Nissan Motor ประกาศยุติการผลิต Nissan GT-R รถสปอร์ตระดับตำนานที่ครองใจแฟน ๆ มาตลอด 18 ปี โดยรถคันสุดท้ายในสี Midnight Purple เพิ่งออกจากสายการผลิตโรงงาน Tochigi และส่งมอบให้ลูกค้าในญี่ปุ่น ถือเป็นการปิดฉากยุคหนึ่งของซูเปอร์คาร์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีอิทธิพลต่อทั้งวงการมอเตอร์สปอร์ตและวัฒนธรรมป๊อปทั่วโลก

การหยุดผลิต GT-R มาจากแรงกดดันด้านกฎระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานเสียง ความปลอดภัย และการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้นในหลายประเทศ ผนวกกับความยากลำบากในการจัดหาชิ้นส่วนเฉพาะ ทำให้ Nissan จำเป็นต้องถอดชื่อ GT-R ออกจากไลน์อัปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007
แม้จะประกาศปิดสายการผลิต แต่ Ivan Espinosa ประธานบริษัท ย้ำชัดว่า GT-R ยังไม่ใช่จุดจบ “แม้วันนี้เรายังไม่มีแผนที่ชัดเจน แต่ GT-R จะพัฒนาและกลับมาอีกครั้ง” ซึ่งสะท้อนว่าสปอร์ตคาร์ไอคอนิกอาจถูกรีบูตในยุคใหม่ที่เทคโนโลยีไฟฟ้าและดิจิทัลเข้ามามีบทบาท
ชื่อ GT-R ถือกำเนิดในปี 1969 ในฐานะเวอร์ชันแข่งของ Skyline ก่อนที่ในปี 2007 Nissan จะปล่อย Nissan GT-R แยกออกมาเป็นโมเดลเดี่ยว จุดขายหลักคือสมรรถนะเหนือชั้น การประกอบเครื่องยนต์ด้วยมือที่โรงงาน Yokohama โดยช่างฝีมือเพียง 9 คน และผลงานในสนามแข่งอย่าง Super GT ที่สร้างภาพลักษณ์ “Godzilla” ให้เป็นรถญี่ปุ่นที่ท้าทายซูเปอร์คาร์ยุโรป
ตลอดระยะเวลา 18 ปี มีการผลิตรวมราว 48,000 คัน ซึ่งไม่เพียงเป็นรถ แต่ยังกลายเป็นวัฒนธรรมที่ปรากฏในเกม ภาพยนตร์ และวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก
การจากไปของ GT-R อาจเป็นโอกาสให้ Nissan รีดีไซน์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่นี้ในทิศทางที่สอดรับกับ EV Revolution และมาตรฐานความยั่งยืน จนกลับมาสร้างตำนานอีกครั้งก็ได้
อ้างอิง: asia.nikkei
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด