Grab ขอใบอนุญาตการทำดิจิทัลแบงก์กิ้งในสิงคโปร์ เตรียมเป็น Virtual Banking พร้อมขยายสู่ SEA | Techsauce

Grab ขอใบอนุญาตการทำดิจิทัลแบงก์กิ้งในสิงคโปร์ เตรียมเป็น Virtual Banking พร้อมขยายสู่ SEA

Grab ยื่นขอใบอนุญาตการทำดิจิทัลแบงก์กิ้งในสิงคโปร์ เชื่อธุรกิจด้านการเงินเติบโตในอนาคต ซึ่งหาก Grab ประสบความสำเร็จในการได้รับใบอนุญาตจะทำให้ลูกค้าผู้ประกอบธุรกิจทั้งรายย่อยและรายกลางจะสามารถเข้าถึงการฝากเงิน การกู้ยืม และบริการทางการเงินอื่นๆ ได้ เรียกได้ว่าเป็นก้าวสำคัญสู่การขึ้นเป็นบริษัทผู้นำทางเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในการให้สัมภาษณ์กับทาง Nikkei Asian Review Reuben Lai ผู้ดูแล Grab Financial Group ซึ่งเป็นหน่วยที่ดูแลด้านการเงินของ Grab ได้กล่าวว่า “จะมีการยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการดิจิทัลแบงก์กิ้งในสิงคโปร์ ก่อน 31 ธันวาคมนี้ โดยใบอนุญาตนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสมากมายในการให้บริการกับผู้ใช้งานของเรา ที่ผ่านมา Grab Financial Group จัดว่าเป็นเสาหลักสำคัญในการเติบโตของ Grab ในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งของ Fintech Ecosystem ที่ใหญ่ที่สุด” 

มีรายงานว่าธนาคารกลางของสิงคโปร์จะออกใบอนุญาตดิจิทัลแบงก์กิ้งสูงสุดห้าใบ  ใบอนุญาตในการทำธุรกิจธนาคารดิจิทัลเต็มรูปแบบสองใบ (Full bank licenses) และใบอนุญาตผู้ให้บริการแบบดิจิทัลแก่ธุรกิจ SMEs อีกสามใบ (Wholesale bank licenses) เพื่อการเปิดเสรีภาคธนาคาร เพื่อสามารถทำธุรกิจธนาคารได้อย่างเสรีภาพ ทั้งนี้ Grab จะยื่นขอใบอนุญาตแบบ Full Bank เพื่อให้สามารถให้บริการทั้งลูกค้าที่เป็นผู้ค้าปลีกและไม่ใช่ผู้ค้าปลีกได้ Lai กล่าว 

ในช่วงมิถุนายนที่ผ่านมา Grab ได้แสดงความสนใจในการขอใบอนุญาตเมื่อสิงคโปร์ประกาศการเปิดการทำธุรกิจการเงินเสรี แต่ก็ไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่าจะยื่นขอหรือไม่ 

จากข้อมูลของ Lai นั้น การ Grab สมัครครั้งนี้มีความร่วมมือกับพันธมิตรที่มี Ecosystem ขนาดใหญ่ซึ่งประกอบด้วยผู้บริโภคและผู้ค้าขนาดเล็ก

“สิ่งที่เราต้องการทำเมื่อได้รับใบอนุญาตประกอบการธุรกิจธนาคารคือการเพิ่มความโปร่งใส และเพิ่มการเข้าถึงของผู้ใช้ให้มากขึ้น นี่จภช่วยให้ผู้ใช้งานในสิงคโปร์เข้าถึงกับธนาคารในแบบที่ง่ายมากขึ้นและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม" Lai กล่าว นอกจากนี้เขาไม่ได้ให้รายละเอียดของแผน เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

มีหลายฝ่ายที่สนใจในใบอนุญาตนี้ Grab อาจจะต้องแข่งขันกับ Startup FinTech รายใหม่ๆ แต่ถึงอย่างไรการมุ่งเน้นถึงคุณค่าที่แท้จริงและความยั่งยืน คือปัจจัยหลักในการพิจารณา ซึ่ง Lai มั่นใจว่า Grab คือแนวหน้าในเรื่องนี้ 

Grab ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดยมีธุรกิจที่หลากหลายตั้งแต่การบริการเรียกรถไปจนถึงการส่งอาหารและการบริการด้านการเงิน ปัจจุบันได้ให้บริการทางการเงินใน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

สิงคโปร์ในฐานะประเทศแนวหน้าในด้านเศรษฐกิจ ตลาดธุรกิจธนาคารจึงได้รับความสนใจจากผู้เล่นจำนวนมาก แต่ Lai ยังเน้นย้ำว่า “ขณะนี้ยังคงมีความต้องการกลุ่มผู้ใช้งานทั้ง SMEs และกลุ่ม gig อย่างคนส่งอาหาร คนขับรถบนแพลตฟอร์มอย่าง Grab” 

Grab จะมองหาโอกาสการเติบโตของการทำแบงก์กิ้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากพวกเขาพร้อมเข้าร่วมในการจะก้าวสู่การเป็น Virtual banks ซึ่งถ้ามีโอกาสแล้ว Grab ยินดีจะเข้าร่วม” 

คาดว่าธนาคารกลางสิงคโปร์จะประกาศใบอนุญาตในช่วงกลางปี 2020 โดย Grab จะเปิดตัวบริการการบริหารความมั่งคั่งซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้และพันธมิตรทำการลงทุนเพียงเล็กๆ น้อยๆ ผ่านบัญชีบน Grab คาดเปิดตัวในครึ่งปีแรกของปีหน้าโดยเริ่มที่สิงคโปร์

ปัจจุบันตามข้อมูลเชิงลึกของ CB Insights Grab มี SoftBank, Toyota Motor, Uber Technologies และ Microsoft ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และมีมูลค่าอยู่ที่ 14.3 พันล้านดอลลาร์ นับว่าเป็น Startup ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์

ที่มา:  Nikkei Asian Review


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

'บ้านปู' ประกาศกลยุทธ์ใหม่ Energy Symphonics เตรียมมุ่งสู่ปี 2030 เปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ 'Energy Symphonics' หรือ “เอเนอร์จี ซิมโฟนิกส์” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ปี 2030 เน้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานอ...

Responsive image

Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โตอันดับ 2 ใน SEA มูลค่า 1.61 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยอีคอมเมิร์ซและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าในปี 2567 มูลค่ารวมของสินค้าดิจิทัลหรือ GMV จะเพิ่มขึ้นถึง 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566...

Responsive image

AMD ประกาศลดพนักงาน ราว 1,000 คนทั่วโลก หวังเร่งเครื่องสู่ตลาดชิป AI

AMD ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ โดยจะปลดพนักงานประมาณ 1,000 คน หรือคิดเป็น 4% ของพนักงานทั้งหมด 26,000 คนตามข้อมูลที่บริษัทยื่นต่อสำนักง...