สยามคูโบต้าวางแผนปี 2568 มุ่งสู่อนาคตยั่งยืน หลังปิดรายได้ ปี 2567 ที่ 62,000 ล้านบาท | Techsauce

สยามคูโบต้าวางแผนปี 2568 มุ่งสู่อนาคตยั่งยืน หลังปิดรายได้ ปี 2567 ที่ 62,000 ล้านบาท

บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยทิศทางปี 2568 ภายใต้กลยุทธ์ “Perform and Transform” มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต พร้อมขับเคลื่อน “Customer Infinity LOOP” ยกระดับการดูแลลูกค้าแบบไร้ขีดจำกัด ด้านผลประกอบการปี 2567 ปิดยอดขายที่ 62,000 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวแทรกเตอร์และรถเกี่ยวนวดข้าวรุ่นใหม่ พร้อมจัดกิจกรรม “คูโบต้าพันธุ์แกร่ง” ชิงแชมป์ระดับนานาชาติ เดินหน้าพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำความเป็นผู้นำเครื่องจักรกลการเกษตรไทยภายใต้แนวคิด “Forever ONE” 

นายคาซึโนริ ทานิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยผลประกอบการปี 2567 ยอดขายมูลค่ารวมปิดที่ 62,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนธุรกิจในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% เผยแม้สภาพภูมิอากาศในปีนี้ค่อนข้างแปรปรวน แต่ราคาสินค้าเกษตรโดยรวมยังทรงตัวในเกณฑ์ดี ผนวกกับนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการทำเกษตรแบบสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของเกษตรกร จึงทำให้ยอดขายของบริษัทฯ โดยรวมเติบโตขึ้น 7% สำหรับปีนี้คาดการณ์ยอดขายรวมโตขึ้นราว 8% ตั้งเป้าอยู่ที่ 67,000 ล้านบาท จากปัจจัยบวกต่างๆ อาทิ ธุรกิจผู้ให้บริการด้านการเกษตร (Service Provider) ที่มีแนวโน้มการเติบโตขึ้น รวมถึงโครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการผลิตภาคเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) ของภาครัฐ นอกจากนี้ภาคการเกษตรในอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตขึ้นด้วยปัจจัยที่เน้นการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และเพิ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า ตลอดจนการขยายสินค้าให้หลากหลายครบวงจร 

“ปีนี้สยามคูโบต้าเดินหน้าผลักดันนโยบายหลักมุ่งสู่การเป็น “Global Major Brand” ด้วยแนวคิด “Champion Data” เพื่อสร้างสถิติใหม่และรักษาความเป็นที่หนึ่ง "Forever ONE" ในการเป็นผู้นำเครื่องจักรกลการเกษตรและนวัตกรรมการเกษตรของประเทศไทย ด้วย 4 ปัจจัยสำคัญคือ 1. การพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ด้วย Smart Farming 2. เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ขยายตลาดจากเอเชียสู่ระดับโลก 3. บริหารจัดการตามหลัก K-ESG ยกระดับความปลอดภัย สุขภาพพนักงาน และธรรมาภิบาล พัฒนานวัตกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดก๊าซเรือนกระจก 4. พัฒนาและขยายผลิตภัณฑ์ ยกระดับความพรีเมียมของสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าด้วยคุณภาพและความคุ้มค่าของราคา” นายคาซึโนริกล่าว

นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กล่าวว่า GDP ภาคการเกษตรในปี 2567  ว่ามีการหดตัวเล็กน้อยราว 1.1% เมื่อเทียบกับปี 2566 เนื่องจากผลกระทบของสภาพอากาศที่แปรปรวนทั้งเอลนีโญ่และลานีญ่า ทำให้ในช่วงเดือนมกราคม - กันยายน 2567 มีสภาพแห้งแล้งส่งผลต่อผลผลิต อย่างไรก็ตามแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 1.8% - 2.8% โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ ปริมาณน้ำฝนสะสมที่เพิ่มขึ้นจากลานีญ่า ผลผลิตภาคการเกษตรคาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น สำหรับ GDP ภาคการเกษตรในประเทศกัมพูชาและลาวคาดว่าจะเติบโต 1.4% และ 3.1% ตามลำดับ โดยเฉพาะสินค้าหลักประเภทข้าวมีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากราคาที่ดีและปัญหาภัยแล้งคลี่คลายเป็นผลจูงใจให้เกษตรกรปลูกเพิ่มขึ้น 

“สำหรับการดำเนินธุรกิจในปีนี้ สยามคูโบต้าวางกลยุทธ์ Perform and Transform เพิ่มประสิทธิภาพ สู่การเปลี่ยนอนาคตที่ยั่งยืนใน 4 ด้าน คือ 1. Empower with Eco System รักษาความแข็งแกร่งด้านการแข่งขัน สร้างคุณค่าในสินค้าตลอดอายุการบริการ 2. Driving growth with precision farming ขยายตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรอย่างต่อเนื่องร่วมกับการขับเคลื่อนไปสู่เกษตรแม่นยำ (Precision Farming) 3. ESG for Sustainability ผลักดัน ESG เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในภาคเกษตร และสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน 4. Transforming Efficiency with AI ใช้ AI ในการพัฒนากระบวนการผลิต รวมถึงการพัฒนาให้เป็นโรงงานสีเขียว และพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพ 

ทั้งนี้ สยามคูโบต้ายังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจไปพร้อมกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมมาตรฐานสากล ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน Sustainable Development Goals (SDGs) โดยสนับสนุนการบรรลุเป้าหมาย Nationally Determined Contributions (NDCs) หรือเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกที่แต่ละประเทศตั้งขึ้น อีกทั้งยังมุ่งลดก๊าซเรือนกระจกในระดับองค์กรโดยการใช้พลังงานหมุนเวียน ซึ่งในปี 2568    คาดว่าจะมีสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนทั่วทั้งองค์กร 40% รวมทั้งปรับปรุงระบบเครื่องจักรขององค์กรต่างๆ ส่งเสริมการนำน้ำกลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ในกระบวนการผลิต 

พร้อมกันนี้ในระดับ Supply Chain รวมถึงระดับสังคม ได้สานต่อแผน NET ZERO EMISSION มุ่งมั่นสร้างโลกเกษตรที่ยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ สำหรับเกษตรกร อาทิ โครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) ส่งเสริมการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง การวิจัยและส่งเสริมการใช้ Biochar เป็นวัสดุปรับปรุงดินในภาคการเกษตร เพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมี ลดการใช้น้ำ ลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ สยามคูโบต้ายังได้ส่งเสริมการสร้างบุคลากรทางการเกษตรตั้งแต่ระดับเยาวชน Smart Farmer และเกษตรกร ภายใต้แนวคิด “สร้างรายได้ สร้างอาชีพ” ผ่านโครงการความร่วมมือกับภาคีต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรมีความยั่งยืนและมั่นคงในอาชีพ สร้างความเข้มแข็งในภาคการเกษตรอีกด้วย” นางวราภรณ์กล่าว

ขณะที่ นายปุณนะ วงศ์ธนาศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ กล่าวถึงภาพรวมของตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรในปี 2567 เติบโตขึ้นเล็กน้อยแม้จะเผชิญสถานการณ์ Climate Change แต่ราคาพืชเศรษฐกิจหลักยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งนี้สยามคูโบต้ายังรักษาความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรของประเทศไทย และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกร อาทิ โดรนการเกษตรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่และเป็นที่ต้องการมาก อีกทั้งยังได้รับการส่งเสริมให้ใช้งานอย่างแพร่หลายจากภาครัฐบาลตามนโยบายโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล 

“สำหรับกลยุทธ์การตลาดของสยามคูโบต้าในปี 2568 เตรียมมุ่งมั่นผนึกกำลังเพื่อร่วมสร้างมิติใหม่ของการดูแลลูกค้าให้เกิดเป็น Seamless Organization ภายใต้กลยุทธ์ “ดูแลด้วยใจ ไม่มีที่สิ้นสุด Customer infinity LOOP” ได้แก่ L : Lead Audience เน้นการสื่อสาร สร้างความแตกต่างและความภาคภูมิใจให้กับลูกค้า อาทิ การนำกีฬามาผนวกกับจุดเด่นของแทรกเตอร์คูโบต้า เพื่อสร้างสรรค์เป็นกิจกรรมการแข่งขัน “คูโบต้าพันธุ์แกร่ง” และจากความมุ่งมั่นนี้ทำให้เราได้รับรางวัลสุดยอดแคมเปญการตลาดแห่งปี 2024 จากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย โดยในปีนี้จะมีการจัดแข่งขันรอบชิงแชมป์นานาชาติ โดยมีผู้เข้าแข่งขันจากประเทศลาวและกัมพูชาเข้าร่วมในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ O : Organize The Journey to Conversion สร้างประสบการณ์โดยวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงพื้นที่และเข้าถึงใจลูกค้าผ่านกิจกรรมการตลาดผ่านการเปิดตัวสินค้าใหม่ เตรียมลงพื้นที่ทั่วไทย 1 อำเภอ 1 กิจกรรม พร้อมนำ Data เข้ามาเพิ่มศักยภาพเพื่อออกแบบกลยุทธ์การตลาด สินค้า และบริการ ให้ตรงความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่   O : Optimize Purchase & Post Purchase Experience ดูแลลูกค้าหลังการขายทั้งการบริการและอะไหล่ “ซื้อแล้วไม่มีวันทอดทิ้ง” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Whenever & Wherever” เปิดประสบการณ์โปรแกรมบริการหลังการขายที่ต้องการเมื่อไรก็เจอ พร้อมช่องทางการจัดจำหน่ายอะไหล่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และ P : Provide Lasting Community Relationships สร้างการมีส่วนร่วมในการนำแบรนด์เข้าไปอยู่ใน Community ของลูกค้า พร้อมเข้าไปสนับสนุนการบริหารจัดการและการดูแลเครื่องจักรฯ อย่างต่อเนื่อง 

ขณะที่แผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ในปีนี้ สยามคูโบต้าเตรียมยกกองทัพสินค้าใหม่ เพื่อตอบโจทย์เกษตรกรไทย อาทิ แทรกเตอร์รุ่นเรือธงใหม่ L-series ยอดนิยม และรถเกี่ยวนวดข้าวรุ่นใหม่ DC-120X ทำงานได้ต่อเนื่องด้วยเครื่องยนต์ระบบคอมมอนเรล เก็บเกี่ยวได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเตรียมเปิดตัวในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ยังมีแทรกเตอร์รุ่น M7-172 ขนาด 173 แรงม้า นวัตกรรมและขุมพลังเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเกษตรกรไร่อ้อยขนาดใหญ่ ทั้งนี้สยามคูโบต้ามั่นใจว่าจะรักษาความเป็น Forever ONE ในตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยได้อย่างยั่งยืน” นายปุณนะกล่าว 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ตลาดเกม SEA โตแรง รัฐบาลเตรียมออกนโยบาย สนับสนุนสร้าง Soft Power ในเวทีโลก

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา SEA หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญ ด้วยจำนวนผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นและการลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนับสนุน ไม่เพียงแต่สร้างเม็ดเงินมหาศาล แ...

Responsive image

xAI เปิดตัว Grok-3 AI ที่ Elon Musk เคลมว่าฉลาดที่สุดในโลก

Elon Musk เผยโฉม Grok-3 แชทบอท AI รุ่นใหม่จากบริษัท xAI ที่เขาเคลมว่าเป็น "AI ที่ฉลาดที่สุดในโลก" โดย Grok-3 มีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งทั้ง Google Gemini, DeepSeek V3, Claude จาก ...

Responsive image

รู้ใจสัตว์เลี้ยงไม่ต้องเดา อ่านใจสัตว์ผ่านสีหน้าด้วย AI เทคโนโลยีใหม่เข้าใจความเครียด-อารมณ์-อาการป่วย

นักวิจัยหลายกลุ่มกำลังพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่จะมาช่วยถอดรหัสอารมณ์ความรู้สึกจากใบหน้าของสัตว์ เพื่อระบุอาการเจ็บปวด ความเครียด หรืออารมณ์อื่นๆ...