บล.พาย โตต่อเนื่อง ยอดเปิดบัญชีใหม่เพิ่ม 40% ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาด TFEX

เห็นผลสำเร็จและเป้าหมายทางธุรกิจของธนาคารไปหลายแบรนด์แล้ว มาดูความสำเร็จจากการดำเนินงานของ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ 'Pi' 'บล. พาย' บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์แบบครบวงจร ในปี 2567 ต่อด้วยกลยุทธ์ปี 2568 ที่มุ่งยกระดับบริการการลงทุนครบวงจร และประสบการณ์การลงทุนที่เข้าถึงง่ายตามแนวคิด 'Investing, simplified' 

บล.พาย หรือ Pi ได้รับใบอนุญาตในการดำเนินการในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2509 ต่อมาเปลี่ยนจากธุรกิจรูปแบบดั้งเดิมเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมดิจิทัล โดยได้เปิดตัวแอปพลิเคชันซื้อขายสินทรัพย์การลงทุนแบบครบวงจร ซึ่งรองรับการซื้อขายสินทรัพย์หลายประเภทตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 และบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการขยายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไปสู่ระดับสากล รวมถึงการขยายการให้บริการด้านการบริหารจัดการความมั่งคั่ง

คุณณัฐพล จันทร์สิวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ร่วม) บล.พาย เปิดเผยว่า "แม้ปี 2567 จะเป็นปีที่ตลาดการลงทุนประสบกับความผันผวนสูงและเผชิญกับปัจจัยกดดันหลากหลาย แต่ บล.พายยังขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคง และมุ่งมั่นในการพัฒนาการบริการและสร้างสรรค์นวัตกรรมการลงทุนอย่างต่อเนื่องภายใต้แบรนด์ 'พาย' ซึ่งทำให้เรามียอดเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นราว 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งยังสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ด้วยการเป็นบริษัทหลักทรัพย์อันดับหนึ่งด้านรายได้ของ TFEX อีกทั้งยังได้เปิดตัวบริการ Pi MT4 อย่างเป็นทางการเพื่อยกระดับประสบการณ์การซื้อขายอนุพันธ์ด้วย Innovative Trading เสริมเครื่องมือให้แก่นักลงทุนพร้อมต่อยอดความมั่งคั่ง

“ด้าน Pi Financial แอปพลิเคชันที่เปิดตัวไปในปี 2567 มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 140,000 ครั้ง ซึ่ง บล.พายพัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถซื้อ-ขายหลักทรัพย์หลากหลายประเภทได้ครบจบในที่เดียวผ่านเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ สะท้อนการเป็นแนวหน้าของวงการการเงินดิจิทัล ส่วนธุรกิจ Pi Private Wealth ซึ่งเปิดตัวไปในปี 2567 เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) ก็สามารถเริ่มต้นได้เป็นอย่างดี มีสินทรัพย์ภายใต้การดูแล (AUA) เติบโตอย่างต่อเนื่อง"

คุณณัฐพล จันทร์สิวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ร่วม) บล.พายคุณณัฐพลให้ข้อมูลเพิ่มว่า จากความมุ่งมั่นพัฒนาของ บล.พาย ทำให้บริษัทคว้า 3 รางวัลทรงเกียรติจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แก่ 

• TFEX Agent of the Year ติดกัน 6 ปีซ้อน (2562-2567)
• TFEX Best Award of Honor 2024 สาขา Active Agent ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (2563-2567)
• TFEX Best Award 2024 สาขา Most Active House ตอกย้ำความเป็นผู้นำในวงการ TFEX ของ บล.พายได้เป็นอย่างดี

“สำหรับปี 2568 บล.พาย วางกลยุทธ์ขยายผลิตภัณฑ์การลงทุนให้ครอบคลุมตลาดและความต้องการที่หลากหลายของนักลงทุนยิ่งขึ้น ทั้งเปิดตัว Pi DR03 ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ช่วยให้นักลงทุนไทยเข้าถึงการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้อย่างสะดวก"

นอกจากนี้ บล.พายยังนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนให้แก่นักลงทุนอีก 4 รายการ ได้แก่ 

• WORLD03 ที่เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีระดับบลูชิพ 10 อันดับแรกของโลก 
• JAP03 ที่รวบรวมหุ้นบริษัทญี่ปุ่นชั้นนำที่มีศักยภาพการเติบโตระดับโลก 
• GOLD03 ที่ลงทุนในทองคำแท่งโดยตรงเพื่อรักษามูลค่าเงินในภาวะเงินเฟ้อ 
• OIL03 เป็น DR ตัวแรกของตลาดที่อ้างอิงกับราคาน้ำมัน 

"เรายังพัฒนาบริการ Pi MT5เสริมเครื่องมือการลงทุนหุ้นไทยด้วย Innovative Trading และจะขยายครอบคลุมไปยังอนุพันธ์ไทยและต่างประเทศในช่วงครึ่งหลังปี 2568 ด้านของ Pi Financial แอปพลิเคชัน ที่มีจุดเด่นในการซื้อ-ขายผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายได้ครบจบในหนึ่งเดียวอยู่แล้วนั้น เรายังคงไม่หยุดยั้งพัฒนาฟีเจอร์สต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานง่ายยิ่งขึ้น สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นไปพร้อมกับความมีเสถียรภาพและความปลอดภัยในการลงทุน” 

คุณณัชชา สุนทรธาราวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ร่วม) และผู้บริหารสูงสุดด้าน Private Wealth บล.พาย

คุณณัชชา สุนทรธาราวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ร่วม) และผู้บริหารสูงสุดด้าน Private Wealth กล่าวเสริมถึงเป้าหมายในปี 2568 ว่า “Pi Private Wealth มุ่งมั่นยกระดับบริการการลงทุนสำหรับกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ (HNW) ด้วย Business Ecosystem ที่แข็งแกร่งจากความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก พร้อมนำเสนอโซลูชันการลงทุนที่ออกแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Investment Solutions) โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ครบถ้วน ทำให้สามารถจัดพอร์ตการลงทุนโดยกระจายในทุกสินทรัพย์ทั่วโลก ตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุนของลูกค้า อีกทั้งยังสอดคล้องกับภาวะตลาดที่มีความผันผวนและเป็นความท้าทายมาโดยตลอด"  

คุณณัชชายังบอกอีกว่า บล.พายมีบริการระบบ Consolidated Portfolio ที่ช่วยให้ลูกค้าติดตามพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังมุ่งมั่นสร้างประสบการณ์พิเศษผ่าน Privilege & Lifestyle Experience ด้วยกิจกรรมที่คัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้า Pi Private Wealth 

คุณกวี ชูกิจเกษม เป็น ประธานเจ้าหน้าที่สายการบริหารพอร์ตการลงทุน บล.พาย

ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ บล.พาย ยังเตรียมเปิดตัวบริการ Investment Advisory ในปี 2568 โดยมี คุณกวี ชูกิจเกษม เป็น ประธานเจ้าหน้าที่สายการบริหารพอร์ตการลงทุน 

“บริการ Investment Advisory เป็นบริการพิเศษที่ออกแบบขึ้นเพื่อให้บริการลูกค้าของ บล.พาย โดยมีผม ‘กวี ชูกิจเกษม’ ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจการเงินมาแล้วมากกว่า 30 ปี ผ่านโอกาสและวิกฤตทางการเงินมาอย่างมากมายเป็นผู้ดูแลบริการดังกล่าว ซึ่งผมจะนำประสบการณ์ที่สั่งสมเหล่านี้มาใช้พัฒนากลยุทธ์และวางแผนการลงทุนเพื่อให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้ บริการนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่มุ่งสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่ต้องการการดูแลพิเศษและพร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความผันผวนของสถานการณ์ตลาด" คุณกวีกล่าว

ภายใน 1-2 ปี คุณกวีคาดการณ์เพิ่มว่า หุ้นไทยจะกลับมาที่ 1,500 จุด ซึ่งหมายความว่า หากตลาดหุ้นลงไปที่ 1,000 จุด แล้วต่อมาหุ้นฟื้นไปที่ 1,500 จุด คนที่ช้อนซื้อตอน 1,000 จุด ก็อาจได้กำไร 50% 

"บล.พายมุ่งมั่นตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกระดับ พร้อมสร้างประสบการณ์การลงทุนที่เข้าถึงง่ายภายใต้แนวคิด 'Investing, simplified' นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ครอบคลุม เรายังมุ่งเสริมสร้างความรู้และกลยุทธ์การลงทุนให้แก่ลูกค้า ผ่านทีมนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์ ด้วยเป้าหมายในการเป็น 'House of Alpha' ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเทรดได้อย่างมั่นใจ สร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายของการลงทุนเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จทางการเงิน (Financial Success) ไปกับ บล.พาย" คุณณัฐพลกล่าวทิ้งท้าย