TikTok ทดสอบฟีเจอร์ Trendy Beat จับเทรนด์ขายของตัวเอง ท้าชนยักษ์ใหญ่กินส่วนแบ่งในสหรัฐฯ | Techsauce

TikTok ทดสอบฟีเจอร์ Trendy Beat จับเทรนด์ขายของตัวเอง ท้าชนยักษ์ใหญ่กินส่วนแบ่งในสหรัฐฯ

TikTok ยืนยัน ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ ‘Trendy Beat’ ขายสินค้าผ่านวิดิโอที่กำลังติดเทรนด์ โดยมีบริษัทลูกของ Bytedance จัดส่งและขายสินค้า เริ่มทดสอบใช้แล้วที่สหราชอาณาจักร 

บริษัทเผยว่าตอนนี้ยังไม่ได้ทดสอบ Treandy Beat ในสหรัฐฯ เนื่องจากกำลังโฟกัสไปที่การปั้น TikTok Shop ให้มีผู้ขายมากขึ้น แต่คาดว่าจะสามารถใช้ได้ในอนาคต เนื่องจาก TikTok ยื่นขอเครื่องหมายการค้าในอเมริกาไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งในคำขอนั้นประกอบไปด้วยสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายต่าง ๆ ไปว่าจะเป็น เดรส ผ้าพันคอ ชุดว่ายน้ำ เป็นต้น

Project S ท้าชน e-Commerce ในสหรัฐฯ 

Financial Times รายงานว่าแผนของ ByteDance ที่เริ่มขายสินค้าของตัวเองบน TikTok เรียกกันภายในบริษัทว่า ‘Project S’ ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่นำเอาข้อมูลสินค้าที่กำลังติดเทรนด์บนแอปมาให้ ByteDance จัดหาหรือผลิตสินค้าตามเทรนด์ โดยมีการใช้เครือข่ายซัพพลายเออร์เพื่อผลิตสินค้า

Trendy Beat ของ TikTok ถือเป็นการท้าทายบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Shein เพราะก่อนหน้านี้ TikTok Shop ก็เหมือนร้านค้าทั่วไปที่ให้แบรนด์หรือผู้ใช้งานเข้ามาขายของ

แต่ในฟีเจอร์ใหม่ TikTok จะขายผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ซึ่งคล้ายกับรูปแบบอีคอมเมิร์ซของ Amazon Basics และ Shein ที่โปรโมตและขายสินค้าจากบริษัทโดยตรง 

ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ TikTok Shop ได้ร่วมงานกับแบรนด์ต่าง ๆ อย่าง PacSun และ Revolve และเปิดให้ใช้บริการในอเมริกาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว 

TikTok Shop ประสบความสำเร็จในตลาดเอเชียเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่สามารถดึงดูดลูกค้าในอังกฤษได้ จึงอาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้บริษัทเริ่มเปิดใช้ฟีเจอร์ใหม่ในอังกฤษก่อนที่จะเริ่มใช้ในอเมริกา

ในขณะที่ TikTok กำลังพัฒนาฟีเจอร์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ แต่แอปคู่แข่งก็ทยอยยกเลิกฟีเจอร์ด้านอีคอมเมิร์ซออกไป ไม่ว่าจะเป็น Instagram ที่ได้ถอดฟีเจอร์ร้านค้าออกในเดือนมกราคมที่ผ่านมาและประกาศยกเลิกการซื้อขายสินค้าผ่าน live หรือ Facebook ที่ก็ได้ปิดบริการซื้อขายสินค้าผ่าน live ไปเมื่อปีที่แล้ว

แม้ว่า TikTok จะพึ่งเริ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซในอเมริกา แต่แอปนั้นมีอิทธิพลต่อการซื้อสินค้าของผู้ใช้และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีในอนาคต ดูได้จาก ‘TikTok made me buy it’ เทรนด์โชว์สินค้าที่ซื้อมาจากการดูวิดีโอบนแอปที่มียอดคนเข้าดูแฮชแท็กถึง 59.3 พันล้านครั้ง คาดว่าการช้อปปิ้งรูปแบบใหม่นี้จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาและซื้อสินค้าได้โดยตรง


อ้างอิง: techcrunch 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

‘ไปรษณีย์ไทย’ เพิ่มมูลค่า Asset ชูบริการเรือธง EMS World ส่งด่วน ทั่วโลก

EMS World คือ บริการเรือธงที่ทำรายได้หลักให้ไปรษณีย์ไทย หลังจากนี้จะผลักดันบริการสู่ตลาดโลก ร่วมกับการนำ Asset ที่มีอยู่เดิม มาเพิ่มมูลค่าได้อย่างน่าสนใจ...

Responsive image

SearchGPT คืออะไร ? เมื่อ OpenAI ลงสนาม Search engine ท้าชน Google ชิงส่วนแบ่งธุรกิจ

OpenAI ท้าชน Google ชิงส่วนแบ่งธุรกิจ Search Engine เปิดตัว SearchGPT โมเดล Search Engine ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เวอร์ชันต้นแบบ ที่จะมาเปลี่ยนการค้นหาข้อมูลให้เป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว ...

Responsive image

ลงทะเบียนพบนักลงทุนตัวจริงกับ "Meet the VCs" ในงาน Techsauce Global Summit 2024

"Meet the VCs" กิจกรรมสุด Exclusive ในงาน Techsauce Global Summit 2024...