จง ซานซาน ขายน้ำดื่มจนเป็นเศรษฐีเบอร์หนึ่งของจีน รวยกว่านักลงทุนอย่าง Warren Buffett แล้ว

เป็นที่ทราบกันดีว่า Warren Buffett เป็นไอคอนแห่งโลกการลงทุน และหนึ่งในเศรษฐีระดับโลก แต่จากการจัดอันดับ Bloomberg Billionaires Index ในครั้งล่าสุดนี้ เขาได้ถูกเศรษฐีชาวจีนแย่งตำแหน่งอันดับที่ 6 ไป และในปีนี้ หลักทรัพย์สินของเศรษฐีชาวจีน ได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์แม้จะอยู่ในช่วงการระบาดของเชื้อโควิด-19 ก็ตาม

Zhong Shanshan ผู้เป็นผู้ก่อตั้งและประธานแห่ง Nongfu Spring บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในจีน ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของปี 2021 มูลค่าหุ้นในบริษัทของเขาได้เพิ่มขึ้นอีกถึง 18 เปอร์เซ็นต์ นอกจากธุรกิจเครื่องดื่ม เขายังเป็นเจ้าของบริษัทผลิตและวิจัยเวชภัณฑ์ยา Beijing Wantai ซึ่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยหุ้นของบริษัทดังกล่าว ได้มีมูลค่าสูงขึ้นถึง 2,500 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่เริ่มเปิด IPO

ในวงการธุรกิจ Zhong Shanshan ได้รับฉายาว่าเป็น “หมาป่าเดียวดาย” เนื่องมาจากลักษณะการทำธุรกิจของเขา ที่มักจะหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกลุ่มธุรกิจและการเมือง ธุรกิจของเขา ยังมีส่วนในการสร้างเศรษฐีในประเทศจีนอีกหลายสิบคน โดยเฉพาะคนในครอบครัวที่มีส่วนในการถือหุ้นในธุรกิจของเขา รวมไปถึงเครือญาติและเหล่าพนักงานในบริษัทอีกด้วย

นอกจากการเบียดตำแหน่งของ Warren Buffett แล้ว Zhong ยังได้ขึ้นเป็นบุคคลที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในทวีปเอเชีย แซงหน้าผู้ถือตำแหน่งเก่าอย่าง Mukesh Ambani เศรษฐีชาวอินเดีย 

นักลงทุนมากมายได้เริ่มให้ความสนใจกับการลงทุนในประเทศจีน หลังพวกเขากำลังเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบที่ก่อโดยการระบาดของโรคโควิด-19 นักวิเคราะห์หลายสำนักได้เล็งเห็นและยังคงจับตามองถึงโอกาสเติบโตในบริษัท Nongfu ต่อไป

สำหรับการจัดอันดับโลก ในห้าอันดับแรกยังคงเป็น Jeff Bezos, Elon Musk, Bill Gates, Bernard Arnault และ Mark Zuckerberg ตามลำดับ ซึ่งเศรษฐีทั้งห้าคนนี้ ล้วนมีทรัพย์สินมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ทั้งสิ้น ซึ่งในปัจจุบัน Zhong Shanshan ผู้ถือครองทรัพย์สินกว่า 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์อาจจะสามารถใช้เวลาอีกไม่กี่ปี เพื่อเข้าสู่กลุ่มเศรษฐีแสนล้านได้

*Jack Ma ได้ตกลงไปอยู่ในอันดับ 25 หลังจากเกิดปัญหากับทางการของจีน จากเรื่องการเปิด IPO ของ Ant Group ได้ถูกขัดขวาง ซึ่งทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขา ตกลงไปกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์

อ้างอิงจาก Bloomberg