Mastercard บริษัทที่ให้บริการด้านการชำระเงิน เผยแผนงานด้านสิ่งแวดล้อมสเกลระดับโลก เล็งรีไซเคิลบัตรเครดิตและเดบิตนับพันล้านใบที่หมดอายุแล้ว เลี่ยงการฝังกลบทำลายที่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม

ในช่วงเริ่มต้น บริษัทได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ HSBC Holdings แปดสาขาในสหราชอาณาจักร โดย Mastercard จะจัดหาเครื่องเชรดเดอร์ (shredding machine) ให้ ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่ใช้สำหรับบดบัตรให้ละเอียดจนกลายเป็นวัตถุดิบที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ แต่ละเครื่องสามารถบรรจุบัตรได้ 10,000 ใบ เทียบเท่ากับพลาสติก 50 กิโลกรัม โดยเมื่อเต็มแล้วก็จะนำไปโรงงานเพื่อรีไซเคิล

บริษัทไม่ได้ระบุถึงงบประมาณที่จะใช้กับโครงการนำร่องนี้ แต่เผยว่าลูกค้าสามารถนำบัตรอะไรมารีไซเคิลก็ได้ แม้จะเป็นของบริษัทคู่แข่ง

ในแต่ละปีมีบัตรที่หมุนเวียนอยู่ในระบบถึง 3,100 ล้านใบ และแต่ละปีมีการผลิตบัตรถึง 600 ล้านใบ โดยแต่ละใบมีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี ทุกครั้งที่บัตรหมดอายุ สูญหาย ก็ต้องมีการออกบัตรใหม่ ซึ่งแนวทางของ Mastercard ที่ถือเป็นผู้ผลิตบัตรเจ้าใหญ่ของโลกเชื่อว่าจะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สิ่งแวดล้อมมหาศาล

เมื่อเดือนเมษายน Mastercard ยังประกาศจะใช้พลาสติกที่ทำจากวัสดุยั่งยืนมากขึ้นในการทำบัตร เช่น rPVC, rPET หรือ PLA1

แก้ปัญหาขยะพลาสติก 

บัตรเครดิตและเดบิตล้วนทำมาจากพลาสติก รวมถึงสารเคมีที่ทำมาจากปิโตรเลียม และยังมีแถบแม่เหล็กและชิปสมาร์ทการ์ดที่มีเศษโลหะเป็นส่วนประกอบ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดมลภาวะ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การใช้งาน และการกำจัด

พลาสติกมีส่วนทำให้เกิดวิกฤตสภาพอากาศโลก องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) พบว่าในปี 2019 เพียงปีเดียว พลาสติกก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 1.8 พันล้านเมตริกตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 3.4 ของทั้งหมดทั่วโลก

นอกจากนั้นพลาสติกยังถูกทำลายด้วยวิธีการฝังกลบถึง 46 % ในขณะที่อีก 22 % ก็ได้รับการจัดการที่ไม่ถูกต้องและกลายเป็นขยะ ที่ทั้งทำลายทรัพยากรดินและน้ำของโลก 

อ้างอิง : Reuters