Microsoft ประกาศเปิดตัว Dragon Copilot เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้ช่วย AI รุ่นใหม่ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียง โดยรวมความสามารถของสองโซลูชันเด่น ได้แก่
การรวมสองซอฟต์แวร์นี้เข้าไว้ใน Dragon Copilot ช่วยให้แพทย์สามารถออกคำสั่งด้วยเสียงโดยไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์เอง AI ยังสามารถดึงข้อมูลจากแหล่งทางการแพทย์มาตอบคำถามได้โดยตรง
Microsoft ระบุว่า Dragon Copilot จะช่วยแพทย์เรียกดูข้อมูลทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงร่างบันทึกทางการแพทย์ จดหมายส่งต่อ รายงานสรุปหลังการตรวจ และเอกสารอื่น ๆ โดยอัตโนมัติ เป้าหมายหลักคือการลดภาระงานเอกสารที่หนักหน่วง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บุคลากรทางการแพทย์เกิดภาวะหมดไฟ (Burnout)
จากผลการศึกษาของ Google Cloud ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พบว่าแพทย์ต้องใช้เวลากว่า 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ไปกับเอกสารและงานธุรการ ส่งผลให้เวลาที่สามารถใช้กับผู้ป่วยลดลงอย่างมาก Dragon Copilot จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้แพทย์สามารถกลับไปโฟกัสที่การดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่
Dragon Copilot ถูกออกแบบให้ใช้งานได้ผ่าน แอปมือถือ, เว็บเบราว์เซอร์ และเดสก์ท็อป พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับ ระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (EHR) หลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่เพียงแค่ช่วยร่างบันทึกคนไข้แบบอัตโนมัติ แพทย์ยังสามารถใช้ ภาษาพูดธรรมดาที่เหมือนคุยกับคน เพื่อแก้ไขเอกสารหรือสั่งให้ AI ดำเนินการเพิ่มเติมได้ เช่น
ปัจจุบันมีการทดสอบแล้วในโรงพยาบาลจริง ซึ่งก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Microsoft ได้ทดลองใช้งาน Dragon Copilot กับแพทย์กลุ่มหนึ่งที่ WellSpan Health ซึ่งให้บริการผู้ป่วยใน 250 แห่ง และ 9 โรงพยาบาล ในรัฐเพนซิลเวเนียและแมริแลนด์
Microsoft เดินหน้าสู่ตลาด AI สำหรับงานเอกสารทางการแพทย์อย่างจริงจัง นับตั้งแต่เข้าซื้อ Nuance Communications บริษัทผู้พัฒนา Dragon Medical One และ DAX Copilot ในปี 2021 ด้วยมูลค่ากว่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 5.4 หมื่นล้านบาท) ส่งผลให้ Microsoft กลายเป็นผู้นำตลาด AI สำหรับช่วยบันทึกเอกสารทางการแพทย์ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการสูงในระบบสาธารณสุขทั่วโลก
แม้ปัจจุบันในตลาด Healthtech จะมีคู่แข่งมากมาย แต่ Microsoft มั่นใจว่า Dragon Copilot ซึ่งเป็นการอัปเกรดจาก DAX Copilot จะทำให้บริษัทก้าวนำหน้าตลาดได้ ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง และการเชื่อมต่อกับระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (EHR) ได้อย่างราบรื่น
Microsoft ยังไม่เปิดเผยราคาของ Dragon Copilot แต่ยืนยันว่า “ราคาจะแข่งขันได้” และลูกค้าที่ใช้งานโซลูชันเดิมสามารถอัปเกรดได้อย่างง่ายดาย โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ และแคนาดาในเดือนพฤษภาคม ก่อนขยายไปยังสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ในช่วงเดือนถัดไป
อ้างอิง: cnbc
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด