
ภายในงาน ‘Thailand Economic Outlook 2026 Out of the Trap’ ทุกสายตาจับจ้องไปที่ Keynote ของ คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ไม่ได้มาเพียงเพื่อฉายภาพความท้าทาย แต่มาพร้อมพิมพ์เขียวเชิงรุก เพื่อพาเศรษฐกิจไทยออกจาก ‘กับดัก’ ที่ฉุดรั้งการเติบโตมานานหลายปี ท่ามกลางภูมิทัศน์โลกที่ซับซ้อนและแรงกดดันรอบด้าน นี่ไม่ใช่แค่การแก้เกมระยะสั้น แต่คือการวางรากฐานใหม่เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
ภารกิจนี้เดิมพันด้วยอนาคตของประเทศ และนี่คือบทสรุปทุกประเด็นสำคัญที่นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และคนไทยทุกคนต้องรู้

คุณศุภจีตอกย้ำว่า ไทยไม่ได้ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว แต่กำลังเผชิญกับ Global Headwind หรือลมต้านระดับโลกที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและสมรภูมิภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่ทำให้การค้าโลกปั่นป่วน เกิดกำแพงภาษีรูปแบบใหม่ๆ บีบให้ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวครั้งใหญ่ แต่หัวใจสำคัญคือ 4 เมกะเทรนด์ ที่กำลังเปลี่ยนโลกอย่างสิ้นเชิง
เมื่อหันกลับมามองภาพในประเทศ สถานการณ์ก็น่ากังวลไม่แพ้กัน ทั้งตัวเลข GDP ที่เติบโตชะลอตัว จากค่าเฉลี่ย 5% ในอดีต เหลือคาดการณ์ไม่เกิน 2% ในปี 2566, ภาวะเงินฝืดที่ติดลบต่อเนื่อง 6 เดือน สะท้อนกำลังซื้อที่อ่อนแอ และ ผลิตภาพแรงงานที่ลดลง จากจำนวนคนวัยทำงานที่หดตัวลงทุกปี ‘เราไม่เปลี่ยนคงไม่ได้แล้ว ถ้าเรายังเป็นอยู่อย่างนี้ คงจะลำบากแน่นอน’ คุณศุภจีกล่าวย้ำ

เพื่อทลายกับดักนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้วางยุทธศาสตร์ที่ผสมผสานทั้งการแก้ปัญหาระยะสั้น (Quick Wins) อย่างการลดค่าครองชีพผ่านโครงการธงฟ้าและการเปิดเผยราคายาในโรงพยาบาลเอกชน ควบคู่ไปกับการปฏิรูปโครงสร้างระยะยาวผ่าน 3 ยุทธศาสตร์หลัก ที่จะเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจไทย
ถึงเวลาเลิกทำเกษตรแบบเดิมๆ ที่ผลิตตามความเคยชินแล้วไปลุ้นราคา แต่ต้องเปลี่ยนกระบวนทัศน์สู่การผลิตที่ ‘ตลาดโลกต้องการ’ อย่างแท้จริง ผ่านการทำ เกษตรเชิงพื้นที่ (Zoning) และหันมาเน้นสินค้ามูลค่าสูงอย่าง ‘ข้าวหอมมะลิ’ ที่มีตลาดรองรับชัดเจน แทนการผลิตที่ล้นตลาด
FTA คืออาวุธสำคัญในการบุกตลาดโลก โดยเฉพาะการเร่งเซ็นสัญญากับกลุ่ม EFTA ซึ่งจะเป็น ‘ใบเบิกทาง’ ชั้นดีสู่การเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) เป้าหมายใหญ่ต่อไป ขณะเดียวกัน รูปแบบของ Trade Mission จะเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่การไปดูงาน แต่คือการ ‘ทำการบ้านล่วงหน้า’ จับคู่ธุรกิจให้จบตั้งแต่ก่อนเดินทาง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทันที โดยมีเป้าหมายใหม่ที่ อินเดีย, ซาอุดีอาระเบีย, UAE และแอฟริกา
พลิกวิกฤตสังคมสูงวัยให้เป็นโอกาส โดยการผลักดันไทยสู่การเป็น ‘ศูนย์กลางอาหารแห่งอนาคต’ (Future Food Hub) และ ‘ศูนย์กลางสุขภาพ’ (Wellness Hub) ด้วยการเติม ‘นวัตกรรม’ และ ‘องค์ความรู้’ เข้าไปในวัตถุดิบที่เรามี พร้อมยกระดับการค้าสู่ Digital Trade Ecosystem เต็มรูปแบบ ผ่านเครื่องมืออย่าง Trade Intelligence System เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลล่วงหน้า และแพลตฟอร์ม MOC Plus ที่อำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนและประชาชน
ภารกิจนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ‘รัฐบาลต้องสร้างความเชื่อมั่น เอกชนคือโอกาส และถ้าเราสองคนจับมือกันแข็งแรงอย่างนี้ ประชาชนได้ประโยชน์แน่’ คุณศุภจีกล่าวทิ้งท้าย นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งสำคัญเพื่อพาประเทศไทย ‘ออกจากกับดัก’ และมุ่งหน้าสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่าอย่างแท้จริง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด