เรื่องราวระหว่าง Apple และอินโดนีเซียดูเหมือนจะยังไม่จบลงง่ายๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศแบน iPhone 16 ห้ามวางจำหน่ายในประเทศ ใครใช้ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
โดยอ้างเหตุผลว่า Apple ไม่ลงทุนในประเทศตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ รวมถึงการไม่ใช้ส่วนประกอบในประเทศตามสัดส่วนที่กำหนด จนนำไปสู่การนำเสนอเงินลงทุนก้อนใหญ่จาก Apple มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางรัฐบาลได้ทำการประเมินข้อเสนอก้อนใหญ่ที่ Apple จะลงทุนเพิ่ม 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสร้างโรงงานประกอบอุปกรณ์เสริม โดยหลังจากพิจารณาพบว่าข้อเสนอดังกล่าวไม่เป็นไปตามหลักของความยุติธรรม
อินโดนีเซียเปรียบเทียบข้อเสนอดังกล่าวกับการลงทุนที่ใหญ่กว่าของ Apple ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม และไทย รวมทั้งยังเปรียบเทียบการลงทุนของ Apple กับผู้ผลิตโทรศัพท์คู่แข่งอย่าง Samsung ที่ได้ลงทุน 8 ล้านล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย และ Xiaomi ที่ได้ลงทุน 55 ล้านล้านรูเปียห์เพื่อผลิตอุปกรณ์ในประเทศ
Apple ให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าจะลงทุนเป็นจำนวนเงิน 1.7 ล้านล้านรูเปียห์ ซึ่งตอนนี้ลงทุนไปแล้ว 1.5 ล้านล้านรูเปียห์ ซึ่งข้อเรียกร้องของอินโดนีเซียคือการให้ Apple ส่งมอบเงินที่เหลืออีกราว 10 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ จากคำมั่นสัญญาการลงทุนเมื่อปีที่ผ่านมา และต้องเสนอข้อเสนอที่ดีกว่าสำหรับปี 2567-2570
อินโดนีเซีย พยายามออกมาตรการปกป้องประเทศตนเองมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้เคยประกาศกฎระเบียบบังคับให้ Bytedance บริษัทแม่ของ TikTok แยกฟีเจอร์การช็อปปิ้งออกจาก TikTok เพื่อปกป้องภาคการค้าปลีกของตนเองจากสินค้าจีน
ส่วนการแบน Apple ถือว่าน่าสนใจเพราะอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโต มีประชากรที่อายุน้อย และมีความรู้ด้านเทคโนโลยี รวมทั้งยังมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้กันมากถึง 350 ล้านเครื่องในประเทศ การเจาะตลาดอินโดนีเซียอย่างระยะยาวจึงเป็นกลยุทธ์ที่บิ๊กเทคฯ ต่างจับตามอง
อ้างอิง : reuters, bnn bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด