InVent ลงทุน Series A จำนวน 40 ล้านบาทใน 'ChocoCRM' Startup ระบบจัดการลูกค้า

CVC ของไทยอย่าง InVent จากบริษัท Intouch ประกาศลงทุนใน 'ChocoCRM' Startup ด้านระบบจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และ POS ด้วยเงินลงทุนประเภท Series A จำนวน 40 ล้านบาท พร้อมถือหุ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็น Startup รายที่ 16 ที่ InVent ให้การสนับสนุน

Corporate Venture Capital (CVC) ของไทยอย่าง InVent โดยบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (Intouch) ประกาศลงทุนในบริษัท Startup ด้านระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management) และระบบการจัดการหน้าร้าน (Point of Sale: POS) อย่าง ChocoCRM ด้วยเงินลงทุนประเภท Series A จำนวน 40 ล้านบาท พร้อมถือหุ้นในบริษัท 20 เปอร์เซ็นต์

ซึ่ง CRM คือการผสานระหว่าง Technology และ Marketing เพื่อสร้างฐานลูกค้าให้กับธุรกิจ โดยยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า ในงานอีเวนท์หนึ่งอาจจะเปิดให้ผู้เข้าร่วมสแกน QR Code แล้วกรอกโค้ดที่ได้รับมาจากการซื้อของเพื่อลุ้นรับรางวัลใหญ่ในอีเวนท์ก็ถือว่าเป็น CRM แล้ว

โดย ChocoCRM เป็น B2B และ B2B2C ที่เกิดมาจากการที่เห็น Pain Point ว่าธุรกิจส่วนใหญ่มาจากลูกค้าประจำ ซึ่งธุรกิจใหญ่ๆ จะทำ CRM กันอยู่แล้ว แต่ CRM สำหรับ SME ก่อนหน้านี้ยังไม่มี จึงเกิดความคิดจะทำแพลตฟอร์ม CRM สำหรับธุรกิจ SME ขึ้น

 

ChocoCRM ระบุว่าระบบของตัวเองมีจุดเด่น 2 อย่าง คือ

  • การมีระบบ CRM ที่ครอบคลุมทุกมิติของ Loyalty Program โดยสามารถเชื่อมเข้ากับโปรแกรมขายหน้าร้าน (POS) ได้ ทำให้ร้านค้าสามารถนำเอาข้อมูลของลูกค้าไปวิเคราะห์เพื่อให้นำเสนอสินค้าหรือบริการตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น
  • เรื่องความยืดหยุ่น (Flexibility) ในการออกแบบ CRM ให้เหมาะกับธุรกิจแต่ละประเภท โดยมองธรรมชาติของลูกค้ามาเป็นอันดับแรก รวมถึงระบุด้วยว่ามีการเราเก็บข้อมูลและ Feedback จากลูกค้ามาจริง

ทำให้ในปี 2560 ทางบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 19 ล้านบาท และในปี 2561 นี้ก็มีรายได้ถึง 30 ล้านบาทแล้ว

ซึ่งบริษัทก็ระบุเพิ่มเติมว่าจะนำเงินลงทุนที่ได้ใช้การวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) ตัว Product รวมถึงรวมถึงจะทำการประชาสัมพันธ์และการตลาดให้จริงจังมากขึ้น รวมถึงส่งเสริมร้านค้าที่ไม่มีหน้าร้านค้า (เช่น วางสินค้าในร้านสะดวกซื้อ) ใช้ระบบของบริษัทในการติดตามยอดขายให้มากขึ้น

นอกจากนี้ยังตั้งเป้าว่าบริษัทจะมีรายได้ 200 ล้านบาท ภายใน 3 ปี รวมถึงตั้งเป้ามีลูกค้า SME ให้ได้มากถึง 5,000 รายในกรุงเทพฯ, ชลบุรี, เชียงใหม่ และภูเก็ต ภายใน 3 ปีด้วยเช่นกัน

ส่วนทางด้าน Invent เห็นว่าการดูแลรักษาลูกค้าเก่าให้คงอยู่เราบริษัท ใช้ต้นทุนต่ำกว่าการหาลูกค้าใหม่ถึง 5 เท่า รวมถึงประเทศไทยมี SME มากถึง 3 ล้านราย คิดเป็น 99 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจทั้งหมดในประเทศ จึงมองว่าเป็นโอกาสของ ChocoCRM จึงได้สนใจเข้าร่วมทุนใน Startup รายนี้

ก่อนหน้านี้ InVent ได้เคยลง Startup ไปแล้วทั้งสิ้น 15 ราย ได้แก่ Ookbee, Computerlogy, Meditech Solutions, Infinity Levels, SINOZE, Playbasis, GolfDigg, ShopSpot, Wongnai, Omnivirt, Digio, Event Pop, Shopback, YDM Thailand และ VVR Asia

ในปี 2561 ที่ผ่านมา InVent ได้ลงทุนใน 2 บริษัท Startup ได้แก่ YDM Thailand และล่าสุดคือ ChocoCRM โดยคาดการณ์ว่าจะมีการลงทุนเพิ่มอีก 2 บริษัท Startup ในปีนี้ โดยหวังว่าจะได้ใช้เงินลงทุนให้ครบ 200 ล้านบาทภายในปีนี้ เพราะปีที่ผ่านมาก็ใช้เงินลงทุนไปแค่ประมาณปีละ 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ InVent ยังระบุว่าเริ่มให้ความสนใจ Startup สาย Deep Tech อย่าง AI, Data Analytics, Blockchain มากขึ้น โดยโฟกัส Startup ในไทยก่อน เพราะในการลงทุนใน Startup ต่างประเทศก็มีความเสี่ยงพอสมควร รวมถึงบางบริษัท Startup ก็เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่มีเป็นจำนวนมาก จึงสนใจให้เงินลงทุนในระดับ Seed Fund อีกด้วย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะดีล Netflix เข้าซื้อ Warner Bros ทำไมถึงยอมจ่ายมากถึง 8.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำไมหลายคนไม่เห็นด้วย

นับเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการบันเทิงหนัง Netflix เจ้าตลาดสตรีมมิ่งประกาศเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. ซึ่งนับรวมถึงสตูดิโอสร้างภาพยนตร์-โทรทัศน์ และธุรกิจสตรีมมิ่ง HBO Max และ HBO ด...

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...

Responsive image

วิกฤตสมองไหลใน Apple ไม่จบ ! ล่าสุด Meta ดึงตัว Alan Dye หัวหน้าทีมดีไซน์ Apple ผู้คุมออกแบบ Liquid Glass ใน iOS26

เจาะลึกสมองไหลใน Apple ปี 2025 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ AI หลายคนย้ายไป Meta, OpenAI และ Cohere ส่งผลต่ออนาคต Apple Intelligence...