หลังการระบาดของโควิด-19 ผู้คนทั่วโลกเริ่มใช้จ่ายอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดเป็นกระแส Revenge Spending หรือ ช้อปปิ้งล้างแค้น เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปในช่วงกักตัว แต่ในทางกลับกัน สำหรับประเทศจีนที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก กลุ่มคนหนุ่มสาวโดยเฉพาะ Gen Z เริ่มรัดเข็มขัดไม่ใช้จ่ายจนกลายเป็นเทรนด์ที่สวนทางกัน อย่าง Revenge Saving หรือการออมเงินเพื่อแก้แค้นเศรษฐกิจจีนในช่วงขาลง
วัยรุ่นจีนประหยัดเงินขั้นขีดสุด เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศซบเซาอยู่ จน Revenge Saving กลายเป็นกระแสบนเว็บไซต์โซเชียลมีเดียของจีน หนุ่มสาวหลายคนตั้งเป้าว่าแต่ละเดือนต้องเก็บเงินให้ได้จำนวนมาก
อย่างเช่น ‘Little Zhai Zhai’ สาวน้อยวัยอายุ 26 ปี พยายามใช้จ่ายเพียง 300 หยวนต่อเดือน หรือประมาณ 1,509.35 บาท โดยเธอใช้จ่ายค่าอาหารเพียงแค่ 10 หยวนต่อวัน คิดเป็นราวๆ 50 กว่าบาทเท่านั้น
นอกจากนั้นยังเกิดเทรนด์ตามหา “กลุ่มพันธมิตรการออม” บนโซเชียลมีเดีย โดยกลุ่มพันธมิตรจะสร้างวงจรการออมเพื่อให้สมาชิกยึดมั่นในเป้าหมายของตนและสามารถบรรลุเป้าหมายการออมได้
มีหนึ่งในวงจรการออมเงินที่แปลกมากๆ ก็คือ การรับประทานอาหารในโรงอาหารของชุมชนซึ่งมีอาหารสดใหม่ในราคาถูก แต่ปกติแล้วมีโรงอาหารนี้มีไว้สำหรับผู้สูงอายุ
Shaun Rein กรรมการผู้จัดการของ China Market Research Group พูดถึงเทรนด์ Revenge Saving ของวัยรุ่นจีนกับ CNBC เอาไว้ว่า “คนหนุ่มสาวชาวจีนตอนนี้ต่างจากวัยรุ่นในยุค 2010 ที่มักจะใช้จ่ายมากกว่าที่หามาได้และยืมเงินเพื่อซื้อสินค้าหรูหรา เช่น กระเป๋าถือ Gucci และใช้ iPhone”
การที่เกิดเทรนด์ Revenge Saving ขึ้นมาอาจเป็นเพราะเหตุผลเดียวกันก็คือ พวกเขาสัมผัสได้เศรษฐกิจจีนไม่ได้ดีขนาดนั้น
นอกจากนี้จะได้เห็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่ากลุ่มวัยรุ่นจีนกำลังรัดเข็มขัดอย่างเข้มงวดผ่านวลีที่เป็นกระแสเหล่านี้ เช่น “การบริโภคแบบย้อนกลับ (Reverse Consumption)” ซึ่งหมายถึงการมีจิตสำนึกที่พยายามลดค่าใช้จ่าย หรือ “เศรษฐกิจแบบตระหนี่ถี่เหนียว (Stingy Economy)” ซึ่งก็คือการพยายามหาส่วนลดและข้อเสนอพิเศษเวลาซื้อของ
พฤติกรรมนี้แตกต่างอย่างมากจากกระแสในหมู่คนหนุ่มสาวในภูมิภาคอื่นๆ ของโลก โดยเฉพาะชาว Gen Z ทั่วโลก (เกิดระหว่างปี 1997-2012) ที่กู้ยืมเงินเพื่อใช้จ่ายไปกับการกินและท่องเที่ยว
ในดัชนีความมั่งคั่งรายงานโดย Intui ชี้ไว้ว่า แทนที่จะตัดรายจ่ายเพื่อส่งเสริมการประหยัดเงิน 73% ของกลุ่ม Gen Z ในสหรัฐอเมริกา อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในตอนนี้ มากกว่าการประหยัดเงินสำหรับอนาคต
อ้างอิง: CNBC
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด