จากความสำเร็จในปี 2016 ของโครงการ กรุงศรี ไรส์ ฟินเทค แอคเซเลเรเตอร์ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ในเครือกรุงศรี กรุ๊ป มุ่งต่อยอดความสำเร็จในการให้ความสนับสนุนฟินเทค สตาร์ทอัพในปีที่ผ่านมา ผ่านโครงการ กรุงศรี ไรส์ รุ่น 2 ภายใต้แนวคิด ‘เร่งโตสองเท่า’ (Accelerate 2X Potential) โดยจะช่วยเร่งสปีดการเติบโตของธุรกิจฟินเทคแบบก้าวกระโดดเป็นสองเท่าตัว พัฒนาองค์ความรู้และการลงทุนให้กับธุรกิจฟินเทค สตาร์ทอัพ ตลอดจนยกระดับขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการเงินรูปแบบใหม่เข้าสู่ภาคธุรกิจดิจิทัล
ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัล แบงก์กิ้ง และนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เป้าหมายของโครงการกรุงศรี ไรส์ สอดคล้องกับพันธกิจหลักของกรุงศรี ฟินโนเวต ในการมุ่งมั่นส่งเสริมและผลักดันธุรกิจฟินเทคสตาร์ทอัพให้เติบโตทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ซึ่งกรุงศรี ไรส์ รุ่น 2 นี้ จะมีความเข้มข้นขึ้น และเราเชื่อมั่นว่า เมื่อทั้ง 10 ทีมได้ผ่าน Intensive Bootcamp ในระยะเวลา 4 เดือนหลังจากนี้ เราจะมีโอกาสเห็นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ได้ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเราประมาณการ Market Value ที่จะเกิดขึ้นได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท”
นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร ‘ไรส์’ (RISE) กล่าวว่า “ภายใต้แนวคิด ‘เร่งโตสองเท่า’ ความเข้มข้นของหลักสูตรและระยะเวลาของโครงการจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิม ด้วยโปรแกรมเร่งสปีดการเติบโตทางธุรกิจให้กับเหล่าฟินเทคสตาร์ทอัพ เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมต่อโลกของนักลงทุน (Venture Capital) กลุ่มลูกค้า กูรูจากหลากหลายวงการทั้งจากกรุงศรี พันธมิตร และทีมที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทั้งศาสตร์และศิลป์ในการทำธุรกิจ เพื่อช่วยขยายกรอบมุมมองความคิด ผลักดันฟินเทคสตาร์ทอัพสู่จุดหมายปลายทาง ด้วยความเชี่ยวชาญของ ‘ไรส์’ สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ (Corporate Innovation Accelerator) แห่งแรกในประเทศไทย”
โดยโครงการกรุงศรี ไรส์ รุ่น 2 นี้ จะผสมผสานการสนับสนุนเต็มรูปแบบจากกรุงศรี ฟินโนเวต ไม่ว่าจะเป็น
การขยายระยะเวลาการติวเข้มไปกับ Intensive Bootcamp
จาก 8 สัปดาห์ เพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 16 สัปดาห์เต็ม
กิจกรรมเร่งสปีดฟินเทคสตาร์ทอัพโดยผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา (RISE Experts และ RISE Mentors)
โดยเป็นการรวมตัวของกลุ่มนักธุรกิจที่ได้รับการยอมรับในวงการสตาร์ทอัพจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่อยู่ในแวดวงฟินเทค และเทคสตาร์ทอัพ ผู้บริหารระดับสูงมืออาชีพ รวมไปถึงทีมที่ปรึกษานำโดยสตาร์ทอัพรุ่นพี่ที่มีผลงานโดดเด่น ประสบความสำเร็จมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ บุคลากรผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาและบริษัทในเครือและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจอื่นๆ ในจำนวนที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ซึ่งจะมาร่วมเผยเคล็ดลับ แนวคิด วิธีการรังสรรค์เทคโนโลยีด้านการเงินให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการและนักลงทุน เพื่อตอบโจทย์กระแสการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
การออกแบบโปรแกรมแบบเฉพาะเจาะจง (Tailor-made Program for Each Startup)
โดยการศึกษาเรียนรู้ความต้องการของสตาร์ทอัพแต่ละแห่ง ด้วยการออกแบบโปรแกรมเฉพาะเพื่อชี้แนะแนวทาง เร่งสปีดการเจริญเติบโตทางธุรกิจได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
เครือข่ายสังคมทางธุรกิจ (RISE Social)
เพิ่มโอกาสขึ้นเป็นสองเท่า สำหรับการพบปะเหล่ากูรู นักธุรกิจระดับชั้นนำ และผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ของการทำธุรกิจด้านการเงินที่ไม่สามารถเข้าพบได้ทั่วไป มาพูดคุยแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์กับบรรดาฟินเทค สตาร์ทอัพ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้มากที่สุด และเพิ่มความเข้มข้นด้วยกิจกรรมเวิร์คช็อปนอกสถานที่ครั้งแรก
ความร่วมมือด้านเงินทุนในระดับภูมิภาค (Local and Regional Capital Collaboration)
โอกาสในการเชื่อมต่อกับนักลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อช่วยส่งเสริมให้ฟินเทค สตาร์ทอัพสามารถเติบโตพัฒนาไปได้ก้าวไกลสู่ระดับภูมิภาค
ไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่มีการเข้าร่วมถือหุ้น
ทุกทีมที่ผ่านการคัดเลือกจะไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดโปรแกรม จากปีที่แล้วซึ่งมีมูลค่า 200,000 บาท เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเป็น 400,000 บาทต่อคน และไม่มีข้อบังคับในการเข้าถือหุ้นกับฟินเทค สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโปรแกรมแต่อย่างใด
กรุงศรี ไรส์ สเปซ
เติมเต็มทุกองค์ความรู้ ต่อเติมทุกไอเดียความคิดสร้างสรรค์ ไปกับ Co-Working Space ใจกลางเมือง
บนพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร ที่ชั้น 22 อาคารอัมรินทร์ พลาซ่า ใกล้บีทีเอสชิดลม ให้แก่ฟินเทค สตาร์ทอัพผู้เข้าร่วมโปรแกรมได้มาใช้ในการศึกษาต่อยอดพัฒนาผลงาน
และนอกเหนือจากฟินเทค สตาร์ทอัพ 'กรุงศรี ไรส์ รุ่น 2' ยังเปิดรับสมัครเทคสตาร์ทอัพด้านอื่นๆ ด้วย รวมเรียกเป็น Fintech Plus ซึ่งจะต้องสร้างผลิตภัณฑ์มาแล้วระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะเฟ้นหาฟินเทคสตาร์ทอัพจำนวน 10 ทีม เพื่อเข้าร่วม Intensive Bootcamp ตลอดระยะเวลา 16 สัปดาห์ ซึ่งจะได้ติวเข้มโดยผู้เชี่ยวชาญในวงการสตาร์ทอัพ ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาแบบ 1-on-1 เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ที่จะมาเปลี่ยนโลกแห่งการเงินให้ก้าวไกลเหนือระดับ
ติดตามรายละเอียดโครงการที่ Riseaccel หรืออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 15 ฟินเทค สตาร์ทอัพที่ผ่านการบ่มเพาะจากโครงการกรุงศรี ไรส์ ในปีที่ผ่านมา คลิก
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด