การเหยียดสีผิว หรือแบ่งชนชั้นกันถือเป็นการกระทำที่เรียกว่าแย่มากสำหรับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้วนะ แต่เมื่อคอมพิวเตอร์ยังทำสิ่งนั้นกับคุณ มันถือเป็นสิ่งที่น่าเจ็บใจนัก

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับนายริชาร์ด ลี นักศึกษาชาวนิวซีแลนด์ผู้มีสายเลือดเอเชีย เขาที่กำลังศึกษาอยู่ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย

ภาพจากแฟนเพจบน Facebook ของดีเจชาวออสเตรเลียชื่อ Mashd N Kutcher

เรื่องมีอยู่ว่าริชาร์ดต้องการจะต่ออายุพาสสปอร์ตของเขาผ่านทางระบบออนไลน์ แต่กลับถูกระบบปฏิเสธรูปภาพของเขาที่ส่งเข้าไป ด้วยเหตุผลที่ว่ารูปของเขา "หลับตา" ทั้งๆ ที่รูปของเขาก็ลืมตาอยู่ และด้วยเหตุนี้ ทำให้เขาไม่สามารถต่ออายุหนังสือเดินทางของเขาได้ ซึ่งซอฟท์แวร์ตัวนี้เป็นระบบทำหนังสือเดินทางของประเทศนิวซีแลนด์ก็ได้แนะนำให้เขาใช้รูปอื่นแทน

นายลีได้กล่าวกับสำนักข่าว Reuters ว่า “ผมไม่เสียความรู้สึกกับเรื่องนี้ เพราะดวงตาของผมมีขนาดเล็กมากจริงๆ เทคโนโลยีการตรวจจับใบหน้าถือเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่และตรงไปตรงมา มันเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่มีความรู้สึกเท่านั้น และท้ายที่สุดผมได้รับการต่ออายุพาสปอร์ตของผมเรียบร้อยแล้ว"

อีกด้าน โฆษกของกระทรวงมหาดไทยของนิวซีแลนด์ได้บอกกับ Reuters ว่า “ประมาณร้อยละ 20 ของภาพถ่ายหนังสือเดินทางที่ส่งเข้าระบบมาทางออนไลน์จะถูกปฏิเสธด้วยหลายสาเหตุ ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือดวงตาที่ถูกปิด ซึ่งในกรณีนี้ถือเป็นข้อผิดพลาดทั่วไป"

ระบบตรวจจับใบหน้า หรือ Facial Recognition System โดยทั่วไปจะทำงานโดยการวิเคราะห์ลักษณะของใบหน้า โดยการวัดระยะทางระหว่างอวัยวะส่วนต่างๆ เช่น ตา, จมูก, ปาก และขากรรไกร

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกระบบมีการกล่าวหาในเชิงการเหยียดชนชั้น ก่อนหน้านี้ ProPublica เปิดเผยว่าทางตำรวจอเมริกันว่าได้ใช้ซอฟท์แวร์ตัวหนึ่งซึ่งลำเอียงกับคนผิวดำ โดยการทำนายว่าเป็นอาชญากรในอนาคต

เรียบเรียงจาก huffingtonpost และ mashable