Virtual Reality หรือ VR กำลังเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับการจับตาและหลายองค์กรให้ความสนใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในช่วงเริ่มต้นยังถูกจำกัดอยู่ในกลุ่มการใช้งานเฉพาะกลุ่ม อาทิ สายธุรกิจ Entertainment และปัจจุบันเมื่อ Ecosystem เริ่มพร้อมมากขึ้น ทั้งอุปกรณ์, โครงข่ายอินเทอร์เน็ต เราจึงได้เห็นการนำไปประยุกต์ใช้ในรูปแบบอื่นๆ อาทิ การนำ VR มาช่วยอบรมพนักงานในองค์กร การให้ความรู้ด้านการแพทย์ เป็นต้น ล่าสุดทาง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับ บริษัท เอส สแควร์ แมกกาซีน จำกัด เจ้าของสื่อนิตยสารการตลาด และเว็บไซต์ออนไลน์ ภายใต้แบรนด์ SM ได้ร่วมกันจัดสัมมนาในหัวข้อ "VR5G" เขย่าโลกธุรกิจ ขึึ้น โดยนำเสนอเรื่องราวเจาะลึกนวัตกรรมเทคโนโลยี VR/AR ที่เข้ามาช่วยพลิกโฉมธุรกิจในยุค 5G จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในวงการเทคโนโลยีและโทรคมนาคม ที่พร้อมวิเคราะห์เทรนด์การเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีในระดับโลกแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และมุมมองการประยุกต์นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัลอย่างครบมิติ
ทั้งนี้ ภายในงานจะได้พบกับโซลูชั่นด้าน VR และเทคโนโลยี Innovative ที่ใช้กับธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม ประกอบด้วยระบบถ่ายภาพแบบ Volumetric VR, ชุดสำเร็จรูป Backpack VR PC พร้อมแอปพลิเคชั่นใช้งานเพื่อเข้าสู่โลกเสมือนจริงอย่างสมบูรณ์แบบ, Body Sensor Network VR Suit เสื้ออัจฉริยะติดตั้งเซ็นเซอร์เพื่อผสานกับการสร้างโลกเสมือนในอุตสาหกรรมกีฬาและความมั่นคง และอุปกรณ์ Drone สำหรับการถ่ายทำ VR เต็มรูปแบบ
อีกทั้ง มีผู้สนใจเข้าร่วมฟังสัมมนากว่า 300 ราย ทั้งนักธุรกิจ นักวิชาการ บุคคลในแวดวงโทรคมนาคม และสื่อมวลชนสายเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และการตลาด ร่วมงานอย่างคึกคัก
ในโอกาสนี้ พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งเป็นประธานในพิธีได้กล่าวว่า เทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีการเปลี่ยนผ่านจากยุค 1G จนมาถึงวันนี้ที่เป็นยุค 4G กำลังจะเคลื่อนเข้าสู่ยุค 5G อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2020 ซึ่งจะทำให้ผู้คนทั่วโลกมากกว่า 5,000 ล้านคน สามารถสื่อสารด้วยความเร็วสูงในระดับ Gbps จนทำให้เราสามารถสื่อสารกันด้วย Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการมองเห็นในลักษณะ 3 มิติ ได้อย่าง Realtime ภายในปี 2025 และมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 เราจะเห็นโทรทัศน์, โรงเรียน, มหาวิทยาลัย, ธนาคาร และร้านค้า อยู่บนไซเบอร์สเปซ ซึ่งสามารถเข้าถึงด้วยการสวมใส่แว่นตาเล็กๆ ได้อย่างน่าตื่นเต้น
ทั้งนี้ ในยุค 5G จะมีความเร็วในการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ 4G และสำหรับมาตรฐาน 5G ซึ่งแท้จริงอาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 100 เท่า ดังนั้น หากเป็นการดาวน์โหลดภาพยนตร์ HD บนเครือข่าย 4G จะใช้เวลาในการดาวน์โหลด 6 นาที แต่ 5G อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ในยุคที่ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหา, รูป และวิดีโอ และมีความเร็วในการอัพโหลดที่ดีขึ้น จะช่วยกระตุ้นให้เกิดเนื้อหาบนโซเชียลมีเดียมากขึ้นอย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตาม มีความชัดเจนแล้วว่าเทคโนโลยี 5G กำลังเข้ามามีอิทธิพลอย่างยิ่งในการกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดย 5G ได้ถูกกำหนดมาตรฐานให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลการเคลื่อนที่, การวิเคราะห์ และการทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยการให้ผู้บริโภคสามารถกำหนดและมีพลังอำนาจมากขึ้น เช่น การทำ Smart Contract และ Payment ในระบบแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งการส่งผ่านข้อมูลวิเคราะห์ตำแหน่งของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) จนทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์จะกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ชาญฉลาดยิ่ง
ไม่เพียงเท่านั้น ระบบ 5G ยังทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารในรูปแบบใหม่โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางและมีการตอบสนองแบบ Realtime ทั้งในการแพร่ภาพและเสียง (Broadcasting) และเชื่อมโยงควบคุมการใช้พลังงานของอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึง Drone และอุปกรณ์ทุกชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ส่วนทางด้าน นายอราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายงานพัฒนาบริการ แอปพลิเคชั่นส์โทรคมนาคมและเครือข่าย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่เป็น Telecom Service Provider อันดับหนึ่งของประเทศไทย ได้กล่าวว่า ผู้คนจึงมักจะคิดถึง AIS ในรูปแบบของการให้บริการการสื่อสารทางเสียง ข้อความ อินเทอร์เน็ต คอนเท้นต์และอื่นๆ เราจะมาดูกันว่า เมื่อศักยภาพของ Network เข้าสู่ยุค 5G ที่ตอบสนองเทคโนโลยีอย่าง VR, AR, และ MR ได้เป็นอย่างดีนั้น เราจะได้เข้าสัมผัสสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร และ AIS จะมีบทบาทอย่างไรในยุคดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน นายไพโรจน์ ไววานิชกิจ Vice Chairman VVR Group ย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในปัจจุบันอย่าง Virtual Reality (VR), Augmented Reality (AR), Mixed Reality (MR) และ Innowality Reality Technologies ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมากจากอดีต โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในอุตสาหกรรมหลากหลายสาขา (Vertical Business) ไม่ว่าจะเป็น ด้านการศึกษา ความบันเทิง อุตสาหกรรม สาธารณสุข การกีฬา การทหารและกิจการเพื่อความมั่นคง เป็นต้น
นอกไปจากนั้น เทคโนโลยีการถ่ายทอดสัญญาณแบบ VR Broadcasting กำลังจะกลายเป็นประสบการณ์ใหม่กับผู้บริโภคทั่วโลก ทั้งหมดนี้เปิดไปสู่รูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ บนโลกธุรกิจเดิมที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ เทคโนโลยีโทรคมนาคมยุคใหม่ทั้ง Fibre Optic และ 4G/5G ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วในเทคโนโลยี Realities เหล่านี้ เรากำลังเข้าสู่โลกใหม่ รูปแบบการทำธุรกิจใหม่ๆ และโอกาสใหม่ๆ
ด้าน นายวรภัทร ภัทรธรรม ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนานโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยี VR ได้อย่างน่าสนใจว่า คือ วิธีการสร้างความแตกต่างให้กับอนาคต จะช่วยให้เราสามารถสำรวจโลกและได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่าเสมือนจริง
ผลกระทบจากการเข้ามาของยุคดิจิทัล ไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันและระบบคลาวด์ในเวลาจริงเท่านั้น แต่ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญได้ด้วยวิธีการที่จะช่วยลดปัญหาการขาดประสิทธิภาพ ในฐานะผู้นำด้านการคำนวณนวัตกรรม อินเทลพร้อมที่จะผลักดันให้เกิดวิวัฒนาการและการขยายตัวของ VR รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของเราอย่างมาก เพื่อช่วยให้เกิดประสบการณ์ใหม่ๆ
สำหรับทางด้าน ดร.ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล (CTO) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องของการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาธุรกิจ ได้กล่าวย้ำว่า เราไม่หยุดนิ่งในการขับเคลื่อนองค์กรในฐานะผู้นำทางด้านเทคโนโลยีสำหรับอสังหาฯ และการอยู่อาศัยอย่างเต็มรูปแบบ (Property Technology) ซึ่งนำเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในยุคดิจิทัลและเติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ได้อย่างสมบูรณ์แบบตามแนวคิด Complete your living experience
โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แสนสิริเปิดตัวสุดยอดนวัตกรรม VR/AR มาใช้ในการเปิดมิติใหม่ของการอยู่อาศัย ด้วยการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริงเข้าไว้ด้วยกัน จำลองสภาพแวดล้อมให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศของโครงการที่พักอาศัยได้แบบอินเตอร์แอคทีฟ ด้วยฟังก์ชั่นในการออกแบบและปรับเปลี่ยนห้องตัวอย่างได้ในทุกมุมมอง ซึ่งนวัตกรรม VR/AR จะช่วยสร้างความแปลกใหม่และยกระดับประสบการณ์การซื้อที่อยู่อาศัยในวงการอสังหาริมทรัพย์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด