GORSANG 6 ถอดแนวคิดและเครื่องมือเทคฯ ชี้ทางรอดธุรกิจก่อสร้าง-อสังหาฯ ในยุคผันผวน

งานสัมมนา GORSANG 6 : Tech-Powered Survival ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา มาในคอนเซ็ปต์ ‘พลังแห่งเทคโนโลยีที่จะช่วยให้เรารอดในยุคเศรษฐกิจผันผวน’ โดยได้รวบรวมเหล่าสปีคเกอร์แนวหน้ากว่า 10 ท่าน มาแชร์ไอเดียและประสบการณ์ตลอดทั้ง 7 เซสชัน ภายในงานยังมีบูทแสดงโซลูชันจากพาร์ทเนอร์ ซึ่งร่วมกันนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ

งานนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ สามารถดึงผู้นำในวงการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ลงทะเบียนร่วมงานกว่า 480 คน จาก 278 บริษัท  หัวใจหลักของงานนี้คือการย้ำให้ทุกคนเห็นภาพชัด ๆ ว่า 'เทคโนโลยีไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด' โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนแบบนี้ ซึ่งภายในงาน ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้นำในวงการได้มาแชร์ประสบการณ์จริง และได้รับทั้งแนวคิดและเครื่องมือที่เอาไปปรับใช้ได้จริง ๆ กลับไป

ถอด 6 กลยุทธ์ ‘ต้องรอด’ สร้าง Impact ธุรกิจ จาก 6 ผู้เชี่ยวชาญ

เวทีเสวนาครั้งนี้ ได้แชร์แนวคิดสำคัญ ๆ โดยถอดรหัสกลยุทธ์การปรับตัวจาก 6 ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งสร้างผลกระทบต่อวิธีคิดของผู้เข้าร่วมงานในมิติต่าง ๆ ดังนี้

1. ด้านการตรวจสอบภายใน คุณสุธี ตาณวาณิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอ ซิกเนเจอร์ จำกัด ชี้ให้เห็นว่า ‘การอยู่รอดคือการไม่รั่วไหล’ ที่หมายถึงการป้องกันการรั่วไหลของทรัพยากรและรายได้ ผลกระทบคือการกระตุ้นให้ธุรกิจรับเหมาหันมาให้ความสำคัญกับการวางระบบตรวจสอบภายในที่รัดกุม เพื่ออุดรูรั่วด้านรายได้, BOQ, สต็อก และการจัดซื้อ ซึ่งจำเป็นมากสำหรับความยั่งยืนและการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ (IPO)

2. ด้านการปรับโมเดลธุรกิจ คุณณัฐนนท์ ศรีสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัททา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด สะท้อนภาพการปรับตัวของอสังหาฯ ที่ชัดเจน คือการเปลี่ยนจาก ‘การขาย’ สู่ ‘การเช่า’ ทั้งระยะสั้นและยาว เพื่อสร้างกระแสเงินสดในสภาวะที่การขายยากขึ้น สร้างผลกระทบให้ผู้พัฒนาโครงการเห็นโอกาสใหม่ในการตอบสนองความต้องการเฉพาะกลุ่ม

3. ด้านการบริหารต้นทุน คุณจารุวัตร จีระมานะพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท จีระธนา ก่อสร้าง จำกัด ได้ให้แนวคิดสำหรับผู้รับเหมารายเล็กว่าต้องสู้ด้วย ‘ความคล่องตัว’ และ ‘การ Lean’ โดยใช้ ERP วิเคราะห์จุดที่ลดต้นทุนได้จริง เพื่อให้สามารถแข่งขันด้านราคาได้ในตลาดที่ดุเดือด

4. ด้านประสิทธิภาพการดำเนินงาน คุณปพัทธ์ อัญชุลีประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท เอโซลาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จากธุรกิจ โซลาร์เซลล์ ชี้ว่าในตลาดที่ ‘แดงเดือด’ หัวใจสำคัญคือความเร็วและประสิทธิภาพ การนำ ERP (เช่น โมดูล PPN, QCM) มาใช้ ช่วยยกระดับการตรวจสอบและส่งมอบงานจากเดิม 1-2 วัน เหลือไม่ถึงชั่วโมง ทำให้เห็นว่าเทคโนโลยีเฉพาะทางช่วยบริหารจัดการโครงการจำนวนมากได้จริง

5. ด้าน ERP และอนาคต นพ. เชิดศักดิ์ อัมพรสุขสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด ตอกย้ำว่า ERP คือสิ่งที่ ‘ต้องมี’ ไม่ใช่ทางเลือก เพื่อเป็นรากฐานของกระบวนการคิดและปิดจุดรั่วไหล ขณะเดียวกัน AI และ BIM คืออนาคต โดยชี้ว่าเราจะถูก Disrupt จากคนที่ใช้เทคโนโลยี และจะสร้างแรงกระเพื่อมให้องค์กรต้องเร่งปรับตัว

6. ด้านการเชื่อมโยง BIM เข้ากับ ERP คุณชัชวาล วรศรีหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย บิม ยูสเซอร์ จำกัด ชี้เป้าไปที่การประหยัดต้นทุนที่แท้จริง คือการเชื่อมข้อมูล BIM เข้ากับ ERP เพื่อให้ข้อมูลไหลจากแบบ (3D) สู่การจัดซื้อ (ERP) โดยอัตโนมัติ ลดความซ้ำซ้อนและประหยัดเวลาทำงาน

การใช้โซลูชัน Mango ERP

นอกเหนือจากแนวคิดแล้ว งาน GORSANG 6 ยังได้ นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ของ Mango Software ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ถูกพัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาในอุตสาหกรรมโดยตรงและจะส่งผลต่อการทำงานจริงในด้านต่างๆ ดังนี้

1. การบริหาร Cash Flow

ฟีเจอร์นี้สำคัญมาก เพราะช่วยให้ผู้บริหารรู้สถานะการเงินจริง ๆ ทำให้คุมเงินได้ดีขึ้น ในด้าน Inflow ระบบจะช่วยตามหนี้ว่าลูกหนี้คนไหนค้างจ่ายนานแค่ไหน และยังคาดการณ์ได้ด้วยว่าลูกหนี้อาจจะเลื่อนจ่ายไปถึงเมื่อไหร่ ทำให้รู้ยอดเงินเข้าที่ใกล้เคียงความจริง ส่วน Outflow ระบบช่วยให้วางแผนได้ว่าจะจ่ายเงินเจ้าหนี้เมื่อไหร่ และยังดึงข้อมูล PO หรือ WO ที่ยังค้างอยู่ มาช่วยคำนวณรายจ่ายที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้

2. ระบบอัตโนมัติ ช่วยลดงานเอกสาร

ฟีเจอร์นี้จะช่วยลดงานซ้ำซ้อน อย่างแรกคือ Mango OCR ที่ช่วยฝ่ายบัญชีทำงานเร็วขึ้น ระบบจะสแกนใบกำกับภาษีหรือใบแจ้งหนี้ แล้วเอาไปเช็ก กับ PO เพื่อสร้างรายการตั้งหนี้ (APV) ให้อัตโนมัติ ช่วยลดเวลาคีย์ข้อมูลและลดข้อผิดพลาด ส่วนอีกฟีเจอร์คือ Mango AI Assistant ที่ช่วยให้ผู้บริหารเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น แค่พิมพ์คำถามเหมือนแชท เช่น ‘สต็อกตัวไหนค้างเกิน 90 วัน’  AI ก็จะสรุปข้อมูลเป็น Dashboard ให้ทันที ทำให้เห็นภาพรวมและตัดสินใจได้เร็ว

3. เรื่องความยั่งยืนและ AI

อย่างแรกคือ N-Carbon ที่ช่วยธุรกิจจัดการเรื่อง Carbon Footprint โดยจะดึงข้อมูลจาก ERP มาคำนวณและติดตามว่าปล่อยคาร์บอนไปเท่าไหร่ ช่วยให้บริษัทรับมือกับกฎหมายสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมี PPN & QCM ที่ใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงของโครงการต่าง ๆ คอยแจ้งเตือนถ้าเห็นว่างานมีแนวโน้มจะช้าหรือใช้งบเกิน และยังมีระบบ QC ไว้ช่วยประเมินผลงานของผู้รับเหมาด้วย ทำให้ผู้บริหารติดตามคุณภาพและความคืบหน้าของงานได้

4. ทำให้ ERP ทำงานได้ครบวงจรขึ้น

ส่วนนี้เป็นการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามา เพื่อให้ ERP ทำงานได้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น CSM สำหรับงานแจ้งซ่อมหรือบริการหลังการขาย, Tenancy สำหรับงานบริหารการเช่า และ Time Attendance สำหรับตอกบัตรพนักงานตามไซต์งาน

สรุป

งาน GORSANG 6: Tech-Powered Survival ประสบความสำเร็จในการเป็นเวทีสำคัญแห่งปีของวงการก่อสร้างและอสังหาฯ โดยเน้นย้ำว่า 'เทคโนโลยีคือทางรอด' ของธุรกิจในยุคนี้ นอกจากแนวคิดแล้วงานนี้ยังได้นำเสนอ ‘เครื่องมือ’ ที่เป็นซอฟต์แวร์สำหรับแก้ปัญหาการทำงานจริง เช่น การบริหารกระแสเงินสด, การลดงานเอกสารด้วย OCR/AI, และการเตรียมพร้อมสำหรับเทคโนโลยีอนาคต (BIM หรือ N-Carbon) งานนี้มีผู้เข้าร่วมจาก 278 องค์กร ที่ได้มารับฟังแนวคิดและกลยุทธ์เหล่านี้ เพื่อนำไปปรับใช้ให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตต่อไป