Mark Zuckerberg ยังคงยืนยันว่าจะไม่มีการให้ผู้ใช้จ่ายเงิน เพื่อแลกกับการปิดโฆษณา หรือเพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น ย้ำ ทุกคนควรมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม
หลายคนอาจจะเบื่อหน่ายกับโฆษณาบน Facebook แม้จะมีคนตั้งคำถามว่า จะดีกว่าไหมหาก Facebook ไม่ต้องพึ่งรายได้จากโฆษณา แต่มาพึ่งรายได้จากค่าสมัคร (Subscription) ของคนที่ไม่ต้องการเห็นโฆษณาแทน ใครอยากเห็นโฆษณาก็ใช้ฟรีไป ส่วนคนที่ไม่อยากเห็นก็ต้องจ่ายเพิ่ม
ในทุกปี มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก จะบอกเป้าหมายส่วนตัวที่ต้องการทำในแต่ละปี เป้าหมายในปี 2019 คือความต้องการให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น โดยมาร์คจะเน้นออกบรรยายในที่สาธารณะเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีและสังคม แทนที่จะมุ่งแก้ปัญหาของ Facebook เหมือนอย่างในปี 2018
โดยล่าสุด มาร์คได้ออกมาพูดต่อหน้าสาธารณะครั้งแรก (ตามเป้าหมายปี 2019) โดยไฮไลท์ของบรรยายในครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง 'ฟีเจอร์ Ad-free ปิดโฆษณาบน Facebook' ว่าจะเปิดให้ผู้ใช้งานจ่ายเงินเพื่อแลกกับความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นหรือไม่ โดยมาร์คยังคงยืนยันว่า "จะไม่เปิดให้ผู้ใช้งานจ่ายเงินเพื่อปิดโฆษณาแน่นอน"
"หลายคนถามว่า เราจะเปิดให้ผู้ใช้งานต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อที่พวกเขาจะสามารถควบคุมการใช้งานได้เองหรือไม่ คำตอบของผมก็คือ 'ไม่มีทางอย่างแน่นอน'"
จริงๆ แล้วผู้ใช้งานไม่ได้มีปัญหากับโฆษณาหรอก แต่เป็นเรื่อง ‘ข้อมูลส่วนตัว’ ที่ Facebook ทำการรวบรวม แล้วใช้มันเพื่อยิงโฆษณากลับไปยังพวกเขาต่างหาก
นี่หมายถึงการที่พวกผู้ใช้งานไม่สามารถควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนตัวได้นั่นเอง
“Facebook สร้างขึ้นบนหลักการของการเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ทุกคนสามารถมีพื้นที่ของตัวเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่การเปิดให้มีการสมัครสมาชิกแบบพรีเมี่ยม ที่ผู้ใช้ไม่ต้องเห็นโฆษณา มันเป็นการปิดโอกาสในการเก็บข้อมูลของ Facebook แม้มันจะส่งผลต่อรายได้ก็ตาม”
ผมไม่คิดว่าเราควรจะเสียเงินเพื่อปิดการเข้าถึงข้อมูล ข้อมูลควรจะเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึง และใช้มันได้อย่างเท่าเทียม สำหรับผมแล้วนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
“สำหรับผมแล้วคำถามอย่าง ผู้ใช้งานควรจ่ายเงินเพื่อที่จะไม่ต้องเห็นโฆษณาหรือไม่ หรือคำถามอย่างการที่ผู้ใช้สามารถจ่ายเงินเพิ่มเพื่อที่จะควบคุมข้อมูลความเป็นส่วนตัวของตัวเองได้ มันฟังดูเป็นคำถามที่ไม่ค่อยถูกหลักจริยธรรมเท่าไร "
ซึ่ง 'ฟีเจอร์ Subscription' นั้นก็คือการที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับ Facebook เช่นเดียวกับ 'ฟีเจอร์ล้างประวัติการค้นหา (Clear History)' ก็เพื่อลบข้อมูลส่วนตัวที่ไม่ต้องการให้ Facebook ทำการเก็บข้อมูล
“หากมีคนพร้อมจ่ายเงินซื้อเวอร์ชั่นไม่มีโฆษณา ก็เพื่อป้องกันการใช้งานข้อมูลส่วนตัวจากระบบ พูดง่ายๆ ก็คือ พวกเขาต้องการควบคุมข้อมูลตนเอง เพื่อที่ Facebook จะไม่สามารถเข้าถึงหรือทำอะไรกับข้อมูลของเขาได้ ซึ่งเราจะไม่ปล่อยให้มีการควบคุมเช่นนี้เกิดขึ้น เรื่องอำนวจควบคุมการใช้ข้อมูลมันควรจะเป็นเรื่องที่ทุกคนมีอำนาจอย่างเท่าเทียมกัน"
อย่างไรก็ตาม แม้ Facebook จะปล่อยฟีเจอร์นี้ออกมาให้ใช้จริงๆ มาร์คก็ยังคิดว่ามันไม่จำเป็นอยู่ดี
"ผมไม่คิดว่าจะมีคนจำนวนมากยอมจ่ายเงินเพื่อไม่ต้องเห็นโฆษณานะ ซึ่งหลายโฆษณาบน Facebook มันก็เหมือนกับ Organic content ในแง่ของการที่คนสามารถเข้าถึงมันได้อย่างเท่าเทียมนั่นแหละ”
ที่มา:
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด