LINE TV ประกาศวิสัยทัศน์ในงาน LINE TV NEXPLOSION 2019 โดยตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการทีวีออนไลน์ที่ครองใจคนไทยทั้งประเทศภายใน 2 ปี ซึ่งจะมีทั้งการรับชมทีวีย้อนหลัง และ Content ที่มีการนําเสนอบน แพลนตฟอร์ม LINE TV เท่านั้น ทั้งนี้ยังได้เปิดเผยตัวเลขการเติบโตของผู้ชมและโฆษณาที่มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง
LINE TV ให้บริการมา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2014 โดยในปี 2018 ที่ผ่านมา มียอดผู้ชมใน LINE TV กว่า 1,200 ล้านวิว ตัวเลขนี้มาจากการรับชมละครย้อนหลัง ได้แก่เรื่อง ล่า , เมีย 2018 , บุพเพสันนิวาส และ เลือดข้นคนจาง ซึ่ง LINE TV ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบัน LINE TV กลายเป็นแพลตฟอร์มดูทีวีย้อนหลังอันดับหนึ่งของคนไทยไปแล้ว
คุณกวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “LINE TV เป็นแพลตฟอร์มที่คัดสรร Content คุณภาพ ที่นำเสนอรายการทีวีย้อนหลังได้รวดเร็วกว่า สมบูรณ์กว่า และหลากหลายกว่า แถมยังมี Original Content พิเศษ รวมอยู่ในแอปที่ง่ายต่อการใช้งานเพียงหนึ่งเดียว ยิ่งไปกว่านั้นผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึงได้แบบไม่มีค่าใช่จ่ายใดๆ กล่าวง่ายๆ คือ ‘LINE TV = ทีวีออนไลน์’ สำหรับคนไทยด้วยยอดการเข้าชมสูงถึง 60% จากฐานผู้ชมโทรทัศน์ปกติ 55 ล้านคน และใช้เวลารับชมต่อเนื่องถึงกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน”
ระหว่างปี 2019 - 2020 นี้ LINE TV ตั้งเป้าขยายตัวสู่การเป็นแพลตฟอร์มทีวีออนไลน์ของคนไทย คือขยายฐานจากผู้ชมกลุ่มคนเมืองสู่กลุ่มแมสทั่วประเทศ ซึ่งกลยุทธ์คือเน้นสร้าง Content ที่ตรงความสนใจของผู้ชมทุกกลุ่ม ได้แก่ รายการทีวีย้อนหลัง , Original Content , แอนิเมชั่น และดนตรี ซึ่งมีการจับมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่และพาร์ทเนอร์เดิมได้แก่ ช่อง 8 , PPTV , ช่องวัน 31, จีเอ็มเอ็มทีวี, กันตนา, นาดาวบางกอก และช่อง 3 เป็นต้น ซึ่งแอนิเมชันใหม่ๆ ที่เตรียมนำเสนอ ตั้งใจขยายฐานกลุ่มผู้ชมเพศชาย เนื่องจากปัจจุบันผู้ชมผู้หญิงมีมาก รวมทั้งการ Content ที่จับกลุ่มแฟนเพลงศิลปินลูกทุ่ง เพื่อจับกลุ่มผู้ชมในกลุ่มแมสให้มากขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ Originals Content ที่เตรียมนำเสนอเฉพาะ LINE TV ได้แก่ ซีรีส์ One Year โดย GDH559 ที่มีการดึง BNK48 มาร่วมแสดง , ซีรีส์ Drama รีเมคเรื่อง ‘พรุ่งนี้...จะไม่มีแม่แล้ว’ ที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมี ‘Great Men Academy’ ซีรีส์จากนาดาวบางกอก และ ‘Infinite Challenge Thailand’ รายการบันเทิงยอดนิยมจากเกาหลีใต้ในเวอร์ชั่นไทยจาก Workpoint
ปัจจุบัน LINE TV มียอดการรับชมที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง (เฉลี่ยยอดรับชมเพิ่มขึ้น 80% จากปีก่อน) และยังมีตัวเลขการโฆษณาที่สูงมากเช่นกัน โดย มีอัตราเข้าชมสูงขึ้นถึง 2 เท่า รวมไปถึงความตั้งใจซื้อของผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบในภาพรวม มูลค่าโฆษณาที่ลงทุนกับ LINE TV จึงถือว่าเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยประสบความสำเร็จเฉลี่ยถึง 100% ต่อปี นับตั้งแต่เปิดให้บริการ
คุณนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายขายและสื่อโฆษณา LINE ประเทศไทย ยังได้เผยถึง Thailand Movement 2018 ซึ่งจะประกาศผลิตภัณฑ์โฆษณาตัวใหม่ ที่จะช่วยให้นักการตลาดดึงดูดความสนใจจากลุกค้า และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น
“จากผลสำรวจโดย Kantar Milward Brown ปี 2562 เผยว่า ปัจจุบัน LINE TV คือ ‘ทีวีออนไลน์อันดับหนึ่งในใจ’ ของคนไทย และจากคอนเทนต์คุณภาพที่เรานำเสนอผ่าน LINE TV ก็ยิ่งทำให้มีผู้ติดตามชมรายการผ่านแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการรับชมโฆษณามีรูปแบบเช่นเดียวกับการรับชมผ่านทีวีในอดีต ซึ่ง ‘การรับชมต่อเนื่อง’ นี้ส่งผลให้มียอดรับชมโฆษณาเพิ่มเป็น 2 เท่า ทั้งในแง่ของการตั้งใจรับชมและโอกาสในการรับชม” คุณนรสิทธิ์กล่าว
ในปี 2018 ที่ผ่านมา มีแบรนด์ระดับโลกทั้งผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ลงงบโฆษณากับ LINE TV เป็นมูลค่าเพิ่มถึง 100% จากมูลค่าในปี 2017 ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยี และ E-Commerce ด้วยยอดเติบโต 40% และมียอดโฆษณาทาง LINE TV สูงสุดในไตรมาส 4 ของปี 2018โดยเติบโตถึง 400% จากไตรมาส 4 ของปีก่อน
สำหรับปี 2019 LINE TV เตรียมแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ และการวางแผนโฆษณาทั้งทางทีวีและสื่อดิจิตอล ซึ่งรวมไปถึง การแทรกโฆษณาสินค้า VTR โฆษณาก่อนและหลังเนื้อหา ซึ่งพบว่ายอดรับชมโฆษณาหลังจบเนื้อหาช่วยเพิ่มยอดวิวถึง 20% เมื่อเทียบกับโฆษณาประเภทอื่น จึงยิ่งตอบสนองความต้องการของนักการตลาดที่อยากดึงความสนใจจากผู้ชมในจำนวนมากขึ้น ที่สำคัญ LINE TV ยังเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์เพียงแห่งเดียวที่สามารถดึงดูดผู้ลงโฆษณาโดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ ต่อแบรนด์อีกด้วย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด