จบลงไปแล้วกับงาน “บางกอกไพรด์ 2023” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเฉลิมฉลอง Pride Month ปีที่ 2 ของไทยที่ยิ่งใหญ่ ณ ใจกลางสยาม เพื่อตอกย้ำและสร้างการยอมรับความหลากหลายทางเพศในสังคมไทย และเป็นอีกปีที่กระแส Pride Month บนโลกโซเชียถูกพูดถึงมากขึ้น ตามการยอมรับของสังคมที่ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้ทำการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการพูดถึงเรื่องราวของเดือนแห่งความหลากหลาย รวมถึง บางกอกไพรด์ 2023 ที่ถูกจัดขึ้นในเดือนนี้เช่นกันโดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 1 - 11 มิถุนายน 2566 ผ่านเครื่องมือ Social Listening อย่าง ZOCIAL EYE พบว่า
การพูดถึงเกี่ยวกับการเฉลิมฉลองและความหลากหลายนั้นบนโซเชียลมีมากกว่า 38,547 ข้อความ และเพียงไม่กี่วันมีจำนวนเอ็นเกจเมนต์มากกว่า 26,993,306 เอ็นเกจเมนต์ ถือว่าได้รับความสนใจและถูกพูดถึงมากยิ่งขึ้นบนโซเชียลมีเดีย
อีกทั้งข้อความส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบน Facebook มากที่สุด (39%) ตามมาด้วย Twitter (35%) Instagram (19%) และอื่นๆ (7%) ส่วนใหญ่เป็นการโพสต์รูปภาพงานเดินขบวนพาเหรดผ่านแฮชแท็ก #BangkokPride2023 และ #บางกอกไพรด์2023 ทั้งจากเหล่าคนดัง ดารา นักร้อง นักแสดงต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีกระแสของการพูดถึง #สมรสเท่าเทียม ที่ถูกพูดถึงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จากการที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งผลักดันเรื่องการสมรสเท่าเทียม ก็มาร่วมเดินขบวนพาเหรดและมีการพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ยิ่งทำให้มีกระแสการพูดถึงในวงกว้างมากขึ้น สร้างการรับรู้และความเข้าใจในเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้น
แน่นอนเมื่อพูดถึงงานบางกอกไพรด์ หรืองานเดินขบวนพาเหรดสิ่งที่จะถูกพูดถึงหรือจับตามองคือเรื่องของ การสร้างสรรค์ความคิดในเรื่องของการแต่งตัว การรังสรรค์ชุดต่างๆ ในการมาร่วมเดินขบวน อีกทั้งยังรวมไปถึงคำพูด หรือคำคมต่างๆ ที่แสดงถึงพลังแห่งความหลากหลายนี้ ซึ่งในปีนี้ก็ยังคงมีเรื่องของความสร้างสรรค์ต่างๆ มาให้เราได้เห็นจนเป็นกระแสในหลายๆ โพสต์บนโซเชียลมีเดีย อย่างที่เด่นๆ จนไม่พูดถึงไม่ได้คือเสื้อของคุณพิธา ที่ใส่มาร่วมเดินขบวน ที่ชาวโซเซียลต่างแคปเจอร์แล้วนำมาโพสต์ถึงความสวยงามของเสื้อ หรืออีกหนึ่งคนอย่างคุณช่อ พรรณิการ์ อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ รังสรรค์มาในชุด Amy Winehouse นักร้องดังระดับตำนานจนคนบนโซเชียลต่างชื่นชมในความปังครั้งนี้
การพูดถึงนั้นไม่ถูกพูดถึงแค่กับคนเท่านั้น ยังถูกพูดถึงไปยังสัตว์เลี้ยงที่มาร่วมงานบางกอกไพรด์ครั้งนี้ อย่างไวรัลที่เราได้เห็นกัน หญิงโม น้องหมาชิวาว่าสายแฟ ที่เกิดไวรัลจากการที่คุณศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยอุ้มน้องถ่ายรูปแล้วน้องทำตาหวานจนทำให้คนบนโซเชียลพูดถึงและเกิดเป็นไวรัล สะท้อนให้เห็นถึงความเปิดกว้างที่ไม่ใช่เฉพาะแค่กับมนุษย์ ยังเปิดกว้างไปถึงสัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆ ที่ร่วมโลกกับเราด้วยนั่นเอง
หลังจากที่สภารับหลักการสมรสเท่าเทียมในวาระหนึ่งไปแล้วเมื่อ 15 มิถุนายน 2565 จนเกิดเป็นการพูดถึงและจับตามองเป็นอย่างมากเมื่อปีที่ผ่านมา และยังมีการพูดถึงและจับตามองเรื่อยมา แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเมือง และความซับซ้อนในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่นำมาสู่สถานการณ์สภาล่มบ่อยครั้ง ส่งผลให้ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม รวมถึงร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตเองก็อาจไม่ถูกพิจารณาจบครบทุกกระบวนการได้ภายใต้สภาชุดนี้ ทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวอาจต้องตกไป อย่างไรก็ตามในปีนี้สมรสเท่าเทียมกลับมามีความหวังอีกครั้งจากที่มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ และมีการเปลี่ยนชุดสภาบวกกับการยื่นยันจากเสียงของพรรคที่มีเสียงข้างมากจากประชาชนว่าจะผลักดันสมรสเท่าเทียมแน่นอน ยิ่งตอกย้ำความสำเร็จของการเรียกร้องความเท่าเทียมที่แท้จริง
เมื่อก้าวเข้าเดือนมิถุนายน เราจะเห็นหลายๆ องค์กรและแบรนด์เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ เปลี่ยนรูปโลโก้เป็นสีรุ้ง หรือทำการตลาดที่สินค้ามีลวดลายสีรุ้งประดับ เพื่อที่จะต้อนรับเทศกาล Pride Month หรือเดือนแห่งการเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศนี้ แต่ถึงอย่างนั้นองค์กรหรือแบรนด์เหล่านี้ก็ยังคงถูกตั้งคำถามจากคนบนโซเชียลว่าการทำแคมเปญสีรุ้งในเดือนนี้นั้น เป็นการใช้พื้นที่ขององค์กรส่งเสียงเพื่อเข้าใจเพื่อนมนุษย์ผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริงหรือเป็นเพียงแค่การเกาะกระแส
ผู้วิเคราะห์ข้อมูล: ภานุพันธ์ มะแอ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด