Grab ผู้พัฒนา Digital Service ระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญเพื่อรับมือสถานการณ์ COVID-19 ทั้งการลดจำนวนพนักงาน การพับโครงการใหม่ที่ไม่เกี่ยวกับบริการหลัก รวมถึงการเตรียมเงินสดกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำรองในสถานการณ์ฉุกเฉิน
Anthony Tan กล่าวในจดหมายเปิดผนึกว่า Grab มีความเสียใจที่ต้องแยกทางกับพนักงานจำนวน 360 คน คิดเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด โดยก่อนหน้านี้ มีพนักงานบางส่วนที่ได้ยื่นลาออกโดยสมัครใจไปแล้ว แต่ไม่ได้มีการระบุจำนวนในส่วนนี้
ทั้งนี้ Grab เองก็มีมาตรการเยียวยาแก่พนักงานที่ถูกปลด ทั้งการจ่ายเงินชดเชย 6 เดือนที่การันตีว่าจะสูงกกว่ามาตรการขั้นต่ำโดยรัฐ การประเมินและรับโบนัสจากการทำงานในปี 2020 รวมถึงการ Reskill การรักษาสิทธิ์ในประกันสุขภาพ การให้สนับนสุนทางสุขภาพอารมณ์ ไปจนถึงการยก Laptop ให้พนักงานใช้ในการหางานใหม่
ซึ่งนอกจากการปลดพนักงานแล้ว ยังระบุถึงการปรับตัวครั้งใหญ่อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการยุติ Project บางอย่างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก การปรับโครงสร้างหน้าที่ในองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมกับหันมา Focus กับธุรกิจ Delivery มากขึ้น
ปัจจุบัน Grab เป็น Startup ระดับ Unicorn ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยมูลค่าเงินลงทุนที่ได้รับกว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ทาง Reuter ยังอ้างอิงแหล่งข่าวว่า Grab ได้เตรียมเงินสดมูลค่าถึง 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเงินสำรองเผื่อเกิดวิกฤตด้วย
นอกจาก Grab แล้ว ผู้ให้บริการ Ride-hailing ระดับโลกอย่าง Uber และ Ola caps ของอินเดีย เองก็ดำเนินการปลดพนักงานหลักร้อยคนเช่นกัน ทั้งนี้ Grab, Uber และ Ola มีนักลงทุนร่วมกันคือ SoftBank
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด