Microsoft ประกาศยุติการสนับสนุนการให้บริการ Internet Explorer โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายนเป็นต้นไป หลังอยู่คู่กับผู้ใช้ยาวนานเกือบ 27 ปี ซึ่งการประกาศยุติการสนับสนุนการใช้งานในครั้งนี้ ต่อเนื่องจากการยุติการสนับสนุน Microsoft 365 และแอพพลิเคชันอื่น ๆ สำหรับ Internet Explorer 11 ในปีที่แล้ว เพื่อนำเสนอเว็บเบราว์เซอร์ตัวใหม่อย่าง Microsoft Edge ซึ่งยังไม่เป็นที่นิยมในหมู่ Internet User แทน
โดยหลังจากนี้ Microsoft จะไม่สนับสนุนการใช้แอพลิเคชันบนหน้าเดสก์ท็อปที่เป็น Internet Explorer 11 แต่ผู้ใช้ยังสามารถใช้งานได้ผ่าน Windows Server 2022 หรือระบบปฏิบัติการรุ่นก่อนหน้า โดยโหมด IE ของเบราว์เซอร์ Edge จะยังคงได้รับการสนับสนุนจนถึงปี 2029 หรือในเวอร์ชันที่ใหม่กว่านั้น
ตัวแทนของ Microsoft ได้กล่าวว่า “พวกเราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุน Internet Explorer ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนและองค์กรจำนวนมากทั่วโลกพึ่งพา Internet Explorer เพื่อช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้ เติบโต และดำเนินธุรกิจออนไลน์มาโดยตลอด” โดยทาง Microsoft จะมุ่งผลักดันให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนมาใช้เบราว์เซอร์รุ่นใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้ Microsoft Edge นี้ไม่เพียงแต่เป็นประสบการณ์การท่องเว็บที่รวดเร็ว ปลอดภัย และทันสมัยกว่า Internet Explorer เท่านั้น Microsoft Edge ยังสามารถที่จะเข้ากันได้ดีสำหรับเว็บไซต์และแอพพลิเคชันใหม่ ๆ หลายรุ่นอีกด้วย
Internet Explorer เปิดตัวในปี 1995 เป็นซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการวินโดวส์และเป็นเว็บเบราว์เซอร์ของไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็าที่นิยมใช้มากเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีสัดส่วนการใช้งานบนตลาดเว็บเบราว์เซอร์ประมาณ 95% ในปี 2002 แต่เนื่องจากคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้นในปี 2011 ส่งผลให้แนวโน้มการใช้งานนั้นลดลง เพราะผู้ใช้หันไปใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ Chrome ของ Google แทน
ตั้งแต่มีการเปิดตัวจนถึงปัจจุบัน Internet Explorer การอัปเกรดเบราว์เซอร์อยู่บ่อยครั้ง ก่อนจะอัพเกรด Internet Explorer 11 ซึ่งเป็นเวอร์ชันสุดท้ายในปี 2013 และได้มอบประสบการณ์ที่ดีสำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ตให้กับผู้ใช้ในทุก ๆ ยุคตลอด 18 ปีที่ผ่านมา
Internet Explorer 1.x นั้นเรียกได้ว่าเป็นการเปิดโลกของผู้ใช้งานให้สามารถเข้าถึงบริการทางออนไลน์ต่าง ๆ ได้มากขึ้นผ่านการเชื่อมต่อทุกเว็บไซต์ด้วยเบราว์เซอร์ของ Internet Explorer
Internet Explorer 2.0 ถูกอัปเกรดเพื่อตอบสนองความต้องการที่มากขึ้นของผู้ใช้งานในเรื่องของความปลอดภัย การสนับสนุนคุกกี้ และเพิ่มความสามารถในการติดตามด้วยโปรโตคอล Secure Socket Layer (SSL)
Internet Explorer 3.0 นั้นเปรียบเหมือนการเปิดโลกใหม่ด้วยการให้บริการเนื้อหาจากเว็บไซต์ชั้นนำฟรี เช่น .com และ online เป็นต้น ทำให้บริษัทสื่อระดับแนวหน้าต่างพากันแข่งขันเพื่อให้เป็นที่รู้จักบนเว็บและแสดงเนื้อหาใหม่ ๆ ผ่านระบบออนไลน์
Internet Explorer 4.0 เป็นยุคของ PC Power โดยทีมพัฒนาของ Microsoft ได้ทำการเพิ่ม Dynamic HTML (DHTML) เพื่อให้เว็บเพจสามารถโต้ตอบได้มากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยผู้ใช้งานสามารถขยายเมนูได้ด้วยคลิกเดียว ภาพและวัตถุต่าง ๆ ก็สามารถลากไปมาได้ ตัวเว็บเริ่มมีลักษณะเหมือนกับโปรแกรมประยุกต์และเกมต่าง ๆ ที่ใช้งานบน PC มากขึ้น
Internet Explorer 5.0 Web page ถูกอัปเกรดให้ใช้ประโยชน์จากความสามารถของ DHTML ใน Internet Explorer 4.0 เพื่อขยายขีดความสามารถของเว็บเบราว์เซอร์ให้เป็นประตูไปสู่ยุคของอีคอมเมิร์ซ และการเรียนรู้มากขึ้น
Internet Explorer 6.0 เป็นการอัปเกรดซอฟต์แวร์อินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ให้มีเครื่องมือรักษาความเป็นส่วนตัวที่มีประสิทธิภาพสูง ตามข้อกำหนดเฉพาะของ Platform for Privacy Preferences (P3P) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าระดับความเป็นส่วนตัวของตนเอง เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนตัวเผยแพร่ไปบนอินเทอร์เน็ต
Internet Explorer 7.0 หลาย ๆ เว็บเบราว์เซอร์ในตอนนั้นถุกโจมตีด้วยภัยคุกคามทางออนไลน์อย่างหนัก การอัปเกรดของ Microsoft ในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพิ่มระบบป้องกันขั้นสูงที่ช่วยป้องกันซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายและการ โจมตีของฟิชชิง ซึ่ง Internet Explorer 7.0 จะให้ผู้ใช้งานตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้งานออนไลน์และปลอดภัยด้วยตัวเอง
Internet Explorer 8.0 ถูกอัปเกรดสามารถใช้งานได้ใน 25 ภาษาและนำคุณลักษณะการรักษาความปลอดภัยอันทันสมัยมาใช้ เพื่อช่วยลดเวลาในการทำงานทั่ว ๆ ไปบนเว็บของผู้ใช้งาน เช่น การค้นหา Maps และการใช้งานร่วมกัน เป็นต้น
Internet Explorer 9.0 มีการอัปเกรดเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่มีความเสถียรมากขึ้น ด้วยการแยกแท็บ การกู้คืนความผิดพลาดโดยอัตโนมัติ และคุณลักษณะใหม่ในการเรียกคืนแท็บ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลจะไม่สูญหายและยังสามารถเรียกดูต่อไปได้ เมื่อเว็บไซต์ทำงานขัดข้อง
อ้างอิง EconomicsTime Statetechmagazine Engatget
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด