Sega สตูดิโอผู้ผลิตและพัฒนาเกมจากญี่ปุ่น ประกาศลดการลงทุนในเกม Blockchain แม้ว่าจะเคยสนับสนุนเต็มที่ เนื่องจากความกังวลของตลาด Cryptocurrency ที่ยังคงผันผวนอย่างหนักและย่ำแย่ท่ามกลางความเชื่อมั่นว่าตลาดกำลังดีขึ้นแล้ว
Sega สตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลังเกมชื่อดังมากมาย เช่น Sonic The Headdog และ Yakuza ระงับการลงทุนและเผยแพร่เกมที่รองรับ Blockchain ที่สร้างและพัฒนาโดยบริษัทอื่น รวมทั้งเกมประเภท Blockchain ที่บริษัทกำลังสร้างอยู่ด้วย
ก่อนหน้านี้ Sega เคยกล่าวสนับสนุนเทคโนโลยี Blockchain เพราะเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะเข้ามาเติมเต็มและเพิ่มศักยภาพของวงการเกมยุคใหม่ ในตอนนั้นมีเกม NFT หรือ Gamefi เกิดขึ้นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Axie Infinity ที่เคยสร้างกระแสความนิยมของเกมส์ที่รองรับระบบ Blockchain และเกมส์แนว Play-To-Earn
การล่มสลายของสกุลเงินดิจิทัลบนตลาด Cryptocurrency สร้างผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักพัฒนาในธุรกิจต่างๆ
Sega มีแผนให้บริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์ใช้ตัวละครจาก Three Kingdoms และ Virtua Fighter ที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงรูปแบบ NFT (non-fungible tokens, NFT) ซึ่งเป็นแผนการใช้ NFT กับเกมที่เป็นไปตามที่บริษัทประกาศในปี 2021 กลับได้รับคำวิจารณ์จากนักเล่นเกมหลายคนที่มองว่า เทคโนโลยี Blockchain และโลกคริปโตนั้นเป็นอันตราย
ความเห็นของ Shuji Utsumi COO ของ Sega มองว่าเกมส์ที่เป็นแบบ Play-To-Earn หรือการเล่นแล้วได้เงินนั้นมันน่าเบื่อ แต่ก็กำลังพิจารณาว่าเทคโนโลยีนี้ยังคงได้รับความนิยมและควรไปต่อหรือไม่
แม้ว่า Sega จะชะลอการลงทุนและพัฒนาเกมส์ที่รองรับเทคโนโลยี Blockchain แต่บริษัทก็ยังคงจะลงทุนกับเทคโนโลยีนี้กับโครงการที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยจะมีเกมส์ที่รองรับ Blockchain ปล่อยออกมา ภายในปลายปีนี้
Shuji Utsumi มองว่าเทคโนโลยียังคงมีประโยชน์ เช่น การย้ายตัวละครหรือสิ่งของและไอเท็มในเกมส์ ระหว่างเกมส์หนึ่งไปอีกเกมส์หนึ่งได้ ในระยะยาว Sega ยังคงเปิดรับกับเทคโนโลยีนี้หากอุตสาหกรรม เติบโตอย่างก้าวหน้า
ที่มา : Bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด