ด้วยโมเดลการทำธุรกิจอันเป็นเอกลักษณ์ของ OYO ที่เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายโดยไม่ได้เป็นเเค่ Platform สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมเป็น Partner แต่เข้าไปร่วมมือกับผู้ประกอบการด้วยทั้งการช่วยเตรียมพร้อมให้ Partner ในด้านความรู้และวางเเผนทางธุรกิจ รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจโรงเเรมในยุคปัจจุบัน เเละช่วยเสริมทักษะการบริการด้านที่พักทั้งหน้าบ้าน, เบื้องหลัง ซึ่งใช้ทักษะและจากประสบการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการและบริหาร ความเชี่ยวชาญด้านการเงิน รวมถึงใช้ข้อมูลวิเคราะห์ที่สามารถสร้างผลประกอบการให้ Partner และโรงเเรมในเครือ OYO ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นในทุกปี
OYO ไม่ได้มีเพียงเเค่ Platform ด้าน Application ที่เป็นหน้าบ้านอย่างที่เราเห็นกันแต่เบื้องหลังของระบบนั้นครอบคลุมถึงระบบปฎิบัติการบริการ บริหารธุรกิจ และการจัดการเรื่องต่างๆ ภายในโรงเเรมรวมไปถึงระบบวิเคราะห์ Data Analysis ให้กับผู้ประกอบการด้วยที่เรียกได้ว่าเป็น Smart Living ที่เกิดขึ้นจริงเเล้วในโรงเเรมของ OYO
ในประเทศไทย OYO เปิดให้บริการโดยมีห้องพักกว่า 8,000 ห้อง จาก 250 โรงแรม ใน 13 จังหวัด อาทิ กรุงเทพฯ, พัทยา, ภูเก็ต และ หัวหิน ตอบรับกระแสการท่องเที่ยวในราคาที่พักที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ OYO Hotels เริ่มเปิดให้บริการในประเทศไทย หลังความสำเร็จในการขึ้นเป็นผู้นำตลาดธุรกิจเครือโรงแรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม ด้วยการนำเสนอที่พักที่มีคุณภาพ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย บนโลเคชั่นที่ดีที่สุดทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
โดย OYO ได้นำโมเดลทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาปรับใช้ ซึ่งรวมการออกแบบ การบริการ ทักษะด้านเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญทางการเงิน และความสามารถในการดำเนินธุรกิจมาใช้ในประเทศไทย ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกับ OYO ได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น เข้าถึงโอกาสในการปิดการจองที่พักได้ง่ายขึ้น มีการปรับปรุงคุณภาพและมอบบริการที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้า โดยทุกที่พักในเครือ OYO ได้รับการการันตีการให้บริการ เครื่องปรับอากาศ ฟรี Wifi โทรทัศน์ และบริการผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอนที่สะอาดสำหรับผู้เข้าพักทุกคน
คุณอัลปานา ดูเบ, อุปทูต ณ สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ปีนี้มีการคาดการว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางมาที่ประเทศไทยมากกว่า 2 ล้านคน ดังนั้น OYO จึงจะมีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของการท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างแน่นอน”
“ OYO คือหนึ่งในความสำเร็จทางธุรกิจของประเทศอินเดีย โดยเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับไม่เพียงเฉพาะในประเทศอินเดีย แต่จากนักเดินทางทั่วโลก ดิฉันมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ OYO เข้ามาให้บริการในประเทศไทย และขออวยพรให้ OYO ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้” คุณอัลปานา กล่าวเสริม
คุณมัณดา ไวดิย่า, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง, OYO กล่าวว่า “แม้ประเทศไทยจะเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหม่สำหรับ OYO แต่ด้วยศักยภาพของประเทศ OYO มั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นตลาดที่สำคัญต่อการเติบโตทางธุรกิจของ OYO ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
“มาเลเซียถือเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ OYO เปิดให้บริการ นอกเหนือจากในประเทศอินเดีย ปัจจุบัน OYO ให้บริการที่พักในมากกว่า 160 เมืองทั่วโลก ผ่านแฟรนไชส์และโรงแรมกว่า 2,500 แห่งในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งจำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นหลังจากเราเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย”
“การขยายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทโดยการเปิดให้บริการในประเทศไทย จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายซึ่งได้แก่ การมีห้องพักภายใต้การดูแลจัดการของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม 2 ล้านห้อง ภายในปี ค.ศ. 2025 ซึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยโดยพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย อีกทั้งจำนวนเที่ยวบินสู่ประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราบรรลุถึงเป้าหมายอย่างแน่นอน”
“เราดีใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ให้บริการในประเทศไทย ผ่านจุดขายของ OYO ซึ่งคือการให้บริการห้องพักที่สวยงาม ทันสมัย สะดวกสบาย โลเคชั่นดี ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย” คุณมัณดา กล่าวเสริม
คุณอชูโตช สิงห์, ผู้อำนวยการบริหาร ประจำประเทศไทย, OYO กล่าวว่า “ภารกิจของ OYO คือการปรับปรุงคุณภาพของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มีรายได้ระดับปานกลาง และคนในชุมชนได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้ชีวิตในแบบ #LivingTheGoodLife
“อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการนั้นกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรม โดยมีวิวัฒนาการที่ก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเทคโนโลยียังเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาธุรกิจในปัจจุบัน OYO มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยและหน่วยงานต่าง ๆ อาธิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการมอบบริการใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในประเทศไทย เราตั้งใจที่จะมอบห้องพักที่มีคุณภาพ และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เพลิดเพลินให้กับทุกคนในประเทศไทย พร้อมช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ประกอบการโรงแรมอิสระในประเทศในขณะเดียวกัน”
“เรามั่นใจกับการเติบโตของเราในประเทศไทยแม้จะเพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันเรามีห้องพักกว่า 8,000 ห้อง ใน 13 จังหวัดทั่วประเทศ OYO เห็นความต้องการของตลาดสำหรับที่พักราคาระดับกลางถึงบนในประเทศไทย และตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจ OYO ในประเทศให้แข็งแกร่ง" คุณอชูโตช กล่าวสรุป
OYO ได้ปฏิวัติเครือข่ายธุรกิจห้องพักราคาประหยัดในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยได้เพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานจัดการโรงแรมให้แก่กลุ่มเจ้าของธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กผ่านการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยมาช่วยต่อยอด ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการสามารถแข่งขันกับกับเครือโรงแรมขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้อย่างสำเร็จ
OYO มุ่งมั่นที่จะนำเสนอโมเดลทางธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จสู่เจ้าของกิจการโรงแรมทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ผ่านรวมเอาเอกลักษณ์ทางด้านการดีไซน์ การบริการ นวัตกรรมที่ล้ำสมัย ประกอบกับการบริหารทางด้านการเงินและการดำเนินการทางธุรกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า มีอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนลูกค้าที่เข้าพัก เพิ่มผลกำไรที่เกิดขึ้นจากการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ OYO
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด