Netflix มุ่งลงทุนซีรี่ย์เพิ่มในไทย ‘สมรสเท่าเทียม’ สร้างโอกาสนำเสนอเนื้อหาหลากหลาย

SEA เนื้อหอมอีกแล้ว เมื่อ Netflix สตรีมมิ่งภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศเดินหน้าสร้าง Local Content มากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้การลุยตลาด SEA เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าในครั้งนี้จะสวนทางคู่แข่งหลักอย่าง Disney+ และ Prime Video ที่พยายามมุ่งเน้นทำกำไรมากกว่าแค่เพิ่มจำนวนสมาชิก (Subscriber) แต่ Netflix ก็มองเห็นโอกาสเติบโตจากความสำเร็จของซีรี่ส์เกาหลีอย่าง ‘Squid Game’ 

Netflix เตรียมลุยตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตอนนี้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสร้างรายได้ให้กับ Netflix น้อยที่สุด โดยคิดเป็นประมาณ 11% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2023 ส่งผลให้ Netflix วางแผนที่จะผลิต Original Content ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย 

ในปีนี้ไทยมีซีรีส์ Netflix Original (ภาพยนต์ที่บริษัทให้ทุนสร้าง) เตรียมฉายกว่า 10 เรื่อง และเน้นไปที่การลงทุนกับ Local Content 

เนื่องจากความสำเร็จของ ‘Squid Game’ และ ‘One Piece’ ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า Local Content มีความสำคัญในภูมิภาคเอเชียมาก เนื่องจากผู้ชมส่วนใหญ่ชอบรายการที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและภาษาของตนเอง 

ข้อมูลจาก Media Partners Asia ยังชี้ว่า กว่า 80% ของการเข้าชมเนื้อหาจากแพ็คเกจระดับพรีเมียมมาจากรายการและภาพยนตร์ที่เป็น Local Content ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ก็มีโอกาสเพิ่มฐานลูกค้าในภูมิภาคนี้ให้มากขึ้นโดยเฉพาะคนหนุ่มสาว

กลยุทธ์นี้เคยประสบความสำเร็จไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมาจากซีรี่ส์ไทยอย่าง Hunger และซีรี่ส์อินโดนีเซียอย่าง Cigarette Girl โดยทั้ง 2 เรื่องเป็น Local Content ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก คอนเทนต์แบบนี้จึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญที่ Netflix มุ่งมั่นจะทำในปีนี้

ประเทศไทยได้แรงหนุนจาก ‘สมรสเท่าเทียม’ ในฐานะพื้นที่เปิดกว้างและเป็นสากล

ในขณะที่อินโดนีเซียซีรี่ส์ระทึกขวัญและอาชญากรรมได้รับความนิยม ทำให้ Netflix เน้นลงทุนสร้างคอนเทนต์แนวระทึกขวัญและอาชญากรรม ซึ่งไม่ได้มีความหลากหลายเท่าทีควร 

แต่สำหรับประเทศไทย Netflix เผยว่า มีพื้นที่สำหรับคอนเทนต์ที่หลากหลายและมีอิสระในการสร้างสรรค์มากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดประเทศไทยก็ถือเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่รับรองการแต่งงานของคนเพศเดียวกันอย่างถูกกฎหมาย (สมรสเท่าเทียม)

ด้าน Dhivya T นักวิเคราะห์ของ Media Partners Asia กล่าวว่า อินโดนีเซียมักจะมีความอนุรักษ์นิยมมากกว่า เนื่องจากเป็นประเทศมุสลิม ในทางกลับกัน คอนเทนท์ของไทยมีโอกาสได้รับความนิยมจากประเทศต่างๆ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า เนื่องจากมีความเป็นสากลและมีคุณภาพการผลิตสูง

อ้างอิง: bloomberg

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รู้จัก EngineAI ‘T800’ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์สุดแกร่งจากจีน ใช้แบตเตอรี่ Solid-state และชิป NVIDIA พร้อมลุยงานอุตสาหกรรมปี 2026

รู้จัก EngineAI T800 หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์สายกังฟูจากจีน ที่มาพร้อมสเปกสุดล้ำ แบตเตอรี่ Solid-state และชิป NVIDIA พร้อมลุยงานอุตสาหกรรมและ Mass Production ปี 2026...

Responsive image

เปิดเทรนด์ Garmin 2025 วิ่งยังยืนหนึ่ง ส่วนคนไทยหันมานั่งสมาธิ เดินเฉลี่ยวันละ 7,120 ก้าว

Garmin เปิดเผยข้อมูลจากรายงาน Garmin Connect Data Report 2025 ซึ่งรวบรวมสถิติการใช้งานจริงจากผู้ใช้ทั่วโลก แสดงให้เห็นภาพรวมกิจกรรมฟิตเนสที่เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดย...

Responsive image

Gemini 3 Flash ฉลาดแต่ไม่ซื่อสัตย์ ปัญหาใหญ่คือเน้นตอบให้ได้ มากกว่าตอบให้ถูก

Gemini 3 Flash โมเดล AI รุ่นล่าสุดจาก Google ถูกจับตาหนัก หลังผลทดสอบชี้ว่า แม้จะฉลาดและแม่นยำสูงเมื่อรู้จริง แต่ในกรณีที่ไม่รู้คำตอบ โมเดลกลับมีโอกาสสร้างคำตอบสมมติสูงถึง 91%...