Buy Now, Pay Later (BNPL) บริการชำระเงินแบบซื้อก่อน จ่ายทีหลัง ที่ได้รับความสนใจทั้งในฝั่งผู้บริโภคและธุรกิจรีเทล โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม แฟชั่น บิวตี้ และไลฟ์สไตล์ และเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าธุรกิจ BNPL มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า ปัจจุบันมีผู้ให้บริการ BNPL ที่หลากหลายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหนึ่งในผู้บริการ BNPL ที่เป็นผู้นำในภูมิภาค คือ Atome (อาโตมี่)
Atome แบรนด์ผู้นำด้านการให้บริการ Buy Now Pay Later ช้อปก่อน จ่ายทีหลัง ที่ให้ลูกค้าสามารถแบ่งจ่าย 3 ครั้งง่ายๆ ดอกเบี้ย 0% ซึ่ง Atome เป็นแบรนด์จากสิงคโปร์ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2019 และขยายบริการไปยังหลายประเทศทั่วเอเชีย พาร์ทเนอร์กับแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มบิวตี้ แฟชั่น และไลฟ์สไตล์กว่า 12,000 แบรนด์ บริษัท Atome ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Advance Intelligence Group ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคจากสิงคโปร์ ที่ขึ้นแท่นยูนิคอร์นมีมูลค่าถึง 2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. หรือประมาณ 70,000 ล้านบาท และโด่งดังในด้านเทคโนโลยี AI สำหรับอุตสาหกรรมการธนาคาร และการเงิน ปัจจุบัน Advance Intelligence Group มีการขยายบริการกว่า 14 ประเทศ
เมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทน้องใหม่ Atome ได้ขยายบริการมายังประเทศไทยนำทัพโดยคุณแน่น ภูมิพงษ์ ตันเจริญผล เข้ารับหน้าที่ดูแลการดำเนินงานของแบรนด์ในตลาดประเทศไทย โดยคุณแน่นได้กล่าวว่า ตลาดสำหรับ Buy Now Pay Later มีศักยภาพสูง และคาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นการบริการที่ตอบโจทย์ทั้งฝั่งลูกค้า และร้านค้า หรือรีเทล นอกจากนี้คุณแน่นยังแชร์วิสัยทัศน์ว่า Atome จะเป็นแบรนด์ชั้นนำที่ให้ความรู้แก่กลุ่มลูกค้า และบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับการใช้ Buy Now Pay Later เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และไม่ก่อให้เกิดหนี้เสีย และยังเกริ่นอีกว่า Atome ยังมีการวางแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย
สำหรับการบริการ Buy Now Pay Later นั้นจุดเด่นของ Atome คือ แบรนด์แรกในไทยที่ให้บริการ Buy Now Pay Later ผ่านช่องทางหน้าร้าน (offline) และการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ ตั้งแต่ Atome เปิดบริการในประเทศไทยยอดจำนวนผู้ใช้แอป และยอดการขายรายเดือนได้เติบโตกว่า 60 เท่า และยังช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือร้านของพาร์ทเนอร์อีกด้วย
แบรนด์พาร์ทเนอร์สำคัญในประเทศไทย เช่น The Body Shop, EVEANDBOY, Konvy, Sephora, Aldo, Anello, Calvin Klein, Charles & Keith, GQ, Guess, H&M, MLB, Pandora, Sabina, Shein, Agoda และ Samsung Atome ยังมีแผนพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบโซลูชันการชำระเงินในการช่วยแบรนด์ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย พร้อมส่งเสริมการขายของแบรนด์ด้วยแคมเปญด้านการตลาด อาทิ การดึงศิลปินเกาหลีชื่อดังอย่าง ASTRO มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อโปรโมทแคมเปญ Own The Extraordinary เมื่อปลายปีที่แล้ว และในปีนี้ Atome ได้ส่งแคมเปญกลางปี Own Your Expression เอาใจลูกค้าต่อเนื่องสำหรับเทศกาลช้อปยิ่งใหญ่กลางปี รวมถึงการทำโปรโมชัน และเสนอส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าเมื่อซื้อสินค้าของแบรนด์ด้วยบริการ BNPL ของ Atome ตลอดทั้งปี ซึ่งแบรนด์เผยว่า พาร์ทเนอร์ที่ใช้บริการ BNPL ของ Atome สามารถเพิ่มยอดซื้อสินค้าในแต่ละครั้งเฉลี่ยมากขึ้นถึง 30% รวมถึงสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17%
Atome อธิบายว่าการช้อปแบบ Buy Now Pay Later หรือ ช้อปก่อนจ่ายทีหลัง คือ รูปแบบบริการชำระเงินที่ให้นักช้อปสามารถซื้อสินค้าด้วยการแบ่งจ่ายสินค้าในระยะเวลาที่กำหนด ส่วนค่าธรรมเนียมจะต่างกันขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ ส่วนทาง Atome มีการให้แบ่งจ่าย 3 ครั้งภายในระยะเวลา 3 เดือน และไม่มีดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมแอบแฝง ทั้งนี้ Atome ยังให้บริการ BNPL ผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์ เพียงแค่มีสมาร์ทโฟน และบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ BNPL ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มนักช้อปรุ่นใหม่ ที่ต้องยอมรับว่าธุรกิจ BNPL ได้เข้ามาตอบโจทย์วิถีการช้อปในยุคดิจิทัล ที่ทุกคนต่างมีความต้องการในการซื้อสินค้า และมองหาทางเลือกการชำระเงินที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตน
เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความต้องการในการมีทางเลือกการชำระเงิน ส่งผลให้แบรนด์ต้องปรับกลยุทธ์ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ การเพิ่มทางเลือกการชำระเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม อาจเป็นทางออกให้ธุรกิจรีเทลในยุคปัจจุบัน
ปัจจุบันมีแบรนด์ค้าปลีกหลายแห่งที่ผสานการชำระเงินแบบ BNPL ผ่านทางแอป Atome เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้ลูกค้าสามารถแบ่งชำระสินค้าได้ทั้งหน้าร้าน และช่องทางออนไลน์ ซึ่งเมื่อลูกค้าสามารถแบ่งชำระยอดสินค้า โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเต็มจำนวนตั้งแต่ครั้งแรก ลูกค้าก็สามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่าย และแบรนด์ก็สามารถเพิ่มยอดใช้จ่ายต่อบิลของลูกค้าในแต่ละครั้งได้มากขึ้น (Basket size) นอกจากนี้ Atome ยังช่วยให้แบรนด์สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ ที่ไม่เคยซื้อสินค้าของแบรนด์มาก่อนจากการผสานบริการ BNPL เนื่องจากอาจเป็นเพราะสินค้าราคาสูงเกินกว่าที่จะจ่ายในครั้งเดียว หรือกำลังสะสมเงินให้ครบเพื่อให้สามารถชำระเต็มจำนวนได้ โดยลูกค้ากลุ่มนี้อาจเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ถือบัตรเครดิต อาทิ พนักงานพาร์ทไทม์ หรือ พนักงานอิสระ
การเติบโตของธุรกิจ BNPL นับว่าน่าตื่นเต้น และเป็นที่จับตามอง แม้ปัจุจบันมูลค่า BNPL transaction จะคิดเป็นเพียง 2% ของ e-commerce transactions แต่จากรายงานของ FIS World Pay 2022 เผยว่าตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปี 2025 โซลูชัน BNPL จะเป็นทรนด์วิธีการชำระเงินที่เติบโตเร็วที่สุดทั้งช่องทางหน้าร้าน และออนไลน์ ซึ่งถือเป็นการคาดการณ์ที่น่าตื่นเต้น เราจะได้เห็นการเติบโตของเทรนด์ BNPL ที่จะเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในการซื้อสินค้าของผู้บริโภครวมถึงการเติบโของธุรกิจรีเทลในประเทศไทยเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด