บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป RS Group ประกาศเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของยูนิลีเวอร์ ไลฟ์ หรือ ยูไลฟ์ (ULife) ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจขายตรงของ Unilever ด้วยมูลค่ากว่า 880 ล้านบาท เพื่อต่อยอดโมเดล Entertainmerce และขยาย Ecosystem ของ RS Group ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทั้งในเรื่องของโปรดักส์ ช่องทางการจัดจำหน่าย การสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจคอมเมิร์ซ และสร้าง Synergy ภายในกลุ่มธุรกิจ
ในขณะที่ ULife ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจขายตรงมาอย่างยาวนาน เมื่อผนวกกับโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ของ RS Group จะช่วยเพิ่มศักยภาพของ ULife ให้กลายเป็นธุรกิจขายตรงยุคใหม่ที่เติบโตอย่างแข็งแรงและก้าวกระโดด โดย RS Group ตั้งเป้าผลักดันให้ ULife ขึ้นเป็นบริษัทขายตรงชั้นนำติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ ภายในระยะเวลา 3 ปี
คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าซื้อหรือลงทุนในธุรกิจหรือสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโต (M&A) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของ RS Group ซึ่งจะส่งผลให้ Ecosystem ของบริษัทฯ ขยายใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน โดยการตัดสินใจเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ Ulife ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายในการช่วยให้คนไทยได้เป็นเจ้าของธุรกิจด้วยแพลตฟอร์มทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือ
นอกจากจะทำให้โมเดลธุรกิจคอมเมิร์ซของ RS Group แข็งแกร่งขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้นในช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ แล้ว ยังตอกย้ำให้เห็นถึงพันธกิจของ RS Group ที่ต้องการเติมเต็มชีวิตผู้คนด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ รวมทั้งสร้างแพชชันเพื่อผลักดันให้คนไทยมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ‘ธุรกิจขายตรง’ เป็นธุรกิจที่บริษัทฯ ให้ความสนใจ ประกอบกับภาพรวมของอุตสาหกรรมนี้ที่คาดการณ์การเติบโตเฉลี่ยในระดับอย่างน้อย 6-7% ต่อปี จึงทำให้ ULife มีโอกาสเติบโตอีกมาก ซึ่งหากมารวมกับโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ของ RS Group และธุรกิจในเครือ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเป็นจุดแข็งที่แตกต่างให้แก่การทำการตลาดและการขายสินค้าของ ULife จึงนำไปสู่โอกาสทั้งในด้านการเพิ่มยอดขาย การสร้าง Business partner ปัจจุบันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และดึงดูด Business partner รายใหม่ๆ เข้ามา รวมถึงการมีไลน์สินค้าที่หลากหลายจะสนับสนุนให้ ULife ยุคใหม่ มีความพร้อมในการแข่งขันและช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัทและพาร์ทเนอร์ให้เติบโตอย่างแข็งแรง
ที่สำคัญ ULife สามารถนำ Popcoin สมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม ของ RS Group มาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจในทุกมิติ ช่วยยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการทำการตลาด ซึ่งจะส่งผลให้ ULife สามารถนำข้อมูลบนแพลตฟอร์มไปใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมทางการตลาดได้ตรงกับความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์และอาวุธสำคัญที่ช่วยให้ ULife มีความโดดเด่นและแตกต่างจากผู้เล่นทุกรายในอุตสาหกรรมเดียวกัน
3 แบรนด์ระดับพรีเมียม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสุขภาพ “Beyonde”, ผลิตภัณฑ์สุขภาพความงาม “Aviance” และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายในช่องปาก “I-Fresh” ซึ่งมีสินค้าที่หลากหลายรวมถึง 43 ผลิตภัณฑ์ 76 SKU
ช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ และร้านค้า
ระบบบริหารจัดการ และ Software ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ
ทีมผู้บริหารซึ่งมีประสบการณ์สูงในธุรกิจขายตรง พร้อมทั้งพนักงานทั้งหมด
ทั้งนี้ ULife เป็นหน่วยธุรกิจขายตรงในเครือยูนิลีเวอร์ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสุขภาพ และผลิตภัณฑ์สุขภาพความงามระดับพรีเมียมในธุรกิจขายตรง โดยมีสินค้าหลากหลาย SKU ที่ได้รับความนิยมสูงและมียอดขายในระดับต้นของอุตสาหกรรม อาทิ Beyonde MAQUI PLUS+ เครื่องดื่มซูเปอร์แอนตี้ออกซิแดนท์จากผลมากิเบอร์รี่และซูเปอร์ฟรุต รวม 12 ชนิด และ Aviance Collagen Matrix ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจน 100% จากฝรั่งเศสและญี่ปุ่น
“ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้บริหาร และจำนวนสมาชิกภายใต้เครือข่ายธุรกิจกว่า 150,000 ราย ของ ULife ประกอบกับการ Synergy กับ Ecosystem ของ RS Group คาดว่าจะเสริมให้รายได้ของ ULife หลังสถานการณ์โควิด-19 เติบโตอยู่ในระดับทะลุ 1,000 ล้านบาทในปีแรก และกำไรอย่างน้อย 10% หลังโควิดคลี่คลาย และมีเป้าหมายที่จะผลักดันและสร้างการเติบโตอย่างเต็มที่เพื่อให้ ULife ก้าวขึ้นเป็นบริษัทขายตรงอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศภายในปี 2567” คุณสุรชัย กล่าวปิดท้าย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด