Google เปิดตัว Gemini โมเดล AI ที่ทรงพลังที่สุดจาก Google ก้าวสำคัญในการพัฒนา AI ด้วยความสามารถหลากหลาย และพร้อมก้าวเป็นคู่แข่งที่สมศักดิ์ศรีของ OpenAI

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีทุกครั้งถือเป็นเป็นโอกาส ทั้งสามารถเร่งความก้าวหน้าของมนุษย์ และปรับปรุงการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นได้ เช่นเดียวกับ AI ที่มีความสามารถทรงพลังมากที่สุดในขณะนี้ Google จึงได้เปิดตัว Gemini โมเดล AI ที่มีความสามารถสูงสุดของ Google สู่โอกาสครั้งใหม่ที่จะทำให้ AI มีประโยชน์สำหรับทุกคนบนโลก

Gemini มาพร้อมความสามารถอันทรงพลัง

Gemini ถูกสร้างให้เป็น multimodel โดยได้รับการฝึกอบรมล่วงหน้าตั้งแต่เริ่มต้นในรูปแบบต่าง ๆ และปรับแต่งด้วยข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น สิ่งนี้ช่วยให้ Gemini เข้าใจและให้เหตุผลเกี่ยวกับข้อมูลทุกประเภทได้อย่างราบรื่น ความสามารถโดดเด่นของ Germini มีดังต่อไปนี้

• ให้เหตุผลที่ซับซ้อนได้ดีเยี่ยม  —   Germini ได้รับการออกแบบให้ความสามารถในการให้เหตุผลหลายรูปแบบที่ซับซ้อน ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อนได้ สามารถดึงข้อมูลเชิงลึกจากเอกสารจำนวนมากผ่านการอ่าน การกรอง และทำความเข้าใจข้อมูลได้อย่างดีเยี่ยม
• เข้าใจข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ — Gemini ออกแบบให้จดจำและเข้าใจข้อความ รูปภาพ เสียง และอื่น ๆ อยากหลากหลาย ดังนั้นจึงสามารถเข้าใจข้อมูลรายละเอียดปลีกย่อยได้ดีเยี่ยม และสามารถตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่ซับซ้อนได้ ทำให้สามารถอธิบายการใช้เหตุผลในวิชาที่ซับซ้อน เช่น คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ได้ดีเป็นพิเศษ
• เชี่ยวชาญการ Coding ขั้นสูง — Gemini สามารถเข้าใจ อธิบาย และสามารถสร้างโค้ดคุณภาพสูงในภาษา Programming ยอดนิยม เช่น Python, Java, C++ และ Go ได้

ออกแบบมาครบทุกการใช้งานในทุกผลิตภัณฑ์

Gemini ออกแบบมามีความยืดหยุ่นมากสูงในการใช้งาน โดยสามารถรันบนทุกสิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ศูนย์ข้อมูลไปจนถึงอุปกรณ์มือถือ Gemini รุ่น 1.0 นี้ ได้เปิดตัวออกมาสามรุ่นตามลักษณะการใช้งาน:

• Gemini Ultra — โมเดลที่ใหญ่ที่สุดและมีความสามารถมากที่สุดสำหรับงานที่มีความซับซ้อนสูง ออกแบบมาสำหรับศูนย์ข้อมูลและแอปพลิเคชันระดับองค์กรเป็นส่วนใหญ่
• Gemini Pro — โมเดลขนาดกลาง มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับการใช้งานหลากหลายสเกล
• Gemini Nano — โมเดลขนาดเล็กที่สุด รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับงานบน Android 

ปัจจุบัน Google ได้เริ่มใช้งาน Gemini แต่ละโมเดลในบริการบางประเภท เช่น Bard ขับเคลื่อนโดย Gemini Pro ใน 170 ประเทศทั่วโลก ซึ่งสามารถใช้งานได้แค่ภาษาอังกฤษในปัจจุบันนี้ โดยภาษาอื่น ๆ จะตามมาไม่ช้า และ Pixel 8 Pro จะได้รับฟีเจอร์ใหม่ด้วย Gemini Nano 

นักพัฒนาและผู้ใช้ระดับองค์กรจะสามารถใช้งาน Gemini Pro ผ่านทาง Google Generative AI Studio หรือ Vertex AI ใน Google Cloud ได้ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม และในส่วน Gemini Ultra คาดว่าจะเปิดตัวในปีหน้า

พร้อมชน GPT-4 ของ OpenAI

Gemini ถูกเปรียบเทียบกับ GPT-4 ของ OpenAI และ Google และจากการทดสอบเกณฑ์มาตรฐาน พบกว่า 30 จาก 32 ข้อ ของ Gemini เหนือกว่า GPT-4 ของ OpenAI เนื่องจากได้รับการออกแบบมาให้จัดการข้อมูลที่หลากหลาย ตั้งแต่ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และเสียง ทำให้ Gemini ได้เปรียบได้ด้านเปรียบเป็นพิเศษในการทำความเข้าใจข้อมูล รวมถึงการโต้ตอบกับวิดีโอและเสียง

Sundar Pichai ซีอีโอของ Google และ Demis Hassabis ซีอีโอของ Google DeepMind กล่าวว่า Gemini เป็นโมเดลที่มีความสามารถมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ซึ่งจุดมุ่งหมายของ Gemini คือการทำให้ AI รู้สึกเป็นเหมือน Software น้อยลง แต่ให้เป็นเหมือนผู้ช่วย ผู้เชี่ยวชาญที่มีประโยชน์และใช้งานได้ง่ายมากขึ้น 

การเปิดตัว Gemini ถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการพัฒนา AI ถึงอาจจะยังไม่ทำให้ Google เปลี่ยนแปลงโลกได้ตามเป้าหมาย แต่อาจช่วยให้ตามทันเทคโนโลยีของ OpenAI ในการแข่งขันเพื่อสร้าง gen AI ที่ทรงพลังมากกว่าปัจจุบันนี้ และ Gemini จะกลายเป็นอนาคตของ Google ที่ยังไม่สายเกินไป

อ้างอิง: theverge, blog.google