Zipevent แพลตฟอร์มบริหารจัดการงานอีเวนต์และจำหน่ายบัตรชั้นนำของไทย ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Link Station Group บริษัทเทคโนโลยีจำหน่ายบัตรจากประเทศญี่ปุ่น โดย Link Station Group ได้เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ใน Zipevent การลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้ Zipevent เติบโตและขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเสริมศักยภาพผู้จัดงานอีเวนต์ ทั้งในด้านการจัดงานออนไลน์และออนไซต์

ก้าวใหม่ของ Zipevent 

Zipevent เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มบริหารจัดการงานอีเวนต์ ครอบคลุมตั้งแต่การลงทะเบียน การจำหน่ายบัตร และ การมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมงาน การเข้ามาของ Link Station Group จะช่วยเพิ่มโอกาสในการพัฒนานวัตกรรม และ ยกระดับบริการของ Zipevent ให้ดียิ่งขึ้น

คุณภาโรจน์ เด่นสกุล CEO ของ Zipevent กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นกับความร่วมมือครั้งนี้ การลงทุนจาก Link Station Group จะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยให้เราพัฒนาแพลตฟอร์ม และบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและการขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาค”

Zipevent ยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก

ลูกค้าของ Zipevent จะยังคงได้รับบริการอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะยังคงดำเนินงานอย่างอิสระ ภายใต้การสนับสนุนด้านทรัพยากรและความเชี่ยวชาญจาก Link Station Group ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี และ บริการใหม่ๆ ได้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การขยายสู่ตลาดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของตลาดอีเวนต์และการจัดการประชุมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือระหว่าง Zipevent และ Link Station จะเปิดโอกาสให้บริษัทขยายตลาดใหม่ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย พร้อมเสริมความแข็งแกร่งในประเทศไทย การเติบโตนี้ไม่เพียงขยายตลาดของ Zipevent แต่ยังสนับสนุนพันธกิจในการทำให้การจัดการงานอีเวนต์ในภูมิภาคนี้สะดวกและทันสมัยยิ่งขึ้น การสนับสนุนจาก Link Station ช่วยให้ Zipevent พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการงานสำหรับผู้จัดงาน

เป้าหมายในปี 2028 คือการก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลก

การลงทุนใน Zipevent สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ Link Station Group ที่ต้องการขยายธุรกิจสู่ตลาดสากล โดยมีเป้าหมายเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายบัตรชั้นนำของโลก และมี Zipevent เป็นศูนย์กลางการเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ให้สำเร็จ ทั้งสองบริษัทกำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายร่วมกัน พร้อมแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Tokyo Stock Exchange ภายในปี 2028