วิธีเขียน Prompt จาก OpenAI สำหรับ ChatGPT เวอร์ชันล่าสุด

แจกเทคนิค วิธีเขียน Prompt จาก OpenAI สำหรับ ChatGPT เวอร์ชันล่าสุด

ต้นปี 2025 กว่า 52% ของผู้คนทั่วโลกหันมาใช้ AI อย่าง ChatGPT, Gemini, Claude และ Copilot โดย ChatGPT ยังครองแชมป์ด้วยผู้ใช้ประจำสัปดาห์กว่า 400 ล้านคนทั่วโลก

เวอร์ชันล่าสุด GPT-4.1 ฉลาดขึ้นมาก แต่ใช้งานต่างจากเดิม จึงต้องมีเทคนิคใหม่ในการ “พิมพ์คำสั่ง” หรือ prompt ให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

ทำไมการพิมพ์คำสั่งแบบเดิมถึงใช้ไม่ได้แล้ว?

GPT-4.1 มีพฤติกรรมที่แตกต่างจากเวอร์ชันก่อนหน้า เพราะมันตีความคำสั่ง “ตามตัวอักษร” มากขึ้น และไม่เดาใจผู้ใช้เหมือนเมื่อก่อน ข้อดีคือเราสามารถควบคุมทิศทางของคำตอบได้ดีขึ้น ข้อเสียคือคำสั่งเดิมๆ ที่เคยใช้ อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงใจอีกต่อไป

หากคุณยังใช้คำสั่งพื้นๆ แล้วสงสัยว่าทำไมคำตอบถึงดูธรรมดา นั่นอาจเป็นเพราะคุณยังไม่ได้ใช้ศักยภาพของโมเดลนี้อย่างเต็มที่

โครงสร้าง Prompt ที่ OpenAI แนะนำ

ถ้าอยากให้ ChatGPT ตอบตรงใจมากขึ้น ลองเขียน Prompt แบบมี “โครงสร้าง” ชัดเจน จะช่วยให้โมเดลเข้าใจและทำงานได้แม่นกว่าเดิม โดยแบ่งออกเป็น 7 ส่วนง่ายๆ แบบนี้:

1. บอกบทบาท + เป้าหมาย

เริ่มต้นด้วยการบอกว่าอยากให้ ChatGPT ทำหน้าที่อะไร และคุณต้องการผลลัพธ์แบบไหน  เช่น: “ช่วยทำตัวเป็นนักวางแผนธุรกิจ แล้วแนะนำไอเดียโปรโมตสินค้าใหม่สำหรับวัยรุ่น”

2. ให้คำแนะนำแบบตรงๆ

ระบุชัดๆ ว่าอยากให้ทำยังไง หรือไม่ควรทำอะไร                                                                         เช่น: “ขอใช้ภาษาง่ายๆ ไม่ต้องทางการมาก” หรือ “ช่วยเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้ด้วย”

3. สั่งให้คิดเป็นขั้นตอน

ให้โมเดลค่อยๆ คิด ไม่ต้องรีบตอบ จะช่วยให้ผลลัพธ์ละเอียดและมีเหตุผล                             เช่น: “ก่อนจะตอบ ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลก่อน แล้วค่อยสรุปคำแนะนำ”

4. กำหนดรูปแบบของคำตอบ

บอกให้ชัดว่าอยากได้คำตอบแบบไหน จะได้อ่านง่ายและนำไปใช้ต่อได้เลย                          เช่น: “ขอเป็นตารางเปรียบเทียบ” หรือ “ขอเป็นลิสต์ข้อๆ”

5. ใส่ตัวอย่างให้ดูแนวทาง

ถ้ามีตัวอย่างคำตอบที่อยากได้ ใส่ไปเลย จะช่วยให้ ChatGPT เข้าใจเร็วขึ้น                          เช่น: “ตัวอย่างที่อยากได้:

  • ชื่อไอเดีย
  • กลุ่มเป้าหมาย
  • เหตุผลว่าทำไมถึงเหมาะ”

6. ใส่บริบทที่จำเป็น

ถ้ามีข้อมูลเสริม เช่น ข้อจำกัด งบประมาณ หรือข้อมูลเบื้องหลัง ใส่ไว้ด้วย                                เช่น: “สินค้านี้ขายเฉพาะออนไลน์เท่านั้น และงบโฆษณามีแค่ 50,000 บาท”

7. ย้ำคำสั่งสุดท้ายอีกครั้ง

ปิดท้ายด้วยการสรุปสิ่งที่อยากได้แบบสั้นๆ                                                                            เช่น: “สุดท้าย ช่วยแนะนำมา 3 ไอเดีย ที่ตรงกับโจทย์ข้างต้นนะ”

ไม่จำเป็นต้องใส่ทุกข้อในทุกครั้ง แต่ยิ่งโครงสร้างชัดเจน ผลลัพธ์ก็จะยิ่งแม่นยำและมีคุณภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้ Markdown, bullet point และการจัดวางที่เป็นระเบียบ จะช่วยให้โมเดลเข้าใจสิ่งที่เราต้องการได้ดีขึ้น

เปลี่ยน ChatGPT ให้เป็น “ผู้ช่วยอัตโนมัติ” ที่ทำงานได้เอง

คุณสามารถตั้งค่าให้ ChatGPT ทำงานได้เหมือน “ผู้ช่วยส่วนตัว” ที่ไม่ต้องคอยสั่งทุกขั้นตอน แค่ตั้งต้นให้ดี มันก็จะวางแผน ทำงานต่อเนื่อง และใช้เครื่องมือต่างๆ ได้เอง

OpenAI แนะนำว่า ถ้าอยากให้โมเดลทำงานแบบ Agent (ผู้ช่วยอัตโนมัติ) ควรใส่คำสั่ง 3 อย่างนี้ไว้ใน Prompt เสมอ:

  • Persistence — ให้ทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหาคำตอบเจอ ไม่หยุดกลางทาง
  • Tool-Calling — ถ้าจำเป็น ให้ใช้เครื่องมือที่มีได้ เช่นค้นเว็บ เขียนโค้ด หรือวิเคราะห์ไฟล์
  • Planning — ก่อนลงมือทำ ให้คิดเป็นขั้นๆ ว่าควรเริ่มยังไง ทำอะไรก่อน-หลัง

แค่ใส่แนวทางพวกนี้ โมเดลจะเปลี่ยนจากแค่ “ตอบตามที่ถาม” เป็น “ช่วยคิด ช่วยวางแผน และลงมือทำแบบอัตโนมัติ” ได้เลย โดยเฉพาะถ้าใช้กับงานที่ซับซ้อน เช่น การเขียนโค้ดหรือวิเคราะห์ข้อมูล พบว่าประสิทธิภาพดีขึ้นชัดเจน ถึง 20% เลยทีเดียว

ใช้ข้อมูลเยอะได้ แต่ต้องสั่งให้ถูก

ChatGPT รุ่นใหม่สามารถรับข้อมูลได้เยอะมาก - ถึง 1 ล้าน tokens หรือเทียบได้กับเอกสารหลายพันหน้า แต่ถ้าอยากให้มันตอบได้ดีจริง ต้อง “สั่งให้ชัด” ว่าควรทำยังไงกับข้อมูลพวกนั้น

ตัวอย่างเช่น: “ใช้เฉพาะข้อมูลที่ให้ไปเท่านั้นในการตอบคำถาม ห้ามเดาเอง”

และไม่ใช่แค่ใส่ไว้ต้นคำสั่งอย่างเดียว - ควรย้ำไว้ท้ายคำสั่งด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าโมเดลจะไม่หลุดบริบท

ถ้าโจทย์ยาก ต้องให้ ChatGPT "คิดทีละขั้น"

เวลาคำถามซับซ้อน ลองบอกให้โมเดลค่อยๆ คิดก่อนตอบ แบบที่เรียกว่า Chain-of-Thought เช่น:

“ลองคิดทีละขั้นก่อนว่า ต้องรู้อะไรบ้าง ถึงจะตอบคำถามนี้ได้” วิธีนี้จะช่วยให้คำตอบแม่นยำขึ้นมาก เพราะโมเดลจะไม่รีบตอบแบบมักง่าย แต่จะวางแผนก่อน แล้วค่อยตอบอย่างมีเหตุผล

สรุป

ChatGPT เวอร์ชันใหม่ไม่ได้เน้นแค่ “ตอบ” แต่สามารถเป็นผู้ช่วยวิเคราะห์ วางแผน และทำงานแทนได้ แต่ทุกอย่างเริ่มจาก prompt ที่ดี ยิ่งชัด ยิ่งมีโครงสร้าง ผลลัพธ์ก็จะยิ่งตรงจุด 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะดีล Netflix เข้าซื้อ Warner Bros ทำไมถึงยอมจ่ายมากถึง 8.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำไมหลายคนไม่เห็นด้วย

นับเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการบันเทิงหนัง Netflix เจ้าตลาดสตรีมมิ่งประกาศเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. ซึ่งนับรวมถึงสตูดิโอสร้างภาพยนตร์-โทรทัศน์ และธุรกิจสตรีมมิ่ง HBO Max และ HBO ด...

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...

Responsive image

วิกฤตสมองไหลใน Apple ไม่จบ ! ล่าสุด Meta ดึงตัว Alan Dye หัวหน้าทีมดีไซน์ Apple ผู้คุมออกแบบ Liquid Glass ใน iOS26

เจาะลึกสมองไหลใน Apple ปี 2025 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ AI หลายคนย้ายไป Meta, OpenAI และ Cohere ส่งผลต่ออนาคต Apple Intelligence...