
ใครที่เคยดูภาพยนตร์ Superman อาจจำได้ว่า 'คริปโตไนต์' คือแร่ที่ทำให้ซูเปอร์แมนหมดแรงในทันที แม้จะเป็นเพียงแร่ในโลกแฟนตาซี แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบแร่จริงที่คล้ายคริปโตไนต์จนถูกเรียกว่า “แฝดคริปโตไนต์” แล้ว ซึ่งอาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการปฏิวัติพลังงานของรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปได้เลยทีเดียว
แร่จาดาไรต์ (Jadarite) เป็นแร่หายากที่มีองค์ประกอบทางเคมีคล้ายกับคริปโตไนต์ในหนังซูเปอร์แมน ถึงขั้นที่ Interesting Engineering เรียกมันว่า “ฝาแฝดของคริปโตไนต์” โดยแร่นี้ประกอบไปด้วย โบรอน และ ลิเทียม ซึ่งเป็นแร่สำคัญที่ใช้ใน แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
จาดาไรต์ยังโดดเด่นในแง่คุณสมบัติทางพลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจทำให้มันกลายเป็นแหล่งลิเทียมทางเลือกใหม่สำหรับอุตสาหกรรม EV
ปัจจุบันแร่จาดาไรต์พบได้เพียงแห่งเดียวในโลก คือที่บริเวณแอ่งจาดาร์ ประเทศเซอร์เบีย ซึ่งเป็นแหล่งแร่ใต้ดินที่เพิ่งได้รับความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์ ทีมวิจัยจากลอนดอนได้ตีพิมพ์งานศึกษาเกี่ยวกับแร่นี้ในวารสาร Nature Geoscience โดยระบุว่าการเกิดของจาดาไรต์นั้นซับซ้อนและต้องอาศัยเงื่อนไขที่แม่นยำอย่างยิ่ง
สิ่งที่ทำให้จาดาไรต์น่าสนใจในแวดวง รถยนต์ไฟฟ้า คือการที่มันมี “ลิเทียม” เป็นส่วนประกอบ ซึ่งลิเทียมคือหัวใจสำคัญของแบตเตอรี่รถ EV ในปัจจุบัน แร่จาดาไรต์จะก่อตัวได้ก็ต่อเมื่อธรรมชาติผสมผสานเงื่อนไขที่ ‘พอดีเป๊ะ’ เหมือนสูตรเค้ก ได้แก่ ทะเลสาบที่มีด่างสูง แก้วภูเขาไฟที่อุดมลิเทียม และการเปลี่ยนดินเหนียวเป็นผลึกในสภาพที่ควบคุมอย่างละเอียด
Dr. Francesco Putzolu หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า “ถ้าองค์ประกอบไม่แม่นยำ หรือสภาพแวดล้อมผิดไปแม้แต่นิดเดียว แร่นี้จะไม่สามารถก่อตัวขึ้นได้เลย”
อีกหนึ่งจุดเด่นของจาดาไรต์คือ การสกัดแร่นี้ใช้พลังงานน้อยกว่าการทำเหมืองลิเทียมแบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่ากระบวนการผลิตมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า ถือเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าในระยะยาว
Dr. Robin Armstrong ผู้ร่วมเขียนงานวิจัย ระบุว่า แร่ชนิดนี้ “อาจมีศักยภาพมหาศาล” สำหรับการใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าทั่วยุโรป
นอกจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รถยนต์ไฟฟ้ายังช่วยประหยัดเงินในระยะยาว โดยเจ้าของรถสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันและค่าซ่อมบำรุงได้ถึง 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี และหากใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการชาร์จ ก็ยิ่งลดต้นทุนได้อีกมาก ในอนาคตหากแหล่งแร่จาดาไรต์สามารถนำมาใช้จริงได้ อุตสาหกรรม EV อาจมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลงและพึ่งพาแหล่งลิเทียมนำเข้าน้อยลง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในระดับภูมิภาค
สุดท้าย แม้แร่จาดาไรต์จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการสำรวจและพัฒนา แต่ศักยภาพของมันอาจเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปไปตลอดกาล ยิ่งถ้าสามารถขยายการค้นพบไปยังแหล่งอื่น ๆ ได้ในอนาคต มันอาจกลายเป็นพลังงานสะอาดแบบใหม่ที่ทั้งโลกต้องจับตามอง
อ้างอิง: thecooldown
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด