ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขุมพลังแห่งการเติบโตสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล | Techsauce

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขุมพลังแห่งการเติบโตสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ได้กลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ผู้บริหารที่ต้องการความสำเร็จในยุคดิจิทัลจำเป็นต้องเข้าใจและนำ AI มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งเทคโนโลยี AI เป็นขุมพลังใหม่ที่สามารถยกระดับธุรกิจสู่ความสำเร็จด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 

ตัวอย่างในต่างประเทศเช่น Amazon ใช้ AI ในการจัดการคลังสินค้าและขนส่ง ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลการสั่งซื้อและคาดการณ์ความต้องการสินค้า ทำให้ลดสินค้าคงคลังและต้นทุนการจัดเก็บได้ ส่วน UPS ใช้ AI วางแผนเส้นทางขนส่งให้เหมาะสมที่สุด ลดระยะทางและประหยัดเชื้อเพลิง

ในประเทศไทย Ztrus ให้บริการเทคโนโลยี Optical Character Recognition (OCR) และ Lightwork ให้บริการ Robotic Process Automation (RPA) ในการตรวจสอบความถูกต้องและจัดการข้อมูลเอกสารแบบอัตโนมัติ ช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

2. สร้างนวัตกรรมใหม่ 

ตัวอย่างเช่น Tesla ผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่มี AI ขับเคลื่อนอย่างอัตโนมัติอย่างปลอดภัย โดยเรียนรู้และปรับตัวกับสภาพถนนและการจราจรได้เอง หรือ Google DeepMind ที่พัฒนา AI อย่าง AlphaFold ที่ทำนายโครงสร้างโปรตีนได้แม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้วงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ชีวภาพเข้าใจโรคและพัฒนายาได้รวดเร็วขึ้นอย่างมาก ขณะที่ Perceptra บริษัทสตาร์ทอัพของคนไทย นำ AI มาตรวจวินิจฉัยภาพเอกซเรย์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี

3. ปรับตัวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด 

ตัวอย่างเช่น Netflix ใช้ AI วิเคราะห์รสนิยมของผู้ชม และแนะนำภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่ตรงใจ ทั้งเนื้อหาที่มีอยู่และที่ Netflix ผลิตเอง ด้วยระบบ AI ที่เรียนรู้ความชอบของลูกค้าแต่ละราย ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและรักษาฐานสมาชิก

Spotify ก็ใช้ AI คล้ายกัน ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการฟังเพลงและสร้างเพลย์ลิสต์แนะนำเพลงใหม่ๆ ให้ตรงใจผู้ฟังแต่ละคนในทุกสัปดาห์ ผ่านระบบ Discover Weekly

ส่วน Walmart ใช้ AI คาดการณ์ความต้องการสินค้าของลูกค้าในแต่ละสาขา ทำให้จัดเตรียมสินค้าได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหรือเหตุการณ์พิเศษ ช่วยจัดการสินค้าคงคลังได้มีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียจากสินค้าค้างสต๊อก ส่วน Wisesight บริษัท AI สัญชาติไทยให้บริการการวิเคราะห์เทรนด์ในโซเชียลมีเดียด้วยเครื่องมือ AI 

4. ยกระดับขีดความสามารถของบุคลากร 

IBM เป็นตัวอย่างที่ใช้ AI ช่วยพนักงานวิเคราะห์ข้อมูลและจัดทำรายงาน ทำให้มีเวลาไปออกแบบนวัตกรรมและวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจได้มากขึ้น ส่วน PwC ก็นำ AI มาช่วยในงานตรวจสอบบัญชีและวิเคราะห์ข้อมูลการเงิน ลดเวลาที่ใช้ไปและเพิ่มความแม่นยำ ทำให้นักบัญชีโฟกัสไปที่การให้คำปรึกษาด้านการเงินและการวางแผนธุรกิจได้เต็มที่

DHL อีกหนึ่งตัวอย่างที่ประยุกต์ใช้ AI ในการจัดการโลจิสติกส์และการขนส่ง ทำให้พนักงานสามารถวางแผนเส้นทาง ติดตามการขนส่ง และคาดการณ์ความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การบริการลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและลดความล่าช้าในการจัดส่ง

5. ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมให้ก้าวหน้า 

ระบบการศึกษาก็เช่นกัน มีการใช้ AI มาพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น การสร้างแอปพลิเคชันการเรียนรู้ที่ปรับเนื้อหาและวิธีการสอนให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน และการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลการเรียนรู้เพื่อปรับปรุงหลักสูตรและกระบวนการสอน

สรุปแล้ว ผู้บริหารธุรกิจจำเป็นต้องนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สร้างนวัตกรรม ปรับตัวทันกับความเปลี่ยนแปลง รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาของบุคลากรและสังคมโดยรวม AI จึงเป็นขุมพลังสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืนในยุคดิจิทัลนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การสร้างสรรค์นวัตกรรม การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด การเสริมศักยภาพของบุคลากร ไปจนถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม

ดังนั้น ผู้บริหารและองค์กรที่ต้องการความสำเร็จในโลกธุรกิจยุคใหม่ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการศึกษา ทำความเข้าใจ และลงทุนในเทคโนโลยี AI เพื่อการประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในแง่ของการดำเนินธุรกิจ การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าและสังคม

การปรับตัวและการนำเทคโนโลยีอย่าง AI มาใช้งานอย่างเหมาะสม จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ ใครที่สามารถเข้าใจและใช้ประโยชน์จาก AI ได้มากที่สุด ก็จะเป็นผู้ที่ได้เปรียบและก้าวนำในเศรษฐกิจยุคดิจิทัลนี้อย่างแน่นอน

เกี่ยวกับผู้เขียน 

ดร.ชาญวิทย์ บุญช่วย ดำรงตำแหน่งอุปนายกสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIEAT) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ไซแนปส์ (ประเทศไทย) จำกัด ดร.ชาญวิทย์เชี่ยวชาญด้านการประยุกต์ใช้ AI ในภาคธุรกิจ การพัฒนาธุรกิจใหม่ร่วมกับ AI รวมถึงการวางกลยุทธ์และปรับเปลี่ยนองค์กรด้วยเทคโนโลยี AI


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ETDA ก้าวสู่ปีที่ 14 โชว์แผนใหญ่ 4 ปี ชูธง “ก้าวที่มั่นคง เพื่อชีวิตดิจิทัลที่มั่นใจ”

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) พร้อมก้าวสู่ปีที่ 14 แห่งการขับเคลื่อนอนาคตธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ...

Responsive image

ททท. ผนึกกำลังพันธมิตร ชู Travel Tech รับมือความท้าทาย ปรับโฉมท่องเที่ยวไทยสู่สากล

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตร เปิดเวทีขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยผ่านโครงการประกวดผู้ประกอบการ Travel Tech Startup 2024 เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ Travel Tech Startup พ...

Responsive image

เงินติดล้อดัน InsurTech ปั้น TIDLOR Ecosystem ผสานนายหน้าประกันออฟไลน์-ออนไลน์

หลังบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) ประกาศทรานฟอร์มเป็น ติดล้อ โฮลดิ้งส์ ซึ่งในขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นไปตามกำหนดการที่วางไว้ โดยคา...