมั่นตรวจสอบว่าพนักงานมีความเป็นอยู่ที่ดี ควรจัดหาแนวทางป้องกันและช่วยเหลือพนักงานจากอากาศที่ร้อนจัด เพราะพนักงานอาจเกิดปัญหาด้านสุขภาพได้หากไม่ได้รับการจัดการที่ดีพอ
อ้างอิง: theguardian, dw.com
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด