บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด (YDM Thailand) ในเครือ Yello Digital Marketing (YDM) ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการด้าน Digital Marketing Solution ระดับแนวหน้าของเมืองไทย โดย คุณธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ CEO บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด จัดงานแถลงข่าว “จับมือสู่ศักราชใหม่ของการตลาดดิจิทัล” (Together to the New Era of Digital Marketing) เพื่อเปิดตัว บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด อย่างเป็นทางการ พร้อมแนะนำ 7 บริษัทในเครือ รองรับการขยายการเติบโตธุรกิจทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่
รวมทั้งแนะนำ 3 ผู้ร่วมทุนใหม่ ได้แก่
ซึ่ง 3 ผู้ร่วมทุนรายใหม่ ระบุว่ามีเป้าหมายร่วมกัน คือ การก้าวสู่ความเป็นกลุ่มบริษัท Digital Marketing อันดับ 1 ของเมืองไทย และเตรียมนำบริษัทฯ เข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี พ.ศ. 2563
คุณธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร (CEO) บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะก้าวไปข้างหน้า ภายใต้ชื่อ YDM Thailand ด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งในฐานะเป็นกลุ่มบริษัท Digital Marketing ระดับแนวหน้าของเมืองไทยที่ให้บริการด้าน ฏรครบวงจร ภายใต้แนวคิด “DRIVE.CONNECT.GROW” จึงพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเป็นฟันเฟืองที่สำคัญให้กับเศรษฐกิจดิจิทัล โดยจะเชื่อมโยงศักยภาพของทุกบริษัทในเครือให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนทั้งบริษัท ลูกค้า พาร์ทเนอร์ และนักลงทุน
YDM Thailand คือ กลุ่มบริษัททางด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ที่ทำงานด้วยกันในลักษณะของ Ecosystem คือ แต่ละบริษัทต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกันและร่วมมือกันทำให้ลูกค้าประสบความสำเร็จสูงสุดในการทำธุรกิจ โดย YDM Thailand นั้นจะโฟกัสในธุรกิจดิจิทัล 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ Digital Marketing Consulting, Digital Marketing Solutions, Digital Media และ Digital Marketing Platform
CEO ของ YDM Thailand ยังกล่าวต่อว่า การเปิดตัว YDM Thailand อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ยังมาพร้อมกับการจับมือ 3 ผู้ร่วมทุนใหม่ ได้แก่ Intouch, ธนาคารออมสิน และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อก้าวสู่ “The New Era of Digital Marketing” ที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นตัวขับเคลื่อน โดยเงินทุนที่ได้จากการร่วมทุนครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เติบโตกว่า 100% ทุกปีแล้ว ส่วนหนึ่งยังนำมาใช้ขยายการลงทุนต่อยอดธุรกิจใหม่
ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้จะเปิดแพลตฟอร์มใหม่ๆ ออกมาเขย่าวงการดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งอีกอย่างน้อย 4 แพลตฟอร์ม รวมถึงจะมีการเปิดตัวบริษัทใหม่ๆ พร้อมทีมผู้บริหารที่เก่งกาจเข้ามาเสริมทัพธุรกิจในเครือมากขึ้น และจากการที่มีผู้ร่วมทุนเป็น YDM ประเทศเกาหลีใต้ที่เป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นนั่นเอง
ส่วนคุณคิมห์ สิริทวีชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารการลงทุน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ InVent by Intouch กล่าวถึงการร่วมทุนในครั้งนี้ว่า เราเล็งเห็นศักยภาพและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ YDM Thailand ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Digital Marketing และ Advertising Technology และยังประกอบธุรกิจการตลาดดิจิทัลอย่างครบวงจร มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งจาก YDM มีทีมงานและบริษัทในเครือที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ รวมทั้งผู้ก่อตั้งที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำธุรกิจให้เติบโต และมีแนวคิดการพัฒนาธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายของอินทัช จึงทำให้เราตัดสินใจร่วมทุนผ่านทางโครงการ InVent เป็นมูลค่า 30 ล้านบาท
ขณะที่คุณพิเชฐ ธรรมวิภาค รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ กล่าวถึงการร่วมลงทุนใน YDM Thailand ว่า กองทุน SMEs Private Equity Trust Fund โดยธนาคารออมสินร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้อนุมัติวงเงินลงทุนมูลค่ารวม 60 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้ผู้ประกอบการดิจิทัลไทยสามารถแข่งขันได้ และเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อสภาพโดยรวมของตลาด Digital Advertising ในประเทศไทย
คุณชัชนี จันทจรูญพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารเงินลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ทั้ง SMEs และ Startup เป็นหนึ่งกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสู่ยุคใหม่ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญในการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน โดยได้ส่งเสริมธุรกิจทุกขนาดเติบโตด้วยคุณภาพ ขยายไปยังกลุ่มผู้ประกอบการ Startup และ SME เพื่อสร้าง Ecosystem อย่างครบวงจร โดยเชื่อว่าการสนับสนุนจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ SME ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
ในส่วนของภาพรวมการตลาดดิจิทัลในมุมมองของ CEO YDM Thailand ในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดในแวดวงการตลาดดิจิทัลมองว่าดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้สื่อดิจิทัลโดดเด่นและมีงบโฆษณาสูงขึ้นเรื่อยๆ นั้น เพราะมีเทคโนโลยีเป็นตัวผลักดัน โดยเฉพาะในเรื่องของ Big Data ทำให้สื่อดิจิทัลมีประสิทธิภาพสูง Target ได้อย่างแม่นยำ วัดผลได้ ส่งผลให้โฆษณาดิจิทัลมี ROI ที่สูงมาก
ปัจจุบันมูลค่าเม็ดเงินที่แบรนด์ต่าง ๆ ใช้จ่ายผ่านสื่อดิจิทัลในประเทศไทยในปี 2560 มีมูลค่า 12,402 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ แต่คิดเป็นสัดส่วนแค่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการโฆษณาทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งถือว่ามูลค่าโฆษณาในสื่อดิจิทัลในไทยนั้นยังมีสัดส่วนที่น้อยมาก และยังมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นอีกมากในอนาคต เช่น เดียวกับประเทศอื่นๆ ในโลก เช่น จีนปัจจุบันมีสัดส่วนโฆษณาดิจิทัลประมาณ 57 เปอร์เซ็นต์, สหราชอาณาจักร 60 เปอร์เซ็นต์ และอเมริกา 30 เปอร์เซ็นต์
จากข้อมูลของสมาคมโฆษณาดิจิทัล (DAAT) คาดการณ์ว่าในปี 2561 ตลาดโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทยจะเติบโตขึ้นอีก 16 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่า 14,330 ล้านบาท
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด