'การตลาดเชิงประสาทวิทยา' ศาสตร์แห่งสมอง จูงใจให้คนจดจำ | สรุปจากการรับฟัง H.O.W. x Wharton

ทีมเทคซอสมารับความรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ณ House of Wisdom (H.O.W.) คลับแห่งความรู้ที่ คุณโจ้ - ธนา เธียรอัจฉริยะ และ คุณกระทิง - เรืองโรจน์ พูนผล ร่วมกันก่อตั้งขึ้น โดยล่าสุดทาง H.O.W. ร่วมกับ Wharton Thailand Alumni Club และ Penn Thailand Alumni Club เป็นเจ้าภาพจัดงานแชร์ความรู้เกี่ยวกับประสาทวิทยาศาสตร์ (Neuroscience) ในหัวข้อ 'Brain Science for Business: Neuromarketing and the Science of Persuasion' หรือ ศาสตร์แห่งสมองสำหรับภาคธุรกิจ : การใช้ข้อมูลจากสมองทำ 'การตลาดเชิงประสาทวิทยา' และจูงใจคน

H.O.W.,Wharton, Neuroscience, Neuromarketingคุณโจ้ - ธนา เธียรอัจฉริยะ

ภายในงาน คุณธนาอธิบายเหตุผลที่ก่อตั้ง House of Wisdom (H.O.W.) ว่า ต้องการให้ H.O.W. เป็นพื้นที่ทีเปิดกว้างในการแบ่งปันความรู้ได้ทุกศาสตร์ ทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โหราศาสตร์ การตลาด เศรษฐศาสตร์สีเขียว ฟุตบอล การเป็นพ่อแม่ที่ดี ฯลฯ และต้องการสร้างเป็นคอมมูนิตีให้ Fellows มาเรียนรู้ 'สิ่งที่เรารู้ว่า ไม่รู้' ร่วมกัน ซัพพอร์ตกันและกัน ก่อเกิดเป็นคอมมูนิตีแห่งการให้และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

H.O.W.,Wharton, Neuroscience, Neuromarketingคุณคเณศ สุวิวัฒน์ธนชัย

จากนั้น คุณคเณศ สุวิวัฒน์ธนชัย Wharton Executive Board for Asia Member ขึ้นกล่าวต้อนรับสองผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาศาสตร์จาก Wharton Neuroscience Initiative ที่มาแชร์ความรู้ในหัวข้อ 'Brain Science for Business: Neuromarketing and the Science of Persuasion' ทำให้เห็นอินไซต์ด้านสมอง เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนเห็นโลกการตลาดในอนาคต

  • ดร.อลิซาเบธ (แซบ) จอห์นสัน | Elizabeth (Zab) Johnson, PhD
    ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร Wharton Neuroscience Initiative
  • ดร.ไมเคิล พลัตต์ | Michael Platt, PhD
    ผู้สอนด้านการตลาด ด้านประสาทวิทยาศาสตร์ ด้านจิตวิทยา และผู้อำนวยการ Wharton Neuroscience Initiative
    ผู้เขียนหนังสือ 'The Leader'S Brain'
    ผู้ร่วมก่อตั้งสตาร์ทอัพ Cogware

H.O.W.,Wharton, Neuroscience, Neuromarketing

สำหรับคอนเทนต์ภายใต้หัวข้อ Brain Science for Business: Neuromarketing and the Science of Persuasion แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก 'The Science of Neuromarketing' เป็นการให้ความรู้ว่า การใช้ศาสตร์ด้านสมอง ทำการตลาดให้เกิดผลลัพธ์ดีกว่าเดิมได้อย่างไร โดยเรียนรู้วิธีที่สมองเข้ามาเปลี่ยนการตลาด จากการใช้เครื่องมือเก็บข้อมูลส่วนต่างๆ ของร่างกาย กับส่วนที่ 2 'The Science of Vision and Memorability' หรือ 'ศาสตร์แห่งการมองเห็นและทำให้จดจำ' ที่ชวนลงลึกถึงวิธีที่สมองประมวลผลภาพและรู้ว่า อะไรทำให้ภาพที่เห็นเป็นที่จดจำหรือติดตา ซึ่งเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์หรือนักการตลาดออกแบบโฆษณาและวางกลยุทธ์การตลาด เพื่อนำไปสู่การซื้อสินค้าและสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ในท้ายที่สุด 

4 สิ่งสร้างการจดจำ : Attention - Emotion - Valuation - Memory

ดร.ไมเคิลเปิดประเด็นชวนคิดว่า อะไรทำให้เราตัดสินใจซื้อ ทำไมเราจึงซื้อหุ้นเหล่านั้น ทำไมยอมจ่ายเงินให้สินค้านั้น ในขณะที่โลกออนไลน์ดึงความสนใจจากเรามาก ทำให้เราหลุดโฟกัสมากขึ้น การดึงความสนใจ (Grab Attention) จากผู้คนได้ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่สร้าง Attention - Emotion - Valuation - Memory จนนำไปสู่ความสำเร็จ 

Attention หรือ ความสนใจ

Michael Platt, PhD

  • ท่ามกลางสื่อและข้อมูลข่าวสารที่เต็มโลกออนไลน์ ดึงดูดความสนใจจากเราไปมาก ผู้คนขาดสมาธิ โฟกัสได้แค่ช่วงสั้นๆ โดยเฉพาะ Gen Z ที่มีงานวิจัยเปิดเผยว่า โฟกัสได้เพียง 9 วินาที ซึ่งเมื่อเทียบกับปลาทอง สัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องสมาธิสั้นแล้ว แทบไม่ต่างกัน เนื่องจากปลาทองโฟกัสได้ 8 วินาที

  • แล้วแบรนด์หรือนักการตลาดจะทำอย่างไรให้คนสนใจผลิตภัณฑ์มากขึ้น ดึงความสนใจจากสารพัดสิ่งได้? ดร.ไมเคิลเสนอว่า Neuromarketing ช่วยได้ ทั้งทำให้คนอยากซื้อ ทำให้คนอยากครอบครอง และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อ หรือแม้แต่การพิจารณาว่ารับใครเข้ามาเป็นเพื่อน Neuromarketing ก็สามารถช่วยคาดการณ์ความสัมพันธ์และทำให้คนใกล้ชิดมากขึ้นได้ ตัวอย่างการนำไปใช้ประโยชน์ในกรณีนี้ก็เช่น แอปหาคู่

  • ดร.อลิซาเบธบอกว่า อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (Wearable) เป็นตัวเก็บข้อมูลและบ่งชี้สิ่งต่างๆ ได้ดี เพราะอยู่ติดตัวผู้ใช้งานและเก็บข้อมูลได้ตลอด เช่นอุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลด้านสุขภาพอย่างแหวนอัจฉริยะ Oura Ring, อุปกรณ์ตรวจจับคุณภาพการนอน Whoop นาฬิกาอัจฉริยะ Apple Watch และในอนาคต อุปกรณ์สวมใส่จะมีความสำคัญมากขึ้น ราคาก็จะถูกลง ทำให้ผู้คนเข้าถึงได้มากขึ้น Data ก็จะทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังบอกเพิ่มเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ในด้านการตลาดเชิงประสาทวิทยา (Neuromarketing) ว่ามี
    • Eye-tracking ตรวจจับความเคลื่อนไหวของดวงตา ว่ามองอะไร สนใจอะไร
    • Pupillometry ตรวจจับความสนใจจากการขยายตัวหรือหดตัวของรูม่านตา
    • Neural Data นำข้อมูลด้านประสาทวิทยามาคาดการณ์ผลลัพธ์ทางการตลาด เช่น คาดการณ์แนวโน้มการขาย คาดการณ์ประสิทธิภาพโฆษณาที่จะเกิดขึ้น

  • การตลาดเชิงประสาทวิทยาทำให้เห็นสิ่งที่คนรู้สึกนึกคิดจริงๆ ไม่สามารถหลอกตัวเองและผู้อื่นได้ เพราะเก็บข้อมูลจากสิ่งเหล่านี้ 
    • ความรู้สึกด้านความประทับใจ (Emotional Valence)
    • ความสนใจ (Attention)
    • การมีส่วนร่วม (Engagement)
    • การวัดอุณหภูมิผิวร่างกาย (Skin Temperature)
    • อัตราการหายใจ (Respiration Rate)
    • อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate)

  • ดร.ไมเคิลบอกว่า ทำสตาร์ทอัพ Cogware เพราะเห็นช่องว่างจากชีวิตประจำวันของผู้คน ว่าสามารถเข้าถึงสิ่งต่างๆ ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ จึงพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้รู้ว่า ผู้บริโภคกิน-ดื่มอะไร สนใจอะไร โดยนำข้อมูลด้านสมองมาสร้าง EEG อุปกรณ์สวมศีรษะอัจฉริยะเพื่อวัดความเปลี่ยนแปลงของคลื่นสมอง (Brain Tracking) ในลักษณะของสายคาดศีรษะ (Headband) ที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีสายระโยงระยางติดรอบศีรษะอย่างที่เคยเห็นกัน

Emotion หรือ ความรู้สึก

แบรนด์ที่สร้างความผูกพันทางอารมณ์ความรู้สึกได้จะมีมูลค่าสูงกว่า ประเด็นนี้ ดร.ไมเคิลชวนคิดว่า สมองของเราสนใจ 'แบรนด์' เหมือนที่สนใจ 'คน' ไหม? โดยเล่ากรณีศึกษาผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาที่ใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์ Apple vs Samsung แล้วได้ข้อมูลว่า 

  • แบรนด์ Apple สร้างภาพลักษณ์ให้ผู้ใช้งานเป็นวัยรุ่น เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ส่วนแบรนด์ Samsung ให้ความรู้สึกว่า โตกว่า น่าเบื่อกว่า 
  • จากการสำรวจวัยรุ่นอเมริกัน 5,690 คน นิยมใช้ iPhone มากถึง 87% ส่วน Samsung ไม่ได้รับความนิยมมากนัก
  • 88% ของคนที่ใช้ iPhone บอกว่า เครื่องถัดไปก็จะซื้อ iPhone อีก
  • 8.1% ของคนที่ใช้ Apple มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปใช้ Samsung ในขณะที่ 26% ของคนที่ใช้ Samsung มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปใช้ Apple 

  • Samsung โฟกัสที่การให้ลูกค้าใช้โทรศัพท์เป็นเครื่องมือทำสิ่งต่างๆ ส่วน Apple โฟกัสที่การให้คนเป็นศูนย์กลาง (Human Centric) ซึ่งเมื่อเก็บข้อมูลด้านสมองของลูกค้า 2 แบรนด์มาเปรียบเทียบกัน พบว่าสมองของลูกค้าแบรนด์ Apple มีความเชื่อมโยงทางสังคมและอารมณ์มากกว่า Samsung เกิดเป็นคอมมูนิตี Apple ที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ จนเกิดคำถามว่า คนรักแบรนด์ Apple หรือรักคอมมูนิตี Apple
  • นอกจากนี้ยังพบว่า คนที่ใช้ Samsung มักจะติดตามข่าวทั้งดีและไม่ดีที่เกิดขึ้นกับแบรนด์ Apple ส่วนที่ใช้ Apple มักไม่สนใจข่าวของ Samsung ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีหรือไม่ จะสนใจก็แต่ข่าว Apple เท่านั้น

Valuation หรือ การประเมินค่า

Elizabeth (Zab) Johnson, PhD

  • ดร.อลิซาเบธอธิบายว่า 'การอ่านค่าสมอง' สามารถคาดการณ์พฤติกรรมได้ โดยการถ่ายภาพการทำงานของสมองในส่วนที่เป็น Reward Processing Area โดยสมองส่วนนี้จะประเมินทุกสิ่งอย่าง และเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อน ซึ่งสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้หลายด้าน เช่น เช้านี้จะกินอะไร? ฉันควรจะแต่งงานกับคนไหน? ควรจะซื้ออพาร์ตเมนต์นี้มั้ย? 
  • การอ่านค่าสมองก็คือ การอ่านคลื่น Beta, Alpha, Theta, Delta แล้วสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสมอง ซึ่งจะนำไปสู่การมีส่วนร่วม เข้าใจถึงพฤติกรรม ไปจนถึงการทำให้คนเลิกทำบางพฤติกรรมได้

  • First Impressions สำคัญที่สุด เพราะทำให้เกิดความประทับใจแรก ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึก เกิดการจดจำ และเข้าไปอยู่ในสมองได้ ทำให้ให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคหรือลูกค้ามากกว่าที่เคย

  • เทคโนโลยี EEG มีการใช้มาเป็น 100 ปี แต่เมื่อนำ AI เข้ามาประกอบ ช่วยให้การวัดสัญญาณสมองเกี่ยวกับการประเมินค่าทำได้ดีขึ้น อ่านค่าได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ทั้งยังประเมินภาพอนาคตได้ว่า ถ้าทำสิ่งนั้นๆ แล้วจะขายดีขึ้นไหม ประสบความสำเร็จไหม เช่น ยอดผู้ชมทีวีจะเป็นอย่างไร ปริมาณการใช้งานแพลตฟอร์ม X จะเพิ่มขึ้นไหม

  • กรณีศึกษาการใช้ Neuromarketing เพื่อการประเมินค่า เช่น การรวบรวมข้อมูลจากผู้ชมตัวอย่างภาพยนตร์ที่สวมอุปกรณ์ EEG มาคาดการณ์ยอดจำหน่ายตั๋วหนังเรื่องที่ได้ดูตัวอย่างไป 

Memory หรือ ความจำ

  • ดร.ไมเคิลเปรียบเทียบความต่างของ Memory vs Memorability 
    ความจำ (Memory) เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการเรียนรู้ การจดจำภาพและคำในสมอง ขณะที่ ความสามารถในการจดจำ (Memorability) เป็นคุณสมบัติที่อาจสัมพันธ์กับสิ่งหรือภาพที่นำเสนอ

  • การใช้เครือข่ายประสาทเทียมและ AI สามารถคาดการณ์ได้ว่า ภาพใดทำให้เกิดการจดจำได้มากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ความสามารถในการจดจำ ก็ยังเป็นสิ่งที่คาดการณ์ให้แม่นยำเหมือนอย่างคาดการณ์ยอดขายไม่ได้

  • ถ้าทำอะไรแล้วไม่เกิดการจดจำ คนก็จะลืม ดร.อลิซาเบธบอกว่า ธุรกิจที่เห็นช่องว่างนี้คือ Memorable สตาร์ทอัพที่นำ AI มาทดสอบแคมเปญว่า ทำแล้วคนจะจดจำหรือไม่ และยังวัดประสิทธิภาพการดำเนินงาน กับการพัฒนาแบรนด์ได้อีกด้วย

  • ในตอนท้าย ดร.อลิซาเบธชวนทุกคนทำกิจกรรม 'ทดสอบความจำ' โดยเปิดภาพให้ดูอย่างต่อเนื่อง ภาพละ 1 วินาที หากจำได้ว่าภาพไหนซ้ำ ให้ปรบมือ 1 ครั้ง ผลปรากฏว่า มีบางภาพที่ได้ยินเสียงปรบมือประปราย และหลังการทดสอบ ดร.อลิซาเบธชี้ให้เห็นว่า การเลือกภาพมานำเสนอและการลำดับภาพ มีผลต่อการจดจำของมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ

Key Takeaways : Neuromarketing ข้อมูลจากสมองสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ

  • ประสาทวิทยาศาสตร์ที่นำมาใช้ในด้าน 'การตลาดเชิงประสาทวิทยา' สามารถเผยความคิดและความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ได้
  • บางแบรนด์สามารถสร้างความเชื่อมโยงด้าน 'สังคม' และ 'อารมณ์' ของลูกค้าได้เหนือกว่าแบรนด์อื่น
  • อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะที่เก็บข้อมูลด้านประสาทและสมอง เพิ่มโอกาสให้การทำโฆษณาและการตลาดส่งผลกระทบได้มากยิ่งขึ้น และยังใช้คาดการณ์ตลาดในวงกว้าง ซึ่งอยู่นอกเหนือกลุ่มตัวอย่างได้ด้วย
  • เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้บริโภคให้คุณค่าและกลับมาซื้อผลิตภัณฑ์ซ้ำ จุดที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ผ่านการสื่อต่างๆ ต้อง 1) ดึงดูดความสนใจได้ 2) เข้าใจง่าย 3) กระตุ้นอารมณ์ได้ 4) เชื่อมโยงกับสังคมของผู้ใช้หรือลูกค้าได้ ทั้งหมดนี้เพื่อทำให้เกิดการจดจำเข้าไปในสมองของลูกค้า

สำหรับหัวข้อ 'Brain Science for Business: Neuromarketing and the Science of Persuasion an Interactive Masterclass' มี Knight Club Capital และ Unique Engineering and Construction มาร่วมเป็นสปอนเซอร์


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

AirPods เตรียมอัปเดต ฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์ภายในปีนี้

Apple กำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ให้ AirPods สามารถแปลบทสนทนาแบบเรียลไทม์ ได้ โดยจะทำงานร่วมกับ iOS 19 และคาดว่าจะเปิดให้ใช้งานภายในปีนี้...

Responsive image

OpenAI เร่งทรัมป์ปลดล็อกลิขสิทธิ์ AI หวั่นจีนแซงหน้าอเมริกา

OpenAI เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับการใช้ข้อมูลลิขสิทธิ์ในการฝึก AI หวั่นหากถูกจำกัด จีนอาจขึ้นนำในสงคราม AI พร้อมเร่งทรัมป์ออกกฎหมายปกป้องอุตสาหกรรม AI ก่อนจะสายเกินไป...

Responsive image

บีโอไอไฟเขียว อนุมัติ Sunwoda ทุ่ม 5 หมื่นล้านบาท ตั้งโรงงานแบตเตอรี่ต้นน้ำแห่งแรกในไทย

บีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุนแก่บริษัท ซันโวด้า ออโตโมทีฟ เอนเนอร์จี เทคโนโลยี หรือ Sunwoda หนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่ Top 10 ของโลก เพื่อตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นน้ำระดับเซลล์ขนาดให...