บีไอจี มั่นใจออกซิเจนทางการแพทย์ไม่ขาด พร้อมรองรับโรงพยาบาลสนามจากโควิดรอบใหม่ | Techsauce

บีไอจี มั่นใจออกซิเจนทางการแพทย์ไม่ขาด พร้อมรองรับโรงพยาบาลสนามจากโควิดรอบใหม่

บีไอจี มั่นใจ ออกซิเจน เพียงพอ พร้อมรองรับความต้องการทางการแพทย์ในประเทศ หลังประเมินความต้องการสูงขึ้นในช่วงแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ล่าสุดจะเพิ่มอีก 20% หรือ จากปกติอยู่ที่ระดับ 300-350 ตัน/วัน เพิ่มขึ้นเป็น 400 ตัน/วัน เตรียมเปิดโรงงานแยกอากาศแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 1,150 ตัน/วัน

บีไอจี

คุณปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ บีไอจี ในฐานะผู้ผลิตออกซิเจนรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่หลายประเทศยังคงประสบปัญหาผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไทย ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันอยู่ในอัตราที่สูง ทำให้หลายภาคส่วนเริ่มมีความกังวลต่อความเพียงพอของออกซิเจนทางการแพทย์นั้น บีไอจีขอให้ความมั่นใจว่าสามารถผลิตออกซิเจนเพื่อรองรับระบบสาธารณสุขไทยได้อย่างเนื่องและเพียงพอในระยะยาว เนื่องจากในขณะนี้บีไอจีมีกำลังการผลิตออกซิเจนสูงถึง 1,000 ตัน/วัน ขณะที่ความต้องการใช้ในภาวะปกติ อยู่ที่ 300-350 ตัน/วัน แต่ด้วยสถานการณ์ที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ต่อวันมากกว่าปกติ โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 20% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 400 ตัน/วัน

บีไอจี

การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทยเวลานี้ ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน และจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เข้ารักษาในสถานพยาบาลทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้น ออกซิเจนทางการแพทย์คือหัวใจของการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกรณีที่ผู้ป่วยมีการติดเชื้อทางปอดและอยู่ในขั้นวิกฤติ บีไอจีมีแผนเตรียมพร้อมเพื่อรองรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นไว้แล้ว และบีไอจีขอให้ความมั่นใจว่าปริมาณออกซิเจนทางการแพทย์สามารถรองรับความต้องการของโรงพยาบาลต่าง  ทั่วประเทศและโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยขั้นวิกฤติยังคงพอเพียงไม่ว่าในสถานการณ์ใดก็ตาม คุณปิยบุตรกล่าว

ทั้งนี้ บีไอจีได้เตรียมพร้อมการบริหารจัดการกำลังการผลิต การขนส่ง รวมถึงการสำรองออกซิเจนเหลวในถังเก็บสำรองที่อยู่พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ขนาดความจุมากกว่า 7,300 ตัน และในเดือนสิงหาคม 2564 ที่จะถึงนี้ จะมีการเปิดโรงงานแยกอากาศ (ASU) แห่งใหม่ ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตออกซิเจนเพิ่มมากขึ้นอีก 140 ตัน/วัน รวมเป็นเกือบ 1,150 ตัน/วัน  

จากสถานการณ์ขาดแคลนออกซิเจนในหลาย ๆ ประเทศนั้น อุปสรรคที่นอกเหนือจากปริมาณการผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ที่จำกัดแล้ว ยังมีสาเหตุมาจากการขนส่งออกซิเจนในรูปแบบสถานะก๊าซ (Gas) ทำให้ปริมาณการขนส่งในแต่ละครั้งมีความจำกัด ในขณะที่ประเทศไทย การขนส่งออกซิเจนเป็นในรูปแบบของเหลว (Liquid) และนำมาเปลี่ยนสภาพเป็นก๊าซ ณ โรงพยาบาล ซึ่งทำให้มีปริมาณออกซิเจนมากกว่าการขนส่งในรูปแบบก๊าซกว่า 800 เท่า  นอกจากนี้ หากมีความจำเป็นที่ต้องการใช้ออกซิเจนอย่างเร่งด่วน บีไอจีสามารถปรับเปลี่ยนระบบการแยกอากาศให้ผลิตออกซิเจนเพิ่มขึ้นโดยลดการผลิตไนโตรเจนลง รวมทั้ง การนำออกซิเจนจากภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีความบริสุทธิ์ด้วยมาตรฐานเดียวกันมาเสริมความต้องการออกซิเจนทางการแพทย์ได้อีกด้วย 

ทั้งหมดนี้ บีไอจีขอให้มั่นใจว่าปริมาณออกซิเจนทางการแพทย์เพื่อรองรับความต้องการของโรงพยาบาลต่าง  ทั่วประเทศ รวมทั้งโรงพยาบาลสนามที่กำลังเปิดใหม่ยังคงพอเพียงไม่ว่าในสถานการณ์ใดก็ตาม 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Brother เปิดตัว เครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ใหม่ ทุ่ม 40 ล้าน ตั้งเป้าโต 20% ภายในปี 68

Brother เดินหน้ารุกตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ในไทย เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ซีรีส์ใหม่ล่าสุดถึง 6 รุ่น ภายใต้คอนเซปต์ "Yes Tank"...

Responsive image

NITMX จับมือ UnionPay เชื่อมต่อ QR Code เปิดประตูการชำระเงินไร้รอยต่อนักท่องเที่ยว ไทย-จีน

NITMX ผู้ให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินแห่งชาติ ประกาศจับมือลงนามสัญญาการเชื่อมโยงการชำระเงินด้วย QR Code กับ กับ ยูเนี่ยนเพย์ หรือ UPI เปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการชำระเงิน...

Responsive image

เปิดมุมมองสองผู้บริหารหญิง บทบาทและทิศทางใหม่ สู่การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล

แม้ว่าวงการคริปโทเคอร์เรนซีจะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่บทบาทของผู้หญิงในอุตสาหกรรมนี้ยังคงมีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับผู้ชาย อย่างไรก็ตาม แนวโน้มกำลังเปลี่ยนแปลงไ...