สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว บังคับบริษัทแม่ ByteDance ต้องขายแอปภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ด้านซีอีโอ TikTok ประกาศกร้าว พร้อมท้าทายกฎหมาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น
ร่างกฎหมายที่บังคับให้ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ในจีน เลือกว่าจะ ‘ยอมขายแอป’ หรือจะ ‘ถูกแบน’ ในสหรัฐฯ ผ่านการเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อวันอังคาร (25 เมษายน) และประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ลงนามในวันต่อมา
เงื่อนไขที่ ByteDance ต้องรับและปฏิบัติตามนั้น คือขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ให้ได้ภายใน 270 วัน หรือ 9 เดือน ซึ่งอาจขยายระยะเวลาเป็นหนึ่งปีได้ หากสหรัฐฯ เห็นว่าบริษัทมีความคืบหน้าในการขายกิจการ
ความมั่นคงของชาติและการที่ TikTok มีเจ้าของอยู่ในจีน จุดประกายให้สภาคองเกรสผ่านมาตรการดังกล่าว โดยทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกล่าวว่า มีความเสี่ยงที่รัฐบาลจีนอาจพึ่งพา ByteDance เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ 170 ล้านคนในสหรัฐฯ หรือใช้เพื่อเป็นเครื่องมือเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่า TikTok มีความพยายามหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือแบบที่ถูกกล่าวหา
ความพยายามในการแบน TikTok ไม่ใช่เรื่องใหม่ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เคยออกคำสั่งห้ามใช้แอปฯ TikTok ก่อนที่จะถูกระงับโดยศาลกลางรัฐบาลที่มองว่า ‘เป็นการกระทำที่ขาดเหตุผล และตามอำเภอใจ’
TikTok ปฏิเสธข้อกล่าวหาจากสหรัฐฯ ทั้งหมด และพยายามชี้ให้เห็นว่าบริษัทไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวอ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ
บริษัทยังได้ทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์กับแคมเปญโฆษณา #KeepTikTok ผ่านทางโทรทัศน์ และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ทั่วสหรัฐฯ โฆษณาชุดนี้พยายามชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของแพลตฟอร์ม TikTok เช่น การสร้างคอมมูนิตี้ที่ปลอดภัย รวมถึงร่วมมือกับ Oxford Economics เพื่อออกรายงานที่แสดงให้เห็นถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ TikTok มอบให้แก่ธุรกิจ และผู้บริโภคทั่วสหรัฐฯ
อ่านบทความ : TikTok สวนกระแสแบน เผยผลวิจัยใหม่ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดันรายได้มหาศาลให้สหรัฐฯ
หลังร่างกฎหมายผ่าน Shou Chew ผู้นำ TikTok ได้เผยแพร่วิดีโอตอบโต้ทันที พร้อมท้าทายกฎหมายสหรัฐฯ ขอสู้ให้ได้อยู่ต่อ
วางใจได้เลย เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น
“เรามั่นใจและเราจะต่อสู้เพื่อสิทธิของคุณในศาลต่อไป ข้อเท็จจริงและรัฐธรรมนูญอยู่ข้างเรา... วางใจได้เลย เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” Shou Chew กล่าวผ่านวิดีโอที่อัปโหลดบน TikTok นอกจากตำหนิร่างกฎหมายที่ออกมาแล้ว เจ้าตัวยังเรียกร้องให้ผู้ใช้งานช่วยส่งเสียงบอกด้วยว่า TikTok ช่วยให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้นยังไงบ้าง
แน่นอนว่าแม้ร่างกฎหมายจะผ่านการเห็นชอบของประธานาธิบดี แต่การต่อสู้ระหว่างสองมหาอำนาจสหรัฐและจีน โดยมี TikTok เป็นเหตุในครั้งนี้ ดูจะเป็นการเล่นสงครามยาว ทั้งการโต้กลับจากฝั่งจีน ที่อาจขัดขวางการขายแพลตฟอร์มเทคโนโลยีออกนอกประเทศ รวมถึงมูลค่าของ TikTok นั้นมหาศาล เรายังมองไม่เห็นว่าใครจะเป็นผู้ซื่อที่มีศักยภาพ ณ ตอนนี้
อ้างอิง: bbc
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด