หลังจากที่เราได้เขียนบทความถึงทิศทางธุรกิจการส่งสินค้าในตลาดไทยไปก่อนหน้านี้นั้น วันนี้ถึงคราวข่าวของ lalamove กันบ้าง โดยเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้จับงานเชิญนักข่าวมาร่วมพูดคุยกับผู้บริหารโดยตรง

lalamove (ลาล่ามูฟ) เป็นหนึ่งในผู้นำด้านบริการการขนส่งสินค้าด่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตลาดไทยกำลังเป็นตลาดหนึ่งที่ lalamove ให้ความสนใจไม่ใช่น้อย ผู้บริหารระดับสูงของ lalamove เปิดเผยว่าปีหน้ามีแผนการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นและเป้าหมายที่จะได้รับเงินทุนสนับสนุนจากนักลงทุน จำนวนที่คาดไว้อยู่ที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นายเบลค ลาร์สัน หัวหน้าฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ จากสำนักงานใหญ่ที่ฮ่องกงกล่าวในงานพบปะสื่อว่า “ระบบการขนส่งในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ถือว่ายังมีข้อบกพร่องอยู่มาก ยิ่งพูดถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจ e-commerce, การใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรวมถึงความต้องการบริการขนส่งแบบวันเดียวถึง (same-day delivery) จากทั้งภาคบุคคลและธุรกิจต่างๆ หมายความว่าภูมิภาคนี้ต้องการระบบการขนส่งที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพพอที่จะสามารถให้บริการการขนส่งแบบครบวงจร เพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของทั้งธุรกิจขนาดย่อมและบริษัทขนาดใหญ่ได้อย่างดีที่สุด”

สถานการณ์ของธุรกิจ e-commerce ในประเทศไทย ภายในงานได้มีการแชร์ข้อมูลการเติบโตของธุรกิจ e-commerce ในประเทศไทยด้วย  ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและมีผลบวกต่อเศรษฐกิจในปัจุบันมาก ซึ่งมูลค่าปัจุบันนั้นอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 15-20% ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ผู้บริหารที่มาแชร์ข้อมูลอีกท่านคือ คุณสันทิต จีรวงศ์ไกรสร ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ ได้เปิดเผยถึงความสำเร็จของลาล่ามูฟในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาว่า “กรุงเทพฯ นั้นถือว่าเป็นเมืองที่กิจการของเราไปได้ดีที่สุดหากพูดถึงในด้านของปริมาณการเรียกใช้บริการ และยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนั้นก็น่าพอใจเป็นอย่างมาก แค่เฉพาะในกรุงเทพฯ มีผู้ดาวน์โหลดถึงเกือบ 30,000 ครั้งและเรามีคนขับในระบบอยู่ที่หลายพันคน มูลค่าของการเรียกใช้บริการของเรานั้นอยู่ที่ 19 ล้านบาทและในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเรามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น20% ในทุกๆเดือน ในปีพ.ศ. 2559 นั้น เราคาดไว้ว่าอัตราการเติบโตของลาล่ามูฟเฉพาะในกรุงเทพฯจะเพิ่มขึ้น 5 – 10 เท่า”

ในปัจุบัน lalamove ให้บริการแล้วใน 15 เมืองและมีจำนวนบัญชีผู้ใช้งานกว่า 455,000 คนและมีคนขับในระบบกว่า 30,000 คนทั่วทั้งภูมิภาค ส่วนมูลค่าของการเรียกใช้บริการนั้นอยู่ที่ 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

คาดการณ์ว่าจะได้รับเงินทุนสนับสนุนเป็นจำนวน 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปีหน้า หลังจากบริษัทได้รับเงินลงทุนมาแล้วเป็นจำนวน 20ล้านเหรียญสหรัฐฯ นายเบลคกล่าวว่า lalamove กำลังอยู่ในช่วงหาเงินทุนสนับสนุน Series B ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 1 หรือ 2 ของปีหน้า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้นักลงทุนชาวไทยเข้ามาร่วมด้วย โดยเงินทุนสนับสนุนส่วนใหญ่จะเข้าไปเสริมประสิทธิภาพให้กับการให้บริการของแอพพลิเคชั่น

“ในประเทศไทย เราเน้นการลงทุนไปที่การพัฒนาระบบและการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดเรียกใช้บริการ ลูกค้าของเรารู้จัก lalamove จากการบอกปากต่อปากกว่า 50% ซึ่งตรงนี้ทำให้เราประหยัดงบในการสร้างฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งเปิดโอกาสให้เรามีเงินลงทุนในส่วนของการพัฒนาการให้บริการมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาระบบเทคโนโลยี เพราะตรงนี้ถือว่าเป็นหัวใจหลักของบริษัทเราเลย”

ค่าบริการในการขนส่งให้ถึงมือผู้บริโภคนั้นคิดเป็นมูลค่า 20% ที่เพิ่มขึ้นมาจากราคาสินค้า ในฟากของกลุ่มลูกค้า lalamove นั้นก็มีการจับมือกันกับบริษัทใหญ่ๆ เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น IKEA ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเพิ่งตกลงเป็นพาร์ทเนอร์กันกับ lalamove เพื่อส่งของให้กับลูกค้า ส่วนที่ฮ่องกง lalamove ได้ทำงานร่วมกับ Google ในการจัดส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ Nexus 5X และ Nexus 6P ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของทวีปเอเชีย

เกี่ยวกับlalamove

Lalamove ก่อตั้งเมื่อปี 2556 ในฮ่องกงในชื่อ EasyVan โดยเป็นผู้นำเทคโนโลยีด้านลอจิสติกส์ในเอเชียในแบบ “on demand delivery” ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งบนระบบแอนดรอยด์และ iOS lalamove คือแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้คนขับได้งงานและช่วยให้ผู้ที่ต้องการส่งสินค้าได้รับการบริการที่รวดเร็ว, ไว้วางใจได้ ขณะนี้ lalamove ให้บริการใน 15 เมือง ซึ่งรวมถึง ฮ่องกง, สิงคโปร์, กรุงเทพฯ, กวางเจา, เสิ่งเจิ้น, ไทเป, ตงก่วน, โฝ่ชาน, เซี่ยงไฮ้, ฉงชิ่ง, จงซาน, ฮุ่ยโจว, หนานจิง, หางโจว และเฉิงตู มีคนขับในระบบกว่า 30,000 คนและผู้ใช้บริการกว่า 455,000 ราย มียอดดาวน์โหลดประมาณครึ่งล้าน ในประเทศไทย มียอดดาวน์โหลดที่ 30,000 ครั้งและมียอดคนขับอยู่ที่หลายพันคน

-------------------------------------------------------------------------------------------------

วิเคราะห์ข่าว

ถือเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นรายสำคัญในวงการ Logistic ที่กำลังมีการแข่งขันสูงมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะบ้านเรา สิ่งที่ทีมงานสังเกตเห็นได้คือ การทำโฆษณาของรายนี้นั้น ไม่ได้จัดหนักเหมือนคู่แข่ง และเน้นการทำตลาดแบบบอกต่อตามที่ผู้บริหารแถลงข่าววันนี้จริงๆ โดยช่วงที่เราไปสอบถามผู้ใช้งานทั่วไป ก็ได้เสียงตอบรับลักษณะนี้ และถ้าปีหน้า Lalamove ได้นักลงทุนจากไทยที่เป็น Strategic Partner ช่วยขยายเครือข่าย จะกลายเป็นผู้เล่นที่น่าจับตาในตลาดไทยมากขึ้นไปอีก