Meta กำลังวางแผนสร้างสายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้ทะเลขนาดใหญ่ที่มีระยะทางกว่า 40,000 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.45 แสนล้านบาท
ด้าน TechCrunch ยืนยันว่า Meta ตั้งงบประมาณเริ่มต้นที่ 2,000 ล้านดอลลาร์ แต่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเมื่อโครงการพัฒนาในระยะยาว โดย Sunil Tagare ผู้เชี่ยวชาญด้านสายเคเบิลใต้ทะเลและผู้ก่อตั้ง Flag Telecom กล่าวว่าโครงการนี้อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการดำเนินการ และงบประมาณมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกิน 10,000 ล้านดอลลาร์
แต่สิ่งสำคัญคือ Meta จะเป็นเจ้าของและผู้ใช้สายเคเบิลใต้น้ำเพียงรายเดียว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของบริษัท และถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับความพยายามด้านโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท
การดำเนินโครงการครั้งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของทีมโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของ Meta นำโดย Santosh Janardhan หัวหน้าฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท โดยยังไม่มีการลงมือก่อสร้างใดๆ และคาดว่า Meta จะประกาศข้อมูลเพิ่มเติมในต้นปี 2025
หากโครงการสำเร็จ สายเคเบิลดังกล่าวจะมีเส้นทางเป็นรูปตัว "W" เชื่อมต่อจากชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ไปยังอินเดียผ่านแอฟริกาใต้ และจากอินเดียไปยังชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ผ่านออสเตรเลีย ซึ่งจะช่วยให้ Meta มีระบบการส่งข้อมูลทั่วโลกที่เป็นของตนเองโดยเฉพาะ
สายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้ทะเลเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารมานานกว่า 40 ปี แต่สิ่งที่น่าสนใจในครั้งนี้คือ ใครเป็นผู้ลงทุนสร้างและเป็นเจ้าของโครงการ รวมถึง เป้าหมายของการใช้งาน
แผนการของ Meta สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในอุตสาหกรรมเครือข่ายใต้ทะเล ซึ่งในอดีตส่วนใหญ่เป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการโทรคมนาคม แต่ในปัจจุบันยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทในฐานะนักลงทุนและเจ้าของโครงการ
แม้ Meta จะไม่ใช่หน้าใหม่ในอุตสาหกรรมนี้ โดยข้อมูลจาก Telegeography ระบุว่า Meta เป็นผู้ถือหุ้นร่วมในเครือข่ายสายเคเบิลใต้ทะเล 16 เครือข่าย รวมถึงโครงการล่าสุดอย่างสายเคเบิล 2Africa ที่ล้อมรอบทวีปแอฟริกา (ซึ่งมีพันธมิตรร่วมโครงการ เช่น Orange, Vodafone, China Mobile และ Bayobab/MTN)
อย่างไรก็ตาม โครงการสายเคเบิลใหม่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ Meta เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
โครงการนี้จะทำให้ Meta ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับ Google ซึ่งมีส่วนร่วมในเส้นทางสายเคเบิลใต้ทะเลถึง 33 เส้น รวมถึงบางเส้นที่ Google เป็นเจ้าของทั้งหมด ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่อื่น ๆ อย่าง Amazon และ Microsoft มีบทบาทเป็นเพียงผู้ถือหุ้นบางส่วนหรือผู้ซื้อความจุเครือข่ายเท่านั้น โดยยังไม่มีเส้นทางใดที่เป็นเจ้าของทั้งหมดเหมือน Meta และ Google
อ้างอิง: techcrunch
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด