เผยโฉม ‘GrabPay Wallet ใหม่’ เก็บหมดทั้ง Payment จนถึง Loan แถมด้วยประกันภัยและ Subscription Plan

Grab ผู้ให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลเผยโฉมบริการใหม่ใน GrabPay Wallet บริการทางการเงินเต็มรูปแบบสำหรับผู้ใช้และ Partner ของ Grab จัดเต็มตั้งแต่การชำระเงินและบริการแบบ Subcription ไปจนถึงพร้อมสนับสนุนสินเชื่อแก่ Partner และเสนอบริการประกันภัยแก่ Partner

Grab Financial Group กลุ่มธุรกิจด้านการเงินของ Grab แถลงข่าวการขยาย Ecosystem ใหม่ของ “GrabPay Wallet” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยเป็นการต่อยอดบริการทางการเงินสำหรับผู้ใช้ Platform ของ Grab ทั้งฝั่งผู้รับบริการและผู้ให้บริการหรือ Partner ทั้งนี้ ในประเทศไทย Grab Pay Wallet ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกสิกรไทยเพื่อให้บริการเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

คุณธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยถึงภาพรวมของ Grab ว่า ปัจจุบัน Grab มียอดใช้งานถึง 120 ล้านครั้ง ในเวลา 10 เดือน และมีผู้ประกอบการรายย่อยที่เข้าร่วม 400,000 ราย พร้อมทั้งขยายสู่ 20 เมืองในประเทศไทย

ด้านคุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ แกร็บเพย์ ประจำประเทศไทย แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวว่าปัจจุบัน ตัวเลขขอองการใช้ Cashless Payment ในไทย เฉลี่ยอยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ผู้ใช้ Cashless Payment บน Grab อยู่ที่ 31 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ใช้ Cashless Payment บน Grab มีจำนวนเพิ่มขึ้น 3 เท่านับตั้งแต่เปิดใช้ครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2019 นอกจากนี้ GrabPay Wallet ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้ง partner และผู้ใช้งาน โดยจากการสำรวจการใช้ Cashless Payment ของ Grab พบว่า การที่ร้านค้ารองรับบริการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดมีส่วนช่วยให้กิจการเติบโตได้ในยุคดิจิทัล

ทั้งนี้ บริการทางการเงินที่ Grab เปิดเพิ่มเติม มีด้วยกัน 2 ฝั่ง ได้แก่ ฝั่งผู้ใช้งานและ Partner โดยผู้ใช้งานจะมีบริการใหม่เพิ่มขึ้นมา 4 บริการด้วยกัน ได้แก่

• ชำระเงินกับร้านค้า (In-store Payment) - ผู้ใช้แอปสามารถนำแกร็บเพย์วอลเล็ตไปชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าต่างๆเช่น Major Cineplex, After You, KOI The, Boots, Lawson Station 108, Fuji, Miniso, Sukishi, Kyo Roll En, Seoul Grill และ Sukiya โดยสแกน QR code ทั้งนี้บริการของแกร็บไม่ได้จำกัดอยู่แต่การเรียกรถหรือการสั่งอาหารเท่านั้นแต่ยังครอบคลุมถึงบริการจากพาร์ทเนอร์ร้านค้าหลายประเภทธุรกิจไม่ว่าจะเป็นบันเทิงไลฟ์สไตล์และอื่นๆอีกมากมาย
• เติมเงินโทรศัพท์มือถือ (Mobile Topup) - ผู้ใช้งานสามารถ (Mobile Topup): ผู้ใช้งานสามารถใช้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือผ่าน GrabPay Wallet ทำให้การเชื่อมต่อในยุคดิจิทัลเป็นไปได้อย่างสะดวกโดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรโทรคมนาคมต่างๆ
• ดีลบุ๊ค (Dealbook) - รวมสินค้าส่วนลดและสิทธิพิเศษจากพาร์ทเนอร์ร้านค้าของแกร็บในหลากหลายประเภทธุรกิจไม่ว่าจะเป็นอาหารบันเทิงและท่องเที่ยวเช่นผู้ใช้งานสามารถซื้อเซ็ตตัวชมภาพยนตร์พร้อมป้อปคอร์นราคาพิเศษจาก Major Cineplex และชานมไข่มุกจาก KOI The ได้ในราคาพิเศษ
• แพ็กเกจส่วนลด (Subscription) - ผู้ที่ใช้งานแกร็บเป็นประจำสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 50% เมื่อลงทะเบียนเข้าใช้งานกลุ่มบริการต่างๆของแกร็บที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างกันไปแพ็กเกจยอดนิยม ได้แก่ GrabPackage All-access Pass, GrabPackage Ride Pass, GrabPackage Food Pass และ GrabPackage GrabExpress Pass

ส่วนฝั่ง Partner หรือผู้ให้บริการเอง Grab Financial ก็ได้เตรียมบริการทางการเงินเพื่อผู้ขับของ Grab โดยเฉพาะ ได้แก่ GrabInsurance บริการประกันรายย่อยสำหรับผู้ขับและ Grab Financial บริการสินเชื่อรายย่อยสำหรับผู้ขับ Grab

คุณวรฉัตร เสริมว่า เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ขับ Grab มีความลำบากในการกู้ยืมด้วยเกณฑ์ต่างๆ จากของธนาคาร แต่หลายครั้งที่ผู้ขับต้องการเงินไปใช้ดูแลเครื่องมืออย่างเช่น การดูแลรักษาสภาพรถไปจนถึงการดูแลสุขภาพ Grab จึงต้องการสร้างระบบสินเชื่อที่ตอบโจทย์ พร้อมด้วยตัวประกันที่ราคาย่อมเยา โดยตอนนี้ Grab มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อในระดับ Nano Finance และบุคคลแล้ว