หลังจากที่มีกระแสข่าวที่ Grab ได้ประกาศว่าตนจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ด้วยวิธีควบรวมกิจการกับบริษัท SPAC (Special Purpose Acquisition Company) ซึ่งจะระดมทุนให้กับบริษัทได้ถึง 3.96 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกันกับ GoTo Group ที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง Gojek แพลตฟอร์มโดยสารและขนส่งอาหาร และ Tokopedia แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ รวมไปถึงกรณีที่ SEA ที่เป็น Tech Startup ของเอเชียได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ก็ได้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้จะลดโอกาสการเกิดใหม่และขยายธุรกิจของบรรดา Startup ในภูมิภาคเอเชียหรือไม่
Vishal Hanal ผู้จัดการกองทุน 500 Startups ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ Street Signs ของ CNBC ว่า การ IPO ของ Grab Sea และ GoTo จะเป็นสัญญาณที่ดี เปิดทางให้ Startup สัญชาติเอเชียรายอื่น ๆ มีโอกาสเฉิดฉายในตลาดโลกมากขึ้น และทำให้นักลงทุนรายใหญ่สนใจเข้ามาลงทุน
โดย Vishal Hanal ได้คาดการณ์ถึงอนาคตหลังจากที่ Grab Sea และ GoTo เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ว่าบริษัทรายใหญ่เหล่านี้จะเปลี่ยนบทบาทจาก Startup กลายเป็นนักลงทุนที่จะเข้าลงทุนในระบบนิเวศ Startup ขนาดกลางและขนาดเล็ก ดังที่เห็นในกรณีของ Startup ยักษ์ใหญ่ในจีน เมื่อ Baidu, Alibaba Group และ Tencent ได้จดทะเบียนบริษัทเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ก็กลายเป็นนักลงทุนใน Startup ระดับยูนิคอร์นถึง 55 รายจากทั้งหมด 144 ราย
ยังไม่รวมไปถึงที่ผู้ก่อตั้งของบริษัทเหล่านี้ที่จะกลายเป็น Angel Investor เสาะหาคนเก่งมากความสามารถ ใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาครั้งทำ Startup ก่อตั้งบริษัทหน้าใหม่เข้าไปเติมเต็มในตลาดภูมิภาคเอเชียมากขึ้น และที่สำคัญที่สุด เงินทุนหลักพันล้านดอลลาร์ที่ Startup กลุ่มนี้ระดมได้จากการเข้าตลาดหลักทรัพย์ ก็จะช่วยขยายธุรกิจให้ครอบคลุมระบบนิเวศของ Startup ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมไปถึงลงทุนในอุตสาหกรรมอื่น ๆ สร้างโอกาสในตลาดของ Startup และต่อเติมลมหายใจให้ธุรกิจ SME ที่เกิดใหม่ให้มีโอกาสเติบโตในอนาคต
Vishal Hanal กล่าวทิ้งท้ายว่าการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของธุรกิจ Grab, GoTo และ SEA ไม่ได้เป็นจุดจบของวงการ Startup เอเชีย แต่พึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสใหม่ที่จะช่วยดัน Startup หน้าใหม่ให้เอื้อมถึงระดับยูนิคอร์นได้เร็วขึ้น
อ้างอิง: cnbc
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด