Techsauce ได้รับเกียรติเข้าร่วมงานเปิดตัวสุดพิเศษของ World ที่มี Alex Blania CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Tools for Humanity ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่ทำร่วมกับ Sam Altman และกำลังจะเปลี่ยนโฉมโลกออนไลน์ ด้วยเทคโนโลยี Proof of Human ที่ช่วยยืนยันตัวตนมนุษย์บนโลกดิจิทัล ในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด

โลกดิจิทัลกำลังเปลี่ยนไป AI กำลังครองพื้นที่อินเทอร์เน็ต

Blania เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ ความก้าวหน้าของ AI ที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่ AI สามารถเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ได้อย่างแนบเนียน ทั้งในรูปแบบของข้อความ เสียง และวิดีโอ

"อีก 24 เดือนข้างหน้า อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่จะไม่ได้ขับเคลื่อนโดยมนุษย์ แต่จะถูกควบคุมโดย AI เป็นหลัก" – Alex Blania

การเปลี่ยนแปลงนี้นำไปสู่คำถามสำคัญ: ในโลกออนไลน์ที่เต็มไปด้วย AI เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังโต้ตอบกับมนุษย์จริง ๆ ไม่ใช่บอท? นี่คือที่มาของ World และแนวคิด Proof of Human ที่จะเข้ามาช่วยแยกแยะมนุษย์ออกจาก AI

Blania เผยว่า ทีมงานของเขาเริ่มต้นแนวคิดนี้ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ร่วมกับ Sam Altman (CEO ของ OpenAI) โดยพวกเขาวางแผน 4 ขั้นตอนสำคัญ เพื่อสร้างเครือข่ายมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดบนอินเทอร์เน็ต

1. สร้างระบบ Proof of Human ที่สามารถยืนยันตัวตนได้โดยไม่กระทบข้อมูลส่วนบุคคล
2. กระจายอำนาจและความเป็นเจ้าของเครือข่าย ผ่านระบบดิจิทัลโทเคน
3. ขยายขนาดและกระจายศูนย์กลาง เพื่อให้ใช้งานได้ทั่วโลก
4. ใช้เครือข่ายนี้เพื่อกระจายผลประโยชน์ของ AI ให้กับทุกคน

ปัจจุบัน World อยู่ที่ขั้นตอนที่ 3 โดยกำลังขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งานระดับโลก และกำลังเตรียมเข้าสู่ตลาดไทย

Blania อธิบายว่า Proof of Human คือกระบวนการยืนยันตัวตนที่ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ผู้ใช้สามารถรับ World ID ซึ่งเป็น การพิสูจน์ว่าคุณเป็นมนุษย์จริง ผ่านขั้นตอนง่าย ๆ

1. ดาวน์โหลดแอป "World App"
2. ไปยังจุดยืนยันตัวตน (เช่น ร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร หรือสถานีขนส่ง)
3. ใช้เครื่อง Orb Scanner ตรวจสอบความเป็นมนุษย์
4. รับ World ID เพื่อใช้ยืนยันตัวตนบนแพลตฟอร์มออนไลน์

Blania ย้ำว่า "เราไม่ต้องการรู้ว่าคุณเป็นใคร เราแค่ต้องการรู้ว่าคุณเป็นมนุษย์จริง ๆ"

Orb Scanner หรือเทคโนโลยี Proof of Human สำคัญแค่ไหน ?

Blania พูดถึงแนวโน้มของ AI ในปีหน้า ว่า AI จะไม่ใช่แค่เครื่องมือที่รอรับคำสั่งจากมนุษย์อีกต่อไป แต่มันจะสามารถทำงานแทนเราแบบอัตโนมัติ หรือที่เราทุกคนรู้จักกันในฐาน AI Agent

•  ปี 2024 – AI จะสามารถทำงานที่ใช้เวลา 5-10 นาที ได้โดยอัตโนมัติ
• ปี 2025 – AI จะสามารถจัดการงานที่ต้องใช้เวลา เป็นวันหรือสัปดาห์
• ปี 2026 และต่อไป – AI อาจสามารถจัดการโปรเจกต์ที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี

เมื่อถึงจุดนั้น อินเทอร์เน็ตอาจถูกขับเคลื่อนโดย AI 99% และมนุษย์เพียง 1% การมีระบบ Proof of Human จะช่วยให้เราสามารถแยกแยะ AI ออกจากมนุษย์ได้ และรักษาความน่าเชื่อถือของข้อมูลบนโลกออนไลน์

World จึงออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถยืนยันว่า "ฉันคือมนุษย์จริง" ได้ โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว แทนที่จะใช้การยืนยันตัวตนแบบเดิมที่ต้องใช้ รหัส OTP, CAPTCHA หรือเอกสารราชการ เทคโนโลยีของ World ใช้แนวทางใหม่ที่มี ความปลอดภัยสูงและไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว

จุดเด่นของเทคโนโลยี Orb

• Zero-Knowledge Proofs – ยืนยันตัวตนโดยไม่เปิดเผยข้อมูล
• Biometric-Based Authentication – ป้องกันการปลอมแปลงตัวตน
• ไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคล – ไม่ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล

Thailand x World โอกาสใหม่ของธุรกิจไทย

World กับการนำเทคโนโลยี Proof of Human หรือ เทคโนโลยีพิสูจน์ความเป็นมนุษย์ เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย โดยมี TIDC (Thailand International Digital Business & Finance Centre) เป็นพันธมิตรหลัก พร้อมให้บริการแล้วใน 3 จุดทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2568

ในยุคที่ AI พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และสามารถสร้างตัวตนปลอมได้อย่างแนบเนียน โลกออนไลน์กำลังเผชิญกับ ปัญหาการฉ้อโกง (Scam), Deepfake และการปลอมแปลงข้อมูล ที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ในปี 2567 มีรายงานการหลอกลวงทางออนไลน์ในประเทศไทย มากกว่า 168 ล้านครั้ง มากกว่าปีก่อนถึง 2 เท่า

และประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มี ผู้ใช้โซเชียลมีเดียมากที่สุดในโลก (52 ล้านคน) และกำลังมุ่งหน้าสู่ เศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ แต่สิ่งนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง

Wai Man Raymond Chu, กรรมการบริหารของ TIDC กล่าวว่า "ประเทศไทยต้องการโซลูชันที่สามารถแยกแยะมนุษย์ออกจาก AI ได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบดิจิทัล Proof of Human เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรักษาความเป็นส่วนตัวได้สูงสุด ในขณะที่ยังคงได้รับความปลอดภัยทางดิจิทัลที่ดียิ่งขึ้น" ด้วยเทคโนโลยีนี้ ธุรกิจออนไลน์ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และระบบชำระเงินดิจิทัล สามารถลดปัญหาบอท แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการโจรกรรมข้อมูลได้

เปิดใช้งานแล้ว จุดให้บริการ Proof of Human แห่งแรกในไทย

ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป ผู้ใช้สามารถเข้าไปยืนยันตัวตนกับ World ID ได้ที่ 3 จุดให้บริการในกรุงเทพฯ ได้แก่:

1. World Flagship ที่ EmSphere ชั้น 1
2. ศูนย์บริการ NT แจ้งวัฒนะ
3. ศูนย์บริการ NT ปทุมวัน

นี่เป็นเพียงเฟสแรกเท่านั้น และจะมีการขยายจุดให้บริการเพิ่มเติมทั่วประเทศในอนาคต ผู้ที่ลงทะเบียนและยืนยันตัวตน สามารถรับโทเคน Worldcoin (WLD) เป็นรางวัล และสามารถเคลมโทเคนได้ทุกเดือนตลอด 1 ปี