ครม. เศรษฐกิจ เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ชุดที่ 1
ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบหลักการมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ-ประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19 ประกอบด้วย 4 มาตรการการเงิน 4 มาตรการภาษีสำหรับผู้ประกอบการ-สนับสนุนเงินสำหรับการใช้จ่ายแก่ผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เตรียมเสนอ ครม.พิจารณา
วันนี้ (6 มี.ค.63) เวลา 12.15 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม. เศรษฐกิจ) ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานฯ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีความรุนแรงมากและยังไม่ถึงจุดสูงสุด ขณะนี้ส่งผลกระทบรุนแรงทั่วโลก ในทุกภาคส่วน ไม่ใช่แค่ภาคการท่องเที่ยวเท่านั้น ยังกระทบไปถึงภาคการผลิตและบริการ
ซึ่งกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องได้หารือร่วมกันและติดตามสถานการณ์นี้โดยตลอด โดยคิดว่าถึงเวลาที่ควรจะมีมาตรการออกมาเป็นชุดที่หนึ่งออกมา แล้วจะมีการประเมินว่ายังขาดตรงไหน ตรงไหนมีประสิทธิผลมากกว่า และจะมีมาตรการตามออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งจะมีการใช้เงินอย่างระมัดระวัง และให้ครอบคลุมหลาย ๆ ส่วน สิ่งที่สำคัญมากในขณะนี้คือผู้ประกอบการทั้งหลายกำลังได้รับผลกระทบค่อนข้างมากโดยเฉพาะ SME เมื่อภาคการผลิตและการบริการได้รับผลกระทบ ก็ส่งผลถึงการจ้างงานถึงประชาชนทั่วไป
ฉะนั้น ครม.เศรษฐกิจในวันนี้จึงได้พิจารณาในหลักการของมาตรการชุดที่หนึ่ง โดยการให้เงินช่วยเหลือเป็นแค่เพียงเสี้ยวเดียว ภาวะยามนี้เป็นภาวะที่ประเทศกำลังเผชิญปัญหา วันนี้กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และทุกฝ่ายมีเอกภาพเป็นหนึ่งเดียวกัน วาระที่เข้า ครม.เศรษฐกิจวันนี้ผ่านการกลั่นกรองเรียบร้อยแล้ว และไม่ใช่ว่าออกมาแล้วจบ เป็นเพียงชุดที่หนึ่งในช่วงเวลานี้ วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นยังไม่สามารถยืนยันได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของโลก ฉะนั้นพวกเราต้องช่วยกัน ทั้งนี้ สถานการณ์โลกขณะนี้ เราทำนายไม่ได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมากไปกว่านี้อีก เพื่อความรอบคอบ กระทรวงการคลังจะหารือกับสำนักงบประมาณ ดูระเบียบกฎเกณฑ์ เพื่อจัดตั้งกองทุนเพื่อใช้ช่วยเหลือผ่อนคลายภาระต่าง ๆ ที่จำเป็นในอนาคต เช่น กรณีมีคนตกงาน จะต้องมีการฝึกฝน อบรมเพื่อให้เขาสามารถอยู่รอดต่อไปได้ เป็นต้น
ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่า มาตรการที่นำเสนอวันนี้ เพื่อดูแลและเยียวยาให้ครอบคลุมที่สุด โดยร่วมกันคิดมาตรการที่ทันการณ์ ตรงเป้าหมาย มีน้ำหนัก โดยมาตรการชุดแรกเป็นมาตรการชั่วคราวเท่าที่จำเป็น ครอบคลุมกลุ่มผู้ประกอบการและประชาชน เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้ประชาชน ซึ่งจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะเริ่มอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบได้ภายในเดือนเมษายน 2563
โดยมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการจะมีมาตรการ 2 ด้าน คือ มาตรการด้านการเงิน และมาตรการด้านภาษี
โดยมาตรการด้านการเงิน จะมี 4 เรื่อง ประกอบด้วย
ส่วนมาตรการด้านภาษี ประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่ารัฐบาลยังมีมาตรการอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ประกอบด้วย
นอกจากนี้ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กรรมการและเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม 63 เติบโตได้ต่ำกว่าปกติในหลายด้าน ทั้งเรื่องการลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ การท่องเที่ยว การส่งออกที่ยังติดลบ ส่งผลทำให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาส 1/63 เติบโตได้ต่ำกว่าคาดการณ์พอสมควร และจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจทั้งปี 63 ทั้งนี้ ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ขยายความรุนแรงมากขึ้น จากเดิมประเมินว่าจะจบใน 3 เดือน และจะใช้เวลาฟื้นตัวอีก 3 เดือน แต่จากการประเมินใหม่คาดว่าสถานการณ์จะจบได้ภายใน 6 เดือน และกว่าจะสร้างความมั่นใจต้องใช้เวลาอีก 3 เดือน คาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวได้ในปลายไตรมาส 3/63 ถึงต้นไตรมาส 4/63 แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
“วันนี้ความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อย ๆ ไตรมาสที่ 1 มีผลกระทบงบประมาณไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ใจผมคิดว่า ไตรมาส 1 คงออกมาต่ำคงต่อเนื่องจากไตรมาส 4 เมื่อปีที่แล้ว ตัวเลขเบื้องต้นเดือนมกราคมจะต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 4 อยากให้ทุกคนทำใจ รัฐบาลก็ทำใจ ตัวเลขไตรมาสที่ 1 ปีนี้ไม่ดี หลังจากนั้นก็หวังว่าไตรมาส 2 ตัวเลขการใช้จ่ายภาครัฐจะกลับคืนมา แต่ว่าท่องเที่ยวเราคิดว่าจะแย่ต่อเนื่องระยะเวลาหนึ่ง วันนี้ตัวเลขท่องเที่ยวหายไป 50%” นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์เปิดเผยอีกว่า ที่ประชุมได้มีการหารือมาตรการบรรเทาผลกระทบสายการบินต่าง ๆ ทั้งเรื่องการลดค่าใช้จ่ายสายการบิน เช่น การปรับลดค่าบริการสนามบิน มาตรการลดค่าบริการการเดินอากาศ การปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน ที่อยากจะขอเพิ่มถึงกลางปีนี้ เป็นต้น ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด