รู้จัก ONDC การแก้เกมผูกขาดของรัฐบาลอินเดียในตลาดอีคอมเมิร์ซ สร้างโอกาสรายย่อยแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม | Techsauce

รู้จัก ONDC การแก้เกมผูกขาดของรัฐบาลอินเดียในตลาดอีคอมเมิร์ซ สร้างโอกาสรายย่อยแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม

ปัจจุบันสถานการณ์ของอีคอมเมิร์ชในอินเดียเรียกได้ว่ากำลังเฟื่องฟู ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้น นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อขายคนอินเดีย รวมถึงการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายแก่ผู้ค้า อย่างไรก็ตามผู้เล่นเจ้าใหญ่อย่าง Amazon มีบทบาทผูกขาดในสนามอีคอมเมิร์ชอินเดีย เป็นผลให้รัฐบาลอินเดียเข้ามามีบทบาทในการจัดวางโครงสร้างเพื่อช่วยเหลือผู้ค้าในประเทศไม่ให้เสียผลประโยชน์ ล่าสุดภาครัฐนำทีมจัดตั้ง ONDC "Open Networl for Digital Commerce" ขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับตลาดธุรกิจออนไลน์ในอินเดีย

อินเดียมีฐานผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่และมีตลาดออนไลน์ที่กำลังเติบโต และยังคงขยายตัวสู่ตลาดชนบทในเมืองต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น แพลตฟอร์มออนไลน์ช่วยให้ทำธุรกรรมการจับจ่ายใช้สอยและจัดส่งสะดวกขึ้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการซื้อของผู้บริโภคชาวอินเดียอย่างค่อยเป็นค่อยไปส่งผลให้ตลาดอีคอมเมิร์ซมีโอกาสในการเติบโตสูงมาก ตามรายงาน อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของอินเดียมีผู้เล่นหลัก ได้แก่ Amazon, Flipkart ที่เป็นสองผู้เล่นหลัก  Snapdeal, Paytm, Myntra  และอื่น ๆ 

Online India Retail Market Division Share 2020 From Amazon Cyfuture Report

การต่อสู้กับธุรกิจออนไลน์ต่างชาติของอินเดีย

การค้าปลีกของอินเดียนั้นนำโดยอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ โดยอินเดียมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 560 ล้านคน และถือเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในแง่ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต แซงหน้าสหรัฐอเมริกาโดยมีการรายงานว่าในปี 2027 การค้าขายอีคอมเมิร์ซในอินเดียจะมีมูลค่าถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ 

สำหรับการแข่งขันของตลาดอีคอมเมิร์ซในอินเดียนั้น เรียกได้ว่ามีความรุนแรงมาโดยตลอด จากการต่อสู้กันสองแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์อเมริกันอย่าง Amazon และ eBay อย่างไรก็ตามเมื่อคู่แข่งอย่าง eBay ได้เปลี่ยนเป้าหมายที่จะตีตลาดในภาคพื้นเอเชียมากกว่าตลาดของอินเดีย จึงทำให้ Amazon ครองตลาดออนไลน์มาโตยตลอด 

การเข้ามาของ Amazon นั้นทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคในอินเดียเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เนื่องจากความหลากหลายของสินค้า ราคา และคุณภาพที่เทียบเคียงกับท้องตลาดปกติได้ จึงเป็นผลให้ผู้บริโภคให้ความสนใจและมีความจงรักภักดีกับ Amazon มากขึ้น ก่อนที่จะถูก Flipkart ซึ่งเป็นกิจการภายใต้อำนาจของ Walmart ล้มแชมป์ไปเมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีรายงานการร้องเรียนจำนวนมากจากผู้ขายท้องถิ่นซึ่งกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มมีการกำหนดราคาที่ไม่เหมาะสม การตัดราคาระหว่างร้าน การสมรู้ร่วมคิดกับผู้ขาย หรือในกรณีร้านประเภทที่เป็นเครือเดียวกับผู้จัดจำหน่ายหรือเป็นเจ้าของสินค้าคงคลังผ่านเครือข่ายบริษัทโฮลดิ้งของตนเอง

ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการอีคอมเมิร์ซของอินเดียหลายรายกล่าวว่าธุรกิจออนไลน์จากต่างประเทศจะกลายเป็ยภัยคุกคามระยะยาวต่อธุรกิจออนไลน์ของอินเดีย หากว่ารัฐบาลอินเดียได้อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจออนไลน์ได้อย่างเสรี ทำให้ตอนนี้นโยบายกีดกันการลงทุนจากต่างประเทศของอินเดียยังคงมีใช้อยู่ตามเดิม ซึ่งทำให้การตกลงระหว่าง SEA บริษัทแม่ของ Garena และ Shopee ไม่ประสบความสำเร็จ และต้องระงับการให้บริการในอินเดียหลังจากเปิดให้บริการเพียง 6 เดือนหลังจากเปิดตัว Shopee ในอินเดียเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ค้าปลีกในท้องถิ่นในประเทศ The Confederation of All India Traders (CAIT) 

ONCD India’s Open Network for Digital Commerce คือใคร

ONDC หรือ Open Network for Digital Commerce จัดตั้งขึ้นในฐานะหน่วยงานไม่แสวงกำไร โดย Department for Promotion of Industry and Internal Trade (DPIIT) ภายใต้สภาอินเดียเป็นผู้สนันสนุน 

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำโครงสร้างดิจิทัลขั้นพื้นฐานในการขยายการจัดการด้านระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซของประเทศอินเดีย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความหลากหลายและขยายการเข้าถึงตลาดดิจิทัลที่ครอบคลุมสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและผู้ค้าหลายล้านรายในประเทศ ทำให้ผู้ค้าปลีกรายย่อยและร้านค้าทั่วไปหลายล้านรายได้รับโอกาสในการแข่งขันที่เท่าเทียมกัน เป็นทางเลือกนอกเหนือจากแพลตฟอร์ม Amazon และ Flipkart ที่เป็นเจ้าของโดย Walmart ซึ่งผูกขาดตลาดอีคอมเมิร์ซของอินเดียมาจนถึงปัจจุบัน  

ONDC เปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2022 โดยเริ่มนำร่องให้บริการใน 5 เมือง ได้แก่  เขตเมืองหลวงเดลี โภปาล เบงกาลูรู ชิลลอง และโคอิมบาโตร์ มุ่งเน้นไปที่ร้านค้าปลีก โดยในอินเดียจะเรียกว่าร้านค้าลักษณะนี้ว่า Mom-and-Pop Shop หรือ Kirana ในภาษาอินเดีย 

รวมถึงร้านอาหารทั่วไป และการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมแบบเรียลไทม์ ซึ่งหลังจากที่เครือข่ายมีความเสถียรภาพแล้ว ตั้งเป้าที่จะขยายไปยัง 100 เมืองทั่วอินเดียภายในเดือนตุลาคม 2565 เพื่อรองรับผู้ขาย 30 ล้านรายและผู้บริโภคจำนวนกว่า 10 ล้านคนทางออนไลน์ 

ควบคุมการผูกขาดทางดิจิทัลและทำให้อุตสาหกรรมมีความครอบคลุมมากขึ้น

ONDC จะดูแลตั้งแต่ B2C รวมถึง B2B โดยเปลี่ยนธุรกิจทั้งหมดตั้งแต่สินค้าขายปลีก อาหาร ไปจนถึงระบบการขนส่งให้อยู่บนเครือข่ายแบบเปิด (Open-Source Network) ไม่ว่าจะใช้งานผ่านแพลตฟอร์มใดก็ตาม โดย ONDC จะทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อช่วยผู้ซื้อเข้าถึงร้านค้าที่ใกล้ที่สุดโดยผู้ใช้สามารถทำการค้นหาผู้ขาย ผลิตภัณฑ์บริการ ผ่านแพลตฟอร์มของ ONDC ที่อ้างว่ามีความเป็นกลาง 

โดยจะส่งเสริมเครือข่ายแบบเปิดที่พัฒนาขึ้นบนวิธีการแบบโอเพนซอร์ส โดยใช้ข้อกำหนดแบบเปิดและโปรโตคอลเครือข่าย และไม่ขึ้นกับแพลตฟอร์มเฉพาะใดๆ สำหรับการทำรายการจับคู่ผู้ขาย และการค้นหาราคาบนพื้นฐานโอเพนซอร์ส เช่น Unified Payments Interface (UPI) โดยผู้ซื้อและผู้ขายสามารถทำธุรกรรมบน ONDC ได้โดยไม่คำนึงว่าถึงการลงทะเบียนกับแพลตฟอร์มผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซเฉพาะใดๆ เช่น แม้ว่าผู้ขายลงทะเบียนขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม A ในขณะที่ผู้บริโภคลงทะเบียนบนแพลตฟอร์ม B ผู้บริโภคสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ของผู้ขายได้โดยตรงโดยไม่ต้องลงทะเบียนบนแพลตฟอร์ม A จากเครือข่าย ONDC

โดยล่าสุดสื่ออินเดียเปิดเผยว่าสถาบันการเงินภาครัฐรวมถึงธนาคารพาณิชย์กว่า 24 แห่ง เข้าถือหุ้นใน ONDC และบริษัทเอกชนอีกประมาณ 80 แห่งแสดงความต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการผลิตซอฟต์แวร์และแอพสำหรับองค์กรสำหรับผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ รวมถึงผู้ให้บริการเกตเวย์เพื่อการชำระเงิน 

ไม่ว่าจะเป็น Government e Marketplace (GeM), India Post, BHIM, Google Pay, PhonePe, Microsoft, Tally, Zoho, FarEye และสหพันธ์พนักงานไอทีของอินเดียทั้งหมดเพื่อขยายการดำเนินงานในระดับชาติ โดย Paytm, Dunzo, Sellerapp, Gofrugal, GrowthFalcons, eSamudaay และ Goodbox ซึ่งอยู่ในขั้นตอนที่วางแผนบูรณาการร่วมกับ ONDC เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

วัตถุประสงค์ที่ตรงกัน ดึงดูดให้ Google เข้าร่วมการพัฒนา  

ที่ผ่านมาโทรศัพท์ระบบ Android นั้นครองใจผู้ใช้งานในอินเดียมาตลอด โดยข้อมูลจาก Statista ระบุในปี 20211 Android OS มีสัดส่วนใช้งานถึง 95.84 รองลงมาคือ iOS ของ Apple โดยมีส่วนแบ่งตลาด 3.1% โดยระบบปฏิบัติการ Android เพิ่มขึ้นมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ภายในสี่ปี เป็นผลให้ระบบปฏิบัติการ Google Mobile Service (GMS) นั้นถูกใช้งานมากกว่าระบบอื่น ๆ 

โดยหนึ่งในบริการจาก GMS ที่สำคัญต่อผู้ใช้งานโทรศัพท์ระบบ Android นั้นคือ Google Pay ซึ่ง Google Pay เป็นบริการธุรกรรมแบบออนไลน์ ที่จะสามารถนำบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตมาผูกกับ Google Account และเมื่อต้องการชำระเงินก็สามารถเลือกจ่ายด้วย Google Pay ได้ทันที รวมถึง Google ยังได้เพิ่มขีดความสามารถในการชำระเงินใหม่ด้วยระบบ Near Field Communication (NFC) ที่จะช่วยให้การชำระเงินง่ายขึ้นเพียงแตะหรือสัมผัสโทรศัพท์ กับเครื่องอ่านเพียงเท่านั้น 

ด้วยเหตุนี้ Google จึงตัดสินใจที่เข้าเจรจากับรัฐบาลของอินเดียเพื่อที่จะขอเข้าร่วมในโครงการ ONDC โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อที่จะมุ่งเน้นไปที่การทำให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางนั้นสามารถใช้ประโยชน์จากดิจิทัล เพื่อเป็นขั้นกว่าของการค้นหาและการชำระเงินด้วย Google Pay

T. Koshy ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ONDC กล่าวว่า Google นั้นเป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในระหว่างการเจรจาหารือเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว และอาจจะมีแนวโน้มที่ดีเพราะธุรกิจการชำระเงินจาก Google นั้นสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลอินเดียซึ่งเกี่ยวกับการทำธุรกรรมแบบ Unified Payment Interface (UPI) 

Paytm ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคพาร์ทเนอร์ใน ONDC ได้กล่าวว่า บนแพลตฟอร์มจะมีการแสดงรายการที่เกี่ยวข้องกับผลการค้นหา โดยเป้าหมายของรัฐบาลคือการปรับระดับของการแข่งขันในโลกธุรกิจ ด้วยการลดทุนให้ผู้ขายที่มีความต้องการจะลงสินค้าในโลกออนไลน์ แต่ในส่วนการจัดลำดับความสำคัญของสินค้าในแพลตฟอร์มนั้นยังคงเป็นที่กังวลต่อไปว่าจะสามารถทำได้อย่างไร

“กลไกของแพลตฟอร์มธุรกิจออนไลน์คือผู้ที่มียอดขายสูงสุด หรือมีคะแนนรีวิวที่มากที่สุด จะถูกจัดให้อยู่เป็นลำดับของการค้นหาเสมอ ซึ่งจะขัดแย้งกับนโยบายการปรับระดับของการแข่งขันในโลกธุรกิจของอินเดีย” Mahesh Narayanan อดีตหัวหน้าธุรกิจโฆษณาบนมือถือของ Google กล่าวเสริม

นี่จึงที่น่าติตตามต่อไปว่าความร่วมมือขนาดใหญ่จากหลายภาคส่วนในอินเดียจะสามารถรักษาสมดุลในการทำข้อตกลงร่วมกับนักลงทุนและธุรกิจจากต่างชาติ และบรรลุวัตถุประสงค์และส่งเสริมศักยภาพของระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซอินเดียได้หรือไม่ 

อ้างอิง   Business World  ,  Pymnts  ,  EconomicTimes  ,  TimesofIndia

AndroidAuthority  ,  Google Pay Help  ,  Inc42


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

IMD จัดอันดับ Digital Competitiveness ปีนี้ ไทยร่วงจาก 35 เป็น 37 ถ้าอยากขยับขึ้น...ต้องแก้ไขตรงไหนก่อน?

ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ประจำปี 2567 โดย IMD World Competitiveness Center ไทยได้อันดับ 37 ขยับลงจากปีก่อน 2 อันดับ (35) แล้วจะทำอย่างไรให้ไทยได้อยู่ในอัน...

Responsive image

สู่ Siri ยุคใหม่ ! เผย Apple เตรียมเปิดตัว LLM Siri ในปี 2026 ท้าแข่ง ChatGPT โดยเฉพาะ

OpenAI ถือเป็นหนึ่งในบิ๊กเทคฯ ยักษ์ใหญ่ที่มีความก้าวกระโดดด้านการพัฒนา AI หลังจากสร้างกระแสด้วยแชทบอท ChatGPT ไปเมื่อปลายปี 2022 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งมีดีลกับ Apple ในการนำ Cha...

Responsive image

American Airlines เปิดตัวระบบจัดการคิวอัจฉริยะ เทคโนโลยีเสียงเตือนสองระดับ ปิดเกมสายแซงคิวขึ้นเครื่อง

เคยเจอไหม? คนแซงคิวขึ้นเครื่องจนวุ่นวายที่ประตูทางขึ้น หลังจากนี้จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อ American Airlines แก้ปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยีเสียงเตือนอัจฉริยะ ที่จะจับทุกความพยายามแอบขึ้นเครื...