แสนสิริประกาศจัดงานใหญ่แห่งปี “Sansiri Life Comes Home 2017” ภายใต้แนวคิด “Living Reimagined” สะท้อนความเป็นผู้นำของแสนสิริในการปฏิวัติสู่ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยยุคดิจิทัล พร้อมเปิดตัว Siri LifeTech ครั้งแรกให้สัมผัส 6 นวัตกรรมเพื่อรูปแบบการอยู่อาศัยแนวใหม่จากแสนสิริ เพื่อการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบและลงตัวยิ่งกว่าเคย และเปิดตัว 2 โครงการใหม่ “oka HAUS” คอนโดไฮไรส์บรรยากาศรีสอร์ทกลางเมืองสุขุมวิท 36 และ “kawa HAUS” คอนโดโลว์ไรส์ริมน้ำใน Community T77 พร้อมความสุขที่เลือกได้จากคอนโดมิเนียมยูนิตฮ็อต 10 โครงการทั่วประเทศที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะภายในงาน Sansiri Life Comes Home 2017 ระหว่างวันที่ 24–26 พฤศจิกายนนี้ ที่แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/2560 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมจัดงาน “Sansiri Life Comes Home 2017” (แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม 2017) งานใหญ่แห่งปีของแสนสิริ ระบุว่าการจัดงานครั้งนี้ต้องการแสดงถึงความสำเร็จของแสนสิริในฐานะบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัย โดยวันนี้เป็นครั้งแรกที่เปิดตัว “Siri LifeTech” เพื่อให้ได้ทดลองสัมผัสและทดลองใช้เป็นครั้งแรกกับ 6 นวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตและการอยู่อาศัยแนวใหม่ มีทั้งที่ใช้งานจริงแล้วในโครงการปัจจุบันและเตรียมนำมาใช้ในโครงการ ได้แก่
Sansiri Home Service Application แอพพลิเคชันสำหรับลูกบ้านแสนสิริ กัช่วยในการติดตามข่าวสารและการติดต่อกับโครงการและนิติบุคคลได้ง่ายดายและสะดวกยิ่งขึ้นผ่านทางแอพพลิเคชัน ทั้งด้านการติดตามข่าวสารจากโครงการ (Announcement) การส่งข้อความติดต่อกับนิติบุคคล (Messaging) ระบบรับการแจ้งเตือนเมื่อมีพัสดุส่งถึงเจ้าของห้อง (Mailbox) การบริหารจัดการค่าส่วนกลาง / ยอดเงินฝาก / ยอดเงินค้างชำระ (My Account) รวมถึงการแจ้งซ่อมและการตรวจสอบสถานะการแจ้งซ่อม (Home Care) ผู้ใช้สามารถเข้าสู่ระบบอย่างง่ายดายผ่านระบบปฏิบัติการ iOS และ Android โดยสามารถใช้งานได้ถึง 5 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ จีน (traditional, simplified) และภาษาญี่ปุ่น ทั้งยังสามารถล็อคอินเข้าสู่ระบบโครงการที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของได้มากกว่าหนึ่งโครงการผ่านระบบเพียงระบบเดียว
อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับระบบ Home Automation ซึ่งสามารถควบคุมการเปิดปิดไฟ รวมถึงเครื่องปรับอากาศผ่านทางแอพพลิเคชั่น และในโครงการใหม่ของแสนสิริยังสามารถจองห้องสันทนาการต่างๆ ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางผ่านแอพพลิเคชั่น (Facility booking) ได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายกว่าเดิม ปัจจุบัน Sansiri Home Service Application มีผู้ใช้มากกว่า 20,000 ราย จากกว่า 150 โครงการ
นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน ONLINE SHOPPING BY SB FURNITURE ฟังก์ชันใหม่ที่เปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2560 เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการช้อปปิ้งและตกแต่งบ้านของคุณให้สวยดั่งใจได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส
‘แสนดี’ หุ่นยนต์อำนวยความสะดวกด้วยบริการส่งพัสดุถึงหน้าประตูลูกบ้าน โดยพัสดุที่ส่งมาถึงโครงการจะถูกบันทึกเข้าสู่ระบบ และแจ้งเตือนลูกบ้านผ่าน Sansiri Home Service Application ซึ่งลูกบ้านสามารถแจ้งความจำนงให้แสนดีนำพัสดุต่างๆ ขึ้นมาส่งที่ห้องผ่านแอพลิเคชั่นได้อีกด้วย โดยแสนดีที่มาพร้อมระบบการนำทางหลบหลีกสิ่งกีดขวางและสามารถขึ้นลิฟท์ด้วยตัวเองได้ รับน้ำหนักได้สูงสุดมากถึง 80 กิโลกรัม
แสนสิริร่วมกับ บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เดลิเทค จำกัด พัฒนา Sansiri AI Box ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกของประเทศ เชื่อมต่อกับทั้งระบบ Home Automation ช่วยอำนวยความสะดวกในการเช็คข่าวประจำวัน ตรวจสอบสภาพอากาศ – สภาพการจราจร นอกจากนี้ยังสามารถฟังเพลงไทย หรือรับคลื่นวิทยุในประเทศไทยได้ รวมไปถึงการสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น การเปิด-ปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ และโทรทัศน์ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับระบบ Sansiri Home Service Application ซึ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถจองพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการได้ เช่น จองห้องโยคะ หรือสั่งให้แสนดี นำพัสดุมาส่งให้ที่ห้อง เป็นต้น
แพลตฟอร์มบริการเช่ายานพาหนะในโครงการของแสนสิริเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้กับคนรุ่นใหม่ โดยมีรถยนต์ที่ควบคุมและใช้พลังงานไฟฟ้า 100% สำหรับ Car Sharing ให้ลูกบ้านได้เช่าใช้และคิดค่าบริการจริงเป็นนาที พร้อม EV Charger เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ได้ทั้งความสะดวกสบายและยังสามารถช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วยนำร่องด้วย BMW รุ่น i3 ซึ่งนำมาใช้ในโครงการเดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต เป็นโครงการแรก
นวัตกรรมฟาร์มแนวตั้งอัจฉริยะจากสหรัฐอเมริกาที่กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เป็น “Indoor Farm” ที่ใช้ IoT ควบคุมและมอนิเตอร์การเจริญเติบโตอัตโนมัติผ่านโมบายแอพฯ ซึ่งจะทำให้การปลูกผักเพื่อรับประทานเองในที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องง่ายและใกล้ตัว แสนสิรินำเข้ามาใช้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย
ปัจจุบันมีดาต้าของเมล็ดพันธุ์ผักกว่า 50 ชนิด นอกจากนั้นเทคโนโลยีและข้อมูลจากการเก็บดาต้าช่วยให้พืชเติบโตได้เร็วขึ้น 2 – 3 เท่า และใช้น้ำน้อยกว่าการเพาะปลูกแบบดั้งเดิมถึง 90% ทั้งยังมีการแจ้งเตือนผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นเมื่อผลผลิตพร้อมเก็บเกี่ยว เพียงเท่านี้ลูกบ้านไม่ว่าจะอยู่อาศัยในโครงการบ้านหรือคอนโดมิเนียม ก็สามารถปลูกผักสด สะอาด ปลอดสารพิษ เพื่อรับประทานเองได้ง่ายๆ
แสนสิริและโรงพยาบาลสมิติเวชจัดทำ Wearable Device ในรูปแบบสายรัดข้อมือ พัฒนาขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและดูแลการดำเนินชีวิตประจำวันของคนที่ผู้สูงอายุที่เราห่วงใย มีฟังก์ชันแจ้งเตือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และฟังก์ชันให้ความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลผ่านระบบที่เชื่อมตรงสู่โรงพยาบาลเพียงได้รับสัญญานขอความช่วยเหลือจากผู้ใช้งาน โดยโรงพยาบาลจะแจ้งข่าวไปถึงญาติของผู้สวมใส่ทันที
จะเห็นได้ว่าการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้กับแสนสิริ ภายใต้ชื่อ Siri LifeTech มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม น่าจับตาดูกันต่อว่าหลังจากนี้ แสนสิริจะเปิดตัว product ใหม่ ๆ อะไรบ้างในอนาคต
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด