เปิดกลยุทธ์ 'ทีเอ็มบีธนชาต' เดินหน้าสร้างการเติบโตผ่าน Financial Well-being solution

'ทีเอ็มบีธนชาต' ประกาศความพร้อมสร้างชีวิตการเงินที่ดี ทั้งวันนี้และอนาคตให้คนไทยผ่านการหลอมรวมจุดแข็งสองธนาคาร มุ่งช่วยเหลือลูกค้าฝ่าวิกฤต COVID-19 และเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่าน Financial Well-being solution

จากการประสานจุดแข็งของทีเอ็มบีและธนชาตที่ผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ธนาคารใหม่ “ทีเอ็มบีธนชาต” หรือ ttb (ทีทีบี) ที่สื่อถึงสถาบันการเงินที่มีความมั่นคง คนไทยผูกพันมายาวนานและความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้กับทั้งสองธนาคาร พร้อมเดินหน้ามุ่งสร้างชีวิตการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งวันนี้และอนาคต ผ่าน Financial Well-being solution สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและดีที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละคน ตลอดทุกช่วงชีวิต พร้อมช่วยลูกค้าฝ่าวิกฤต COVID-19 และเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยธนาคารได้เปิดแผนธุรกิจปีนี้ เร่งเครื่อง 3 เรื่องสำคัญ รุกขยายฐานลูกค้าที่เลือกใช้ธนาคารเป็นธนาคารหลัก เพิ่มศักยภาพช่องทางดิจิทัล สร้างสรรค์แพลตฟอร์มดิจิทัลที่เป็นมิตรและรู้ใจ พร้อมยกระดับทักษะพนักงานเพื่อสนับสนุนทิศทางการดำเนินงานของธนาคาร

คุณปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) หรือ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การรวมทีมของสององค์กรได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 100% ผนึกเป็น One Team ที่พร้อมจะสานต่อ One Dream ที่มีร่วมกัน คือ การสร้างชีวิตทางการเงิน (Financial Well-being) ที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ ผ่านโซลูชันทางการเงินที่จะช่วยให้ลูกค้ามีสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง พร้อมฝ่าอุปสรรค และสามารถเดินหน้าต่อไปได้แม้ในช่วงวิกฤต COVID-19 ซึ่งตลอดปี 2563 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2564 สิ่งที่ธนาคารดำเนินการควบคู่กันกับการเดินหน้ารวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนชาต เพื่อเป้าหมายการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ (EBT) ภายในวันที่ 5 เดือนกรกฎาคม 2564 คือ การให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 โดยในปีที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งรายย่อยและธุรกิจไปกว่า 750,000 ราย และในช่วงเวลานี้ก็ได้เตรียมมาตรการอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้

“One Team ที่จะร่วมกันสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ พร้อมให้ทุกคนจดจำในชื่อใหม่ว่า ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb และชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โดยในปีนี้ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ได้ลำดับความสำคัญทางธุรกิจที่จะเร่งดำเนินการไว้ 3 เรื่อง ได้แก่

 1. ขยายฐานลูกค้าที่เลือกใช้ธนาคารเป็นธนาคารหลัก (main bank) ผ่าน Financial Well-being solution โดยมีเป้าหมายหลักคือ ลูกค้ารวมกว่า 10 ล้านราย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงชีวิต ผ่าน 4 เสาหลัก (Financial Well-being pillars) ได้แก่ ฉลาดออม ฉลาดใช้ (Mindful spending & start saving), รอบรู้เรื่องกู้ยืม (Healthy borrowing), ลงทุนเพื่ออนาคต (Investing for future) และมีความคุ้มครองที่อุ่นใจ (Sufficient protection) 

2. สร้างศักยภาพทางด้าน “Digital-first operating model” บนโมบายแบงก์กิ้งแพลตฟอร์ม ที่เป็นมิตรและรู้ใจตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละคน แต่ละช่วงชีวิต มอบประสบการณ์ที่ดีกว่า สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้า และมีความคล่องตัวที่สูงขึ้นในการขับเคลื่อนนวัตกรรม และ 

3. สร้างศักยภาพบุคลากร (People development) เพื่อสนับสนุนการสร้าง Humanized digital เนื่องจากธนาคารไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะเทคโนโลยี แต่ให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์และให้ความช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาทางการเงินผ่านพนักงานของธนาคาร โดยใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือที่มาช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า เพื่อให้สอดรับกับยุคดิจิทัล ซึ่งพนักงานจะได้รับการพัฒนายกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้น (Up-skill) และสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นในการทำงาน (Re-skill) ที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนทิศทางของธนาคารที่จะสร้าง Humanized digital หรือ รูปแบบการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลที่เป็นมิตรและรู้ใจ

“จากลำดับความสำคัญทางธุรกิจที่ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ทำอยู่นี้ จะช่วยสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยให้คนไทยสามารถต่อสู้ ก้าวข้ามวิกฤต COVID-19 และมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้” คุณปิติ กล่าว

คุณอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า “เรามีเป้าหมายที่จะทำให้ลูกค้าบุคคลมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น โดยยึดความต้องการและเป้าหมายของลูกค้าเป็นที่ตั้ง  เราได้จับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละกลุ่มแต่ละช่วงชีวิต ได้ยกระดับพนักงานของธนาคารเพื่อเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับลูกค้า คอยทำความเข้าใจ ช่วยเหลือ ค้นหาความต้องการและส่งมอบโซลูชันที่เหมาะสมให้กับลูกค้า สุดท้ายเราจะสนับสนุนให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเลือกใช้เราเป็นธนาคารหลักตลอดไป ด้วยสิทธิพิเศษที่เหมาะกับแต่ละบุคคล”

ออกแบบโซลูชันทางการเงินที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงชีวิต 4 กลุ่ม 

1. กลุ่มลูกค้าที่เพิ่งเริ่มทำงาน กำลังก่อร่างสร้างตัว เพื่อล้านแรกในชีวิต ธนาคารจะเน้นโซลูชันด้านฉลาดออม ฉลาดใช้ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง พร้อมรับสิทธิประโยชน์รอบด้าน รวมถึงประกันอุบัติเหตุฟรี ที่ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงหากเกิดอุบัติเหตุผ่านบัญชี all free และ ออมอย่างมีวินัยเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินผ่านบัญชี no fixed

 2. กลุ่มลูกค้าที่เริ่มสร้างครอบครัว เป็นเสาหลักของบ้าน ต้องการชีวิตอิสระในวันข้างหน้า ธนาคารจะเสนอโซลูชันเกี่ยวกับสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ต้องการมีบ้าน มีรถ ที่ใหญ่ขึ้นสำหรับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้คนกลุ่มนี้มีระเบียบวินัยในการผ่อนชำระเพื่อปลอดหนี้ได้เร็วที่สุด และมีโซลูชันการรวบหนี้ด้วยทรัพย์สินที่มีอยู่ เพื่อให้จัดการปลอดหนี้ได้เร็วที่สุด สามารถเริ่มต้นเก็บออม และลงทุนเพื่ออนาคตได้ต่อไป 

3. กลุ่มลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจากหน้าที่การงาน ต้องการมีชีวิตที่มั่นคงและเกษียณอย่างไร้กังวล ธนาคารเน้นการให้ความรู้ด้านการลงทุน จัดทัพตามความเสี่ยง ต่อยอดความมั่งคั่ง ผ่านผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย และ ttb smart port  พอร์ตการลงทุน ที่ตอบทุกโจทย์การลงทุนครบวงจร โดยมืออาชีพ

4. กลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่ง เตรียมเข้าสู่วัยเกษียณ อยากใช้ชีวิตได้ตามใจ สุขภาพเป็นหนึ่ง ลูกหลานสบาย ธนาคารพร้อมส่งมอบโซลูชันด้านประกันชีวิตและการลงทุนที่มอบความอุ่นใจ ในการรักษาความมั่งคั่ง พร้อมดูแลสุขภาพ และวางแผนส่งต่อมรดกให้กับทายาทได้อย่างสบายใจ

ด้านนายป้อมเพชร รสานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ช่วยเหลือลูกค้าและคู่ค้าด้วยโครงการ “ตั้งหลัก” ซึ่งช่วยลูกค้า ผ่อนหนักเป็นเบาได้กว่า 600,000 รายทั่วประเทศ และมอบประกันคุ้มครองไวรัส COVID-19 ให้แก่บริษัทคู่ค้าทั้งรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วกว่า 3,000 รายทั่วประเทศ 

สำหรับปีนี้ ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารภายใต้แบรนด์ ttbDRIVE พร้อมขับเคลื่อนสนับสนุนครอบคลุมทุกภาคส่วนใน ecosystem ของธุรกิจรถยนต์ ด้วยภารกิจ “มากกว่าสินเชื่อรถ... เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น”  ได้แก่ 

1. พร้อมขับเคลื่อนให้ลูกค้าไปต่อ โดย ttbDRIVE พร้อมช่วยลูกค้าเคลียร์ทุกอุปสรรคทางการเงิน รวมหนี้ ลดภาระ เพิ่มสภาพคล่องด้วย “รถแลกเงินเคลียร์หนี้” และมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่รักษาวินัยทางการเงินเป็นอย่างดีผ่านโครงการ “จ่ายดีมีคืน” อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยโปรแกรม auto-approve ผนวกกับ scoring model พร้อมเจ้าหน้าที่ ttbDRIVE agent ให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 

2. พร้อมขับเคลื่อนให้ธุรกิจคู่ค้าไม่สะดุด โดยได้เปิดตัว “DRIVE Connect Platform” มิติใหม่ของการทำตลาดออนไลน์ผ่านทาง Facebook ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว (ดีลเลอร์รถมือสอง) และยังมีระบบ “Cross-area Booking” สามารถรองรับการซื้อขายรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วผ่านช่องทางออนไลน์ ลดข้อจำกัดด้านพื้นที่ให้แก่คู่ค้า และ 3. พร้อมยกระดับศักยภาพทีมงาน ttbDRIVE  เพื่อการทำงานในยุคดิจิทัล ผ่าน DRIVE Academy โรงเรียนสินเชื่อรถยนต์ ttb เพื่อจะฝึกทีมงาน DRIVE ภายใต้หลักสูตรที่เข้มข้น เพื่อสร้างบริการที่ดีให้กับลูกค้าและคู่ค้าทุกราย

คุณเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า เป้าหมายของธนาคาร คือ การเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่จนถึงเอสเอ็มอีไว้วางใจให้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าให้ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่าน 3 โซลูชัน เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นของลูกค้าธุรกิจ ได้แก่ 

1. มอบแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมและเพียงพอ โดยเน้นการสนับสนุนเอสเอ็มอีที่อยู่ในซัพพลายเชนของธุรกิจขนาดใหญ่ให้ได้รับวงเงินที่เพียงพอบนเงื่อนไขที่เหมาะสมผ่าน “สินเชื่อเพื่อเครือข่ายธุรกิจ ทีทีบี (ttb supply chain solutions)” และช่วยเสริมสภาพคล่องในภาวะวิกฤตด้วยโครงการช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอี (Special Loan) และมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ (Asset warehousing) ที่สอดคล้องนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย 

2. มอบโซลูชันและบริการที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารธุรกิจ ด้วย “ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ทีทีบี บิสซิเนสวัน (ttb business one)” ที่เป็นมากกว่าเครื่องมือการทำธุรกรรมออนไลน์ บิสซิเนสวัน ช่วยให้ทำธุรกรรมได้ครบตั้งแต่เรื่องสินเชื่อ จนถึงธุรกรรมต่างประเทศ มีรายงานครบถ้วน เรียกดูง่าย และนำไปต่อยอดทำรายงานเชิงวิเคราะห์ได้ สามารถเชื่อมต่อกับระบบของพันธมิตรและลูกค้า เช่น ERP POS และอีกหนึ่งดิจิทัลโซลูชันที่ช่วยลดเรื่องการใช้เงินสดและเอกสารอย่างเต็มรูปแบบก็คือ “ระบบบริหารการเรียกเก็บเงิน ทีทีบี (ttb digital invoice management)” ซึ่งเป็นการนำโซลูชันของธนาคารมาเชื่อมต่อกับระบบการเรียกเก็บเงินของลูกค้าธุรกิจ ลดการใช้เงินสดและเอกสาร ลดเวลาดำเนินการ และค่าใช้จ่ายเรื่องคน 

 3. มอบชีวิตทางการเงินที่ดีให้แก่พนักงานและคู่ค้า ด้วย “บริการการจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการพนักงาน ทีทีบี เพย์โรลพลัส (ttb payroll plus)” รวมไปถึงบริการและผลิตภัณฑ์ด้านการบริหารความเสี่ยงและด้านประกัน อย่างเช่น “ประกันสินเชื่อธุรกิจ ทีทีบี วันไลฟ์ (ttb one life business insurance)” เป็นต้น

คุณประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า ตลอดเวลากว่า 16 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานทั้งสององค์กรได้ทำงานร่วมกันอย่างหนัก เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามแผนการรวมกิจการที่วางไว้ ภายใต้แนวทาง One Dream, One Team, One Goal… จากนี้ไปเหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนครึ่งกับก้าวสำคัญสุดท้ายของการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ในวันที่ 5 เดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งทีมงานทุกคนพร้อมแล้วที่จะดำเนินการในขั้นสุดท้าย เพื่อขับเคลื่อนธนาคารใหม่ที่จะช่วยให้คนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

รวมพนักงานทั้งสององค์กรเป็นพนักงานของทีเอ็มบี

  • ธนชาต (ttb) แล้ว 100% เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 และเร่งสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ เพื่อหล่อหลอมพนักงานให้เป็นหนึ่งเดียว ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถเดินหน้าไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนด้านช่องทางการให้บริการและการสื่อสาร ได้ทยอยรวมช่องทางหลักของทั้งสองธนาคาร เช่น สาขา และ atm รวมทั้งทำการ รีแบรนด์เป็นทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้าเดิมของทั้งสองธนาคารสามารถเข้าไปใช้บริการได้ ขณะที่ช่องทางอื่น ๆ เช่น Digital channels จะทยอยรวมเป็นแบรนด์ใหม่ ttb และมีกำหนดแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือนกรกฎาคม 2564 อีกทั้งสื่อทางการตลาดต่าง ๆ รวมทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็ได้เปลี่ยนโฉมใหม่ภายใต้แบรนด์ ttb เช่นกัน


  • ด้านระบบงาน IT และระบบงานผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการเชื่อมต่อระบบของทั้งสองธนาคารไว้แล้ว สำหรับกระบวนการสุดท้ายของการรวมกิจการ คือ การเชื่อมต่อระบบของทั้งทีเอ็มบีและธนชาตให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ (Entire Business Transfer) ซึ่งการเชื่อมต่อระบบในครั้งนี้ ทีมงานได้มีการวางแผนงานอย่างรัดกุมและมีการซักซ้อมแบบเสมือนจริง (Mock run) เพื่อให้การเชื่อมต่อระบบในวันจริงสำเร็จตามแผน


  • ภายหลังการรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ ทุกผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการจะรวมเป็นหนึ่งเดียว ลูกค้าทีเอ็มบีเดิม สามารถใช้ผลิตภัณฑ์และบริการได้เหมือนเดิมภายใต้แบรนด์ใหม่  สำหรับลูกค้าธนชาตเดิม หลังการรวมระบบในเดือนกรกฎาคมสำเร็จ ผลิตภัณฑ์และบริการเดิมจะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด รวมไปถึงการเพิ่มเติมในสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยลูกค้าธนชาตจะได้รับจดหมายแจ้งรายละเอียดซึ่งจะมี QR Code ให้สแกนเข้าไปดูข้อมูลเฉพาะของแต่ละบุคคล และจดหมายนี้จะทยอยส่งออกไปหาลูกค้าตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป ธนาคารขอให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะนำไปสู่การยกระดับประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน


“แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนแผนงานและวิธีการทำงานต่าง ๆ ทีมงาน ttb ก็ยังคงมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานบูรณาการร่วมกันอย่างหนักมาตลอดเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งทีมงานทุกคนพร้อมแล้วที่จะดำเนินการในขั้นสุดท้าย เพื่อจะได้นำเสนอธนาคารใหม่ที่จะช่วยให้คนไทยทุกคนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ทั้งวันนี้และอนาคต” คุณประพันธ์ กล่าวสรุป 





ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จีนพัฒนา ‘Vision Heat’ เซนเซอร์มองทะลุควัน-หมอก ความละเอียด 4K ไม่ต้องใช้ความเย็น เห็นภาพความร้อนเหมือนตาของงู!

นักวิจัยจีนพัฒนาเซนเซอร์อินฟราเรด 4K แรงบันดาลใจจากตาของงู ใช้ Quantum Dots ผสาน CMOS ทำงานได้ที่อุณหภูมิห้อง เตรียมปฏิวัติกล้องสมาร์ทโฟนและรถไร้คนขับให้มองเห็นทะลุความมืดและหมอกคว...

Responsive image

เด็ก 19 สร้างนวัตกรรม ถุงมือพิมพ์งานในอากาศ จากการเรียนคอร์สออนไลน์ฟรี MIT จนคว้ารางวัล SxSW Sydney 2025

พบกับ Freesia Gaul เด็กวัย 19 ที่ย้ายโรงเรียนถึง 13 ครั้ง แต่ใช้คอร์สเรียนฟรีจาก MIT สร้างถุงมือ VR พิมพ์งานกลางอากาศจนคว้ารางวัล SxSW และเปิด Startup ได้สำเร็จ...

Responsive image

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent สาย Productivity เลขาส่วนตัวอัจฉริยะ สรุปงาน–ส่งเมล–นัดประชุมให้เสร็จในคลิกเดียว

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent ผู้ช่วยสาย Productivity ที่เชื่อม Gmail, Calendar และ Drive เข้าด้วยกัน ช่วยสรุปงาน ร่างอีเมล และจัดการนัดหมายแบบอัตโนมัติ เปลี่ยน Inbox ให้กลายเป...