สรุป 10 จุดแข็ง Llama 3.1 คืออะไร โมเดล AI ใหญ่และดีที่สุด จาก Meta | Techsauce

สรุป 10 จุดแข็ง Llama 3.1 คืออะไร โมเดล AI ใหญ่และดีที่สุด จาก Meta

Meta ไม่ได้หายไปไหน ขอร่วมวงสู้ศึก AI ด้วย แม้ก่อนหน้านี้จะดูเหมือนว่าบริษัทกำลังตามหลังคู่แข่ง แต่ล่าสุดได้เปิดตัวโมเดล Llama 3.1 ที่ Meta ชี้ว่าคือโมเดล AI แบบ Open Source ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเก่งที่สุด 

จากการทดสอบพบว่า Llama 3.1 มีความสามารถในหลายๆ ด้านเหนือกว่าโมเดล AI ดังๆ อย่าง GPT-4o ของ OpenAI และ Claude 3.5 Sonnet ของ Anthropic ซึ่งเป็นโมเดลแบบปิด แต่จะดีที่สุดอย่างที่บริษัทได้เคลมไว้หรือไม่ Techsauce จะพามาหาคำตอบ

สรุป 10 จุดแข็งของ Llama 3.1 คืออะไร

1. โมเดล Open Source : Llama 3.1 มาในรูปแบบของโมเดล Open Source ซึ่งหมายความว่าทุกคนสามารถเข้าถึง ใช้งาน และนำไปปรับแต่งได้ฟรี สามารถดาวน์โหลดได้บน https://llama.meta.com/ และ Hugging Face 

2. มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยมีถึง 405 พันล้านพารามิเตอร์ : Llama 3.1 เป็นโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา จำนวน 405 พันล้านพารามิเตอร์ (พารามิเตอร์เปรียบเสมือน 'เซลล์ประสาท' ของ AI ที่ช่วยให้เรียนรู้และตัดสินใจได้ดี) 

3. รองรับถึง 8 ภาษา ภาษาไทยก็มี :  ภาษาที่ Llama 3.1 สามารถเข้าใจได้หลายภาษา ได้แก่ อังกฤษ, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อิตาลี, โปรตุเกส, ฮินดี, สเปน รวมถึงไทย 

4. ความยาวบริบทที่มากขึ้นถึง 128K tokens : สามารถรองรับข้อมูลที่มีความยาวได้ถึง 128,000 คำหรือตัวอักษร ทำให้เหมาะสำหรับงานต่างๆ เช่น การสรุปข้อความที่ยาว ๆ

5. ผ่านการฝึกให้ไม่ตอบ prompt ที่เป็นอันตราย : Meta แนะนำว่าควรใช้งานร่วมกับ Prompt Guard ระบบป้องกัน prompt injection และ Llama Guard 3 โมเดลเพื่อความปลอดภัยทางภาษา

6. การปรับใช้ที่ยืดหยุ่น : โมเดล Llama 3.1 สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น ภายในองค์กร (ในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท) ในระบบคลาวด์ หรือแม้แต่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือแล็ปท็อป

7. ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล : ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องแชร์ข้อมูลของตนกับ Meta ทำให้สามารถใช้โมเดล Llama 3.1 ได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

8. การร่วมมือกับบริษัทต่างๆ : มีระบบนิเวศ (ecosystem) ที่พร้อมสำหรับการพัฒนาและใช้งาน โดยมีพาร์ทเนอร์ชั้นนำอย่าง AWS, NVIDIA, Microsoft Azure, Databricks, Google Cloud, Groq, IBM

9. มีเครื่องมือด้านความปลอดภัย : เช่น Llama Guard 3 และ Prompt Guard เปิดให้นักพัฒนาสามารถดาวน์โหลดและปรับแต่งโมเดลได้อย่างอิสระ

10. อัปเกรดรุ่น 8B และ 70B: โมเดลขนาดเล็กที่มีพารามิเตอร์ 8 พันล้านและ 70 พันล้านตามลำดับ ทั้ง 2 ตัวได้รับการอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถเข้าใจงานที่ซับซ้อนได้ดีกว่าเดิม เช่น การเขียนโค้ด หรือการใช้เหตุผล

และนี่ก็คือจุดแข็งของโมเดลตัวใหม่ล่าสุดจาก Meta ซึ่งสาเหตุหลักที่เปิดเป็นแบบ Open Source ทางบริษัทเผยว่า โมเดล AI แบบเปิดนั้นมีโอกาสพัฒนาได้เร็วกว่าโมเดลแบบปิด เนื่องจากนักพัฒนาและนักวิจัยจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการปรับปรุงโมเดลนี้ได้

Mark Zuckerberg CEO ของ Meta ก็ชี้ว่า บริษัทต้องการลดการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายอื่นๆ ดังนั้น เทคโนโลยีอย่าง AI ที่กำลังจะก้าวมามีบทความสำคัญเทียบเท่าสมาร์ตโฟน Meta จึงต้องการที่จะพัฒนามันด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

ตอนนี้เปิดให้ใช้บน https://llama.meta.com/ และ Hugging Face 

อ้างอิง: theverge , ai.meta 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

Bukboek Sengpratoom
Bukboek Sengpratoom
6 m. ago

good  

kmutnb 

RELATED ARTICLE

Responsive image

ซีอีโอ ttb นำทัพตอกย้ำความก้าวล้ำด้าน Digital & Tech ของธนาคาร ผ่านงาน 'ttb spark REAL change'

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) จัดงาน ‘ttb spark REAL change’ ซึ่งมีเวทีเผยวิสัยทัศน์องค์กร นิทรรศการที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการในปัจจุบันและอนาคต ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Digital ...

Responsive image

DOGE ของอีลอน มัสก์ อ้างเซฟเงิน 8 พันล้าน แต่ความจริงแค่ 8 ล้าน

อีลอน มัสก์ CEO ของ Tesla และ SpaceX กำลังมีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับหน่วยงานใหม่ Department of Government Efficiency (DOGE) หรือ 'กรมประสิทธิภาพภาครัฐ' ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อลดค่าใช้...

Responsive image

Mercedes-Benz เดินหน้าทดสอบแบตเตอรี่ Solid-state ในรถ EV ตั้งเป้าวิ่งได้ไกลกว่า 600 ไมล์

Mercedes-Benz กำลังทดสอบแบตเตอรี่ Solid-State ในรถยนต์ไฟฟ้า EQS ที่สหราชอาณาจักร เพิ่มระยะทางขับขี่ทะลุ 600 ไมล์ ลดน้ำหนักแบตเตอรี่ 40% นับเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรม EV แข่งกับ Hyu...