ปีนี้ Amazon Web Services (AWS) ได้จัดงาน AWS re:Invent 2023 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2566 และเช่นเดียวกันปีที่ผ่านมา บริษัทได้ออกมาประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ โดยมุ่งเน้นไปที่บริการระบบคลาวด์ที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้ AI ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ใครพลาดงานนี้ไป ก็ไม่ต้องห่วง เพราะ Techsauce ได้รวมไฮไลต์เด็ดๆ รวมถึงความคืบหน้าของโปรเจกต์ต่างๆ ของ AWS ทั้งในไทยและต่างประเทศไว้ในบทความนี้แล้ว

AI ตัวพลิกเกมสู่ผู้นำโลกธุรกิจคลาวด์

Adam Selipsky ซีอีโอ AWS เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดด้วยการปรับใช้เครื่องมือและบริการที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น

• Titan Image Generator : เครื่องมือ Gen AI ที่จะช่วยให้ลูกค้า AWS สามารถสร้างภาพใหม่ด้วยการป้อนคำสั่งหรือปรับแต่งภาพที่มีอยู่ได้อย่างรวดเร็ว 
• Amazon Q : ผู้ช่วยสุดแกร่งสำหรับลูกค้า โดย AI ตัวนี้ได้รับการเทรนข้อมูลความรู้เกี่ยวกับ AWS ตลอด 17 ปี ทำให้ Amazon Q ไม่ใช่แค่แชทบอทตอบคำถาม แต่ยังสามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้งานต่างๆ และแนะนำโซลูชันของ AWS ให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
• Amazon Bedrock : เปิดตัวแอปพลิเคชัน Generative AI ที่สร้างและสเกลได้อย่างง่ายดาย ด้วย foundation models (FMs) ให้เข้าถึงเครื่องมือ Generative AI อย่างทั่วถึง ครอบคลุมทั้งด้านงานวิจัย และใช้กับภาคธุรกิจได้ทุกขนาดทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

ยกระดับความปลอดภัยของธุรกิจด้วย Amazon One

• ระบบสแกนฝ่ามือเพื่อระบุตัวตนสำหรับเข้า-ออกอาคาร โดยต่อยอดจากเทคโนโลยี Biometrics ที่ใช้ชำระเงินในร้านค้า โดยไม่ต้องจ่ายเงินสดของ Amazon เพื่อมอบประสบการณ์ Seamless และรองรับความปลอดภัยขององค์กร

AI กับความร่วมมือด้านสุขภาพและวิทยาศาสตร์

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงในงาน AWS คือ ความร่วมมือที่จะยกระดับการดูแลสุขภาพและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์โดยใช้เทคโนโลยี AI เช่น

• Merck บริษัทยาระดับโลก จะใช้เทคโนโลยี Generative AI ในการตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลมากขึ้น เพื่อปรับเปลี่ยนการทำงานทั้งหมด ตั้งแต่การค้นคว้าวิธีการรักษาโรค การพัฒนายา ไปจนถึงการจัดส่ง ที่ผ่านมา Merck ได้ใช้เครื่องมือ AWS analytics และบริการ AI ในการสร้างแพลตฟอร์มที่ตรวจสอบข้อผิดพลาดที่มีความซับซ้อน เช่น การค้นพบอนุภาคแปลกปลอม นอกจากนี้บริษัทยังสามารถพัฒนาการคาดการณ์แบบจำลองโปรตีนเพื่อเร่งการค้นพบยา โดยใช้ AWS HealthOmics พิ่มความสามารถด้านการประมวลผลข้อมูลเชิงลึกทางชีวภาพและระบบอัตโนมัติ
• Pfizer ทำงานร่วมกับ AWS ในการจัดสรรเวลาและทรัพยากร มูลกว่าพันล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเร็วขึ้น โดยคาดการณ์ว่าการประยุกต์ใช้ Generative AI จะช่วยประหยัดต้นทุนราวๆ 750 ล้านดอลลาร์ ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์/ปี นอกจากนี้บริษัทกำลังพัฒนายาและวัคซีน 19 ตัวภายในระยะเวลา 18 เดือน โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล ข้อมูล และ AI ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่เคยมีมา

สรุปการลงทุนและความร่วมมือที่สำคัญของ AWS ในไทยและอาเซียน

• AWS ประกาศแผนสร้าง AWS แห่งใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก็คือกรุงเทพฯ โดยวางกรอบการลงทุนในไทยมูลกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 15 ปี
• การเปิดตัวศูนย์ข้อมูลขนาดย่อม (Local Zone) ในกรุงเทพฯ ปีที่แล้ว ส่งผลให้ลูกค้าสามารถใช้แอปพลิเคชันในพื้นที่ใกล้เคียงกับผู้ใช้งานภายในพื้นที่รถไฟฟ้าใต้ดินได้อย่างสะดวกสบาย
• โครงการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะด้านคลาวด์
  ปี 2017 - 2023 ทาง AWS ได้ฝึกอบรมให้ความรู้และพัฒนาทักษะด้านคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงประเทศญี่ปุ่น ทั้งหมด 3.5 ล้านคน และได้ฝึกอบรมคนในอาเซียนอีกกว่า 1 ล้านคน ดังนี้
  อินโดนีเซีย: มีผู้เข้าร่วมการอบรมมากกว่า 500,000 คน
  • มาเลเซีย: มีผู้เข้าร่วมการอบรมมากกว่า 50,000 คน
  • ฟิลิปปินส์: มีผู้เข้าร่วมการอบรมมากกว่า 100,000 คน
  • สิงคโปร์: มีผู้เข้าร่วมการอบรมมากกว่า 300,000 คน
  • ไทย: มีผู้เข้าร่วมการอบรมมากกว่า 50,000 คน
  • เวียดนาม: มีผู้เข้าร่วมการอบรมมากกว่า 50,000 คน

ตัวอย่างความร่วมมือกับลูกค้าองค์กรธุรกิจไทย

• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 
  • ปรับโครงสร้างทางดิจิทัลด้วย AWS โดยทดลองใช้ Amazon Bedrock ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงิน และปลดล็อคประสิทธิภาพด้านการดำเนินงาน 
  • บริษัทในเครือทั้งสามแห่ง (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา อยุธยาแคปปิตอลเซอร์วิสเซส และกรุงศรีออโต้) สามารถทำงานร่วมกันโดยใช้ Machine Learning และ AI พัฒนาบริการให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย และปรับแต่งข้อเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 60% ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนและนำเงินกลับมาลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรม
• NocNoc 
  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ NocNoc ธุรกิจลูกของ SCG และ ThaiBev ได้ใช้เทคโนโลยี AWS ML ยกระดับบริการช้อปปิงที่ตอบโจทย์รายบุคคลหรือ personalized ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในหนึ่งปี
• CP Foods
  • ธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารรายใหญ่ในไทยได้ปรับองค์กรสู่ digital transformation โดยร่วมมือกับ AXONS ซึ่งเป็นบริษัท agri-tech 
  • ใช้ระบบคลาวด์ โดยเริ่มจากแพลตฟอร์ม SAP S/4HANA เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงาน ช่วยลดภาระงานที่ไม่จำเป็น และเพิ่มยอดลูกค้า 7.5% 
• SCG
  • ใช้ซอฟต์แวร์และบริการคลาวด์ของ AWS ซึ่งช่วยให้องค์กรปรับกระบวนการทำงานและยึดอินไซต์ในการตัดสินใจ รวมถึงเสริมระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
  • เชื่อมโยงกับธุรกิจของพาร์ทเนอร์และตัวกลางในการให้บริการ
• PTTGC 
  • ใช้บริการ Amazon SageMaker และ  AWS Redshift มอนิเตอร์โรงงานเคมีภัณฑ์ และปรับกระบวนการผลิต production lines ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและลดปริมาณการใช้วัสดุตั้งต้นในการผลิต