
งาน StartSphere Taipei 2025 ได้ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ณ POPOP Taipei หลังจากตลอด 3 วันที่ผ่านมาได้กลายเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนที่เต็มไปด้วยความคึกคัก โดยมีนักลงทุน, สตาร์ทอัพสายเทคโนโลยีบันเทิง, โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์, นักพัฒนาเกม และสื่อมวลชนจากไต้หวัน, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, ไทย, เวียดนาม และอินเดียเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
ภายในงาน สตาร์ทอัพและองค์กรต่างๆ ได้นำเสนอนวัตกรรมข้ามอุตสาหกรรม, เทคโนโลยีไลฟ์สไตล์แบบสมจริง และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ผสมผสานโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกัน
งานในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ฉายภาพการผนวกรวมกันของ AI และวงการบันเทิงดิจิทัล แต่ยังประสบความสำเร็จในการสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างนักลงทุน, ครีเอเตอร์ และสตาร์ทอัพทั่วเอเชีย
StartSphere นับว่าเป็นมากกว่าแค่งานจัดแสดง แต่ยังสะท้อนถึงจิตวิญญาณของแนวคิดการเปลี่ยนบทสนทนาให้เป็นโอกาส และเปลี่ยนโอกาสให้เป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเทศบาลเมืองไทเปในการผสมผสานความคิดสร้างสรรค์, วัฒนธรรม และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ และวางตำแหน่งให้ไทเปเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมบันเทิงและเทคโนโลยีระดับภูมิภาคที่มองไปข้างหน้า

เวทีเสวนา InteractiVerse ได้ฉายสปอตไลท์ไปยังศักยภาพของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย 886 Studios จาก Silicon Valley ได้แบ่งปันมุมมองการลงทุน พร้อมย้ำว่า "ความบันเทิงเชิงโต้ตอบ (Interactive Entertainment) ได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนหลักต่อไปของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจชุมชน"
ขณะที่ตัวแทนจาก AppWorks, VinaCapital Ventures และ Metatheory ได้ร่วมกันวิเคราะห์ว่าเกมสามารถทลายกำแพงทางวัฒนธรรมและดึงดูดการลงทุนระดับโลกได้อย่างไร ทั้งในมิติของเงินทุน, อุตสาหกรรม และคอนเทนต์
Lin Jung-Sheng ผู้ร่วมก่อตั้ง Taipei Game Developers Forum เน้นย้ำถึงความยืดหยุ่นและความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนาชาวไต้หวัน พร้อมชี้ว่าการก้าวสู่ระดับสากลไม่ใช่แค่การส่งออก แต่คือการหลอมรวมวัฒนธรรมที่สร้างความเป็นไปได้ไม่รู้จบ
Thao Anh Hoang ตัวแทนจาก GameGeek ประเทศเวียดนาม ได้นำเสนอบทวิเคราะห์ตลาดที่ชี้ให้เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของคอมมูนิตี้เกมเมอร์ในท้องถิ่น และบทบาทสำคัญของนโยบายภาครัฐที่ช่วยเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ภายในฟอรัมยังมีการจัดแสดงเกมสดๆ จาก Vonder Games (ประเทศไทย) และ Playard Studio (เวียดนาม) ทำให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสกับสุนทรียศาสตร์และเกมเพลย์อันเป็นเอกลักษณ์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของความร่วมมือในการผลิตข้ามพรมแดน
ปิดท้ายด้วย Yu Cheng-yen ผู้ก่อตั้ง TiiOi จากไต้หวัน ที่นำเสนอโปรเจกต์ 'Community Lab' ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังและความคิดสร้างสรรค์ของการออกแบบเกมในไต้หวันได้อย่างน่าประทับใจ
บนเวทีของโซนจัดแสดง Fusion Realm ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ได้มีการจัดฟอรัมในหัวข้อ “Short Video + AI: Next-Gen Content Marketing.” โดย Fan Yi-Peng ผู้ร่วมก่อตั้งทีมวิดีโอสั้น Follow Me และ Lin Shang-Che ผู้ก่อตั้งแบรนด์การศึกษาด้าน Generative AI อย่าง nuva ได้มาแบ่งปันเคล็ดลับการสร้างคอนเทนต์ให้เข้าถึงคนนับล้านจากศูนย์ พร้อมเผย 'กลยุทธ์ดึงคนดูใน 15 วินาที' และ เวิร์กโฟลว์การทำงานด้วย AI คนเดียว ซึ่งได้รับความสนใจจากเหล่าครีเอเตอร์และเจ้าของแบรนด์ที่เข้าร่วมถามตอบกันอย่างล้นหลาม
ในช่วงบ่าย ได้มีการจัด 2 การบรรยายเบื้องต้นเกี่ยวกับวงการ ACG (Anime, Comics, Games) โดยร่วมมือกับ Taiwan Creative Content Agency (TAICCA) Comic Base
การบรรยายแรกในหัวข้อ “Kick Off “Enjoyable” Cross-Industry Collaboration!” โดย Xiao Xing-Tao นักเขียนบทและโปรดิวเซอร์มังงะ ที่มาแบ่งปันประสบการณ์การทำงานร่วมกับทั้งศิลปินและภาคธุรกิจ พร้อมเจาะลึกความท้าทายและโอกาสในการเป็นพาร์ทเนอร์ข้ามสายงาน เพื่อค้นหาโมเดลที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน
ส่วนการบรรยายที่สอง “Taiwan Manga Industry Unveiled,” นำโดย Ren Rong ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนามังงะจาก TAICCA ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานดังมากมาย เขาได้พาสำรวจภูมิทัศน์ของวงการสิ่งพิมพ์และแพลตฟอร์มดิจิทัล, แหล่งข้อมูลเชิงนโยบาย และโมเดลรายได้ของไต้หวันผ่านกรณีศึกษาและข้อมูลเชิงลึก ซึ่งเหล่าครีเอเตอร์รุ่นใหม่ต่างตั้งใจรับฟังอย่างใกล้ชิด สะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมมังงะของไต้หวันกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการพึ่งพาตนเองและการเติบโต
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด