สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) พาสตาร์ทอัพไทยเยือนประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมงาน "Sustainable High City Tech Tokyo 2024 (SusHi Tech Tokyo 2024)" มหกรรมเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว ระหว่างวันที่ 15-16 พฤษภาคม 2567 งานครั้งนี้ NIA นำเสนอศักยภาพของนวัตกรรมไทยผ่านสตาร์ทอัพที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพ 4 ราย ได้แก่ บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เดอะ บิ๊กส์แบง ทิออรี่ย์ จำกัด และบริษัท ซีที เอเชีย โรโบติกส์ จำกัด ด้วยเป้าหมายมุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจบนเวทีระดับนานาชาติ

งาน "SusHi Tech Tokyo 2024" จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยเป็นงานระดับนานาชาติที่ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลก เป็นเวทีสำคัญที่สตาร์ทอัพสามารถนำเสนอนวัตกรรม สร้างโอกาสทางธุรกิจ และขยายเครือข่ายความร่วมมือ  โดย NIA  ได้จัดกิจกรรมให้สตาร์ทอัพได้นำเสนอผลงานในงานหลายครั้งด้วยผ่านการ Pitching , Exhibition Showcase และการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching)

นอกจากการเข้าร่วมงานครั้งนี้แล้ว NIA ยังเดินหน้าสานต่อความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ร่วมกับหน่วยงานของประเทศญี่ปุ่น โดยได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ 2 หน่วยงานชั้นนำ ดังนี้

1. รัฐบาลกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government) มุ่งเน้นไปที่การพัฒนานวัตกรรมและส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยมีกรอบความร่วมมือ คือ 

1) แลกเปลี่ยนข้อมูลและนโยบายที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพ

2) ร่วมมือกันส่งเสริมการเติบโตของสตาร์ทอัพไทย-ญี่ปุ่น

2. Kiraboshi Bank (ธนาคารคิระโบชิ จำกัด) ธนาคารซึ่งดำเนินการโดยรัฐบาลกรุงโตเกียวสนับสนุนและลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยมีกรอบความร่วมมือ ดังต่อไปนี้ 

1) แลกเปลี่ยนองค์ความรู้เรื่องการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมและเรื่องการลงทุนในระบบนิเวศสตาร์ทอัพระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น สนับสนุน ส่งเสริม และร่วมมือในการพัฒนาและบริหารจัดการระบบนิเวศที่ส่งเสริมธุรกิจนวัตกรรม

2) เพิ่มโอกาสในการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมและสตาร์ทอัพ ผ่านโครงการหรือกิจกรรมส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการพัฒนาธุรกิจ เช่น การประชุมหรือเสวนาในระดับนานาชาติ การจับคู่ธุรกิจ การประชุมเชิงปฏิบัติการ หรือกิจกรรมอื่นๆตามความเหมาะสม

3) แลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องการพัฒนานวัตกรรมและสตาร์ทอัพให้เติบโตและยั่งยืน ระหว่างประเทศไทย และญี่ปุ่น  โดยเฉพาะในรายสาขาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการผลิต ธุรกิจบริการ การเกษตร อาหารและสมุนไพร การแพทย์และสุขภาพ พลังงาน สิ่งแวดล้อมและรถยนต์ไฟฟ้า การท่องเที่ยว และ Soft Power 

4) อื่นๆตามการตกลงของระหว่างหน่วยงาน

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า "การเข้าร่วมงาน SusHi Tech Tokyo 2024 ในครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพไทยได้แสดงศักยภาพบนเวทีระดับนานาชาติ พบปะนักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจ ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือ

"NIA มุ่งมั่นส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตและประสบความสำเร็จในเวทีโลก การลงนาม MOU กับ 2 หน่วยงานสำคัญในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือ ขยายโอกาส และสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจนวัตกรรม ดึงดูดการลงทุน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ"

ทั้งนี้ NIA พร้อมให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยอย่างเต็มที่ ในการเติบโตสู่ตลาดต่างประเทศ  ความรู้ และช่องทางการเข้าถึงตลาด หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ธุรกิจนวัตกรรมไทยเติบโต และสร้างชื่อเสียงบนเวทีโลกต่อไป