วันนี้ Techsauce จะมาแนะนำให้รู้จักกับ 5 แอปพลิเคชันเช็ครถติดเพื่อให้การเดินทางนั้นสะดวกสบายยิ่งขึ้น

1. Google Maps และ Google Maps Go

แอปพลิเคชันดั้งเดิมที่นอกจากจะช่วยในการนำทางแล้ว ยังสามารถบอกสภาพการจราจรในบริเวณนั้นได้เป็นอย่างไร โดยแอปจะกำหนดสี 3 สีเพื่อใช้ในการบอกการจราจรของเส้นทางนั้น ซึ่งสีน้ำเงินจะแทนการจราจรที่ลื่นไหล เป็นปกติ สีส้ม แทนการจราจรที่ค่อนข้างคับคั้ง และสีแดงจะเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าพื้นที่ตรงนั้นมีรถติดหนัก 

จุดเด่นของ Google Maps นอกจากที่กล่าวมาแล้วยังช่วยบอกเส้นทางโดยละเอียด และสามารถคำนวนระยะเวลาของการเดินทางในแต่ละรูปแบบได้อีกด้วย เช่น การเดินทางโดยรถยนต์ การเดิน การเดินทางโดยรถจักรยานยนต์ หรือการเดินทางด้วยรถประจำทาง เป็นต้น 

รวมถึงยังสามารถปักหมุดสถานที่ที่สนใจ เพิ่มจุดหมายการเดินทางได้ถึง 2 สถานที่ นอกจากนี้ยังสามารถแสดง Timeline การเดินของผู้ใช้งาน เพื่อให้ทราบว่าภายในหนึ่งวันเดินทางไปที่ใดมาบ้างได้อีกด้วย

2. JS100 Application

แอปพลิเคชันจาก จส.100 ที่มีหลากหลายฟังก์ชันให้เลือกใช้งาน โดยฟังก์ชัน MAPS ของแอปนี้จะแสดงแผนที่ประเทศไทยโดยละเอียด และยังแสดงเส้นสีจราจร โดยแทนการจราจรปกติด้วยสีเขียว การจราจรติดขัดเล็กน้อยด้วยสีส้ม และการจราจรติดขัดด้วยสีแดง 

รวมถึงมีการแสดงตำแหน่งที่เกิดอุบัติเหตุ ตำแหน่งที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และมีเสียงแจ้งเตือนเมื่อเข้าใกล้จุดอุบัติเหตุล่วงหน้า 1 กิโลเมตรอีกด้วย นอกจากฟังก์ชั่น MAPS แล้ว JS100 Application ยังมีฟังก์ชั่น RADIO ที่จะสามารถฟังรับฟังข่าวสารการจราจรจากวิทยุ จส.100 ได้ทุกพื้นที่ 

รวมทั้งฟังก์ชั่น SOS ที่หากเกิดเหตุฉุกเฉินกะทันหัน เช่น รถเสีย น้ำมันหมด คลอดลูก ก็สามารถขอความช่วยเหลือเร่งด่วนจากฟังก์ชันนี้ได้ อีกทั้ง ฟังก์ชั่น INCIDENTS ที่จะแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนท้องถนนแบบเรียลไทม์ หากว่ามีอุบัติเหตุ มีการปิดถนน การซ่อมผิวจราจร หรือลดช่องทางจราจรเกิดขึ้น สุดท้ายคือฟังก์ชัน PNC NEWS ที่จะทำให้สามารถตรวจสอบสภาพอากาศ ทราบข่าวพยากรณ์อากาศได้ 

3. Highway Traffic

แอปพลิเคชั่นที่จะรายงานสภาพจราจรของทางหลวงในประเทศไทย เพื่อเป็นไกด์ไลน์ สำรวจเส้นทางการเดินทางบนทางหลวง โดยแอปนี้จะแสดงข้อมูลสภาพการจราจรที่ดูง่ายสามารถเลือกดูได้ทั้งแบบแผนที่ หรือจากกล้องจราจรที่ติดตั้งบนทางหลวง และยังมีการแสดงจุดบริการ เช่น ห้องน้ำ จุดพักรถ 

รวมทั้งแสดงระยะเวลาในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางจากข้อมูลความเร็วรถ และอัตราการไหลของรถ นอกจากนี้แอป Highway Traffic จะแสดงระดับการจราจรติดขัด โดยแบ่งตามสี ชัดเจน เข้าใจง่าย และยังมีฟังก์ชันให้สามารถค้นหาข้อมูลตามจุดติดตั้ง ชื่อถนน หรือภาคต่าง ๆ ได้

4. WAZE

แอปพลิเคชันแผนที่นำทางรูปแบบเรียลไทม์โดยใช้ข้อมูล crowdsource ในการวิเคราะห์การจราจร เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลการจราจรแบบทันต่อเหตุการณ์ และช่วยค้นหาเส้นทางที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทาง 

และยังมี Voice Prompts ระบบแจ้งเตือนเหตุในเส้นทางต่าง ๆ นอกจากนี้ก็มีหลากหลายฟังกชันในการทำงาน ได้แก่ การแสดงเส้นทางที่หลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทาง การรายงานอุบัติเหตุ หรือสภาพการจราจรบนเส้นทางที่กำลังเดินทาง และสามารถแชร์ข้อมูลดังกล่าวให้กับเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนได้ 

รวมทั้งฟังก์ชันค้นหาสถานีบริการน้ำมันใกล้เคียง การดาวน์โหลดเส้นทางต่าง ๆ สำหรับการใช้งานแบบออฟไลน์ ซึ่งสามารถใช้ได้เฉพาะระบบ Android และยังสามารถค้นหาเส้นทางที่คล่องตัวที่สุดจากทุกทิศโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย

5. ท่องทางหลวง (Trips On Thai Highways)

แอปพลิเคชันเพื่อการเดินทาง ที่จะทำให้สามารถตรวจสอบสภาพการจราจร สถานการณ์การจราจรแบบเรียลไทม์ ตำแหน่งจับกล้องจับความเร็ว จุดบริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และสถานีบริการน้ำมันสำหรับการเดินทางช่วงเวลาปกติและช่วงเทศกาล 

โดยแอปฯท่องทางหลวงมีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ได้แก่ ฟังก์ชันบริการทางหลวง ที่จะแสดงจุดบริการทั่วประเทศ ถนนแนะนำ จุดลานกางเตนท์สำหรับการท่องเที่ยว จุดพักรถ สถานีตรวจสอบน้ำหนัก และที่พักริมทาง รวมถึงบริการแนะนำอื่น ๆ เช่น สถานที่ท่องเที่ยว วัดและศาสนสถาน ร้านอาหาร บริการซ่อมรถและปะยาง เป็นต้น 

ขณะเดียวกันยังมีฟังก์ชันการค้นหาสถานที่และการนำทาง โดยสามารถกำหนดจุดหมายปลายทางได้มากถึง 10 จุด โดยระบบนำทางจะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันแผนที่ที่มีอยู่ในโทรศัพท์ ฟังก์ชันช่องทางการช่วยเหลือ จะมีข้อมูลของหน่วยงานช่วยเหลือและเบอร์ฉุกเฉินที่ใช้ในการติดต่อ เป็นต้น